สกู๊ปพิเศษ : รับผิดชอบไหวไหม?

ประเด็นร้อนแรงสำหรับวงการฟุตบอลในช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ในฟุตบอล “โตโยต้า ไทยลีก 2019” เมื่อช่วงหลังเล่นตัดสินกันแบบ “ท็อปฟอร์ม” เหลือเกิน ทั้งๆ ที่การแข่งขันเพิ่งจะผ่านมาแค่ 11 เกมเท่านั้น แต่แทบจะไม่มีนัดไหน ที่ไม่มีการพูดถึงการทำหน้าที่ผิดพลาดของบรรดาเชิ้ตดำเลย

ล่าสุดที่เข้าตามากๆคือ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี กับ “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่แพท สเตเดียม เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ถ้าพูดถึงรูปเกมและสกอร์ที่จบลงด้วยการเสมอกันไป 1-1 ต้องบอกว่าเป็นเกมที่สนุกมากๆ

แต่สิ่งที่ทำให้เกมนี้ไม่สนุกคือการตัดสินของผู้ตัดสิน อาคม เจริญสุข ในจังหวะสำคัญนาทีที่ 81 ซึ่ง เซร์คิโอ ซัวเรซ พาบอลเข้าไปในเขตโทษก่อนจะโดน วิศรุต อิ่มอุระ เตะขัดขาในเขตโทษ แต่ทว่าผู้ตัดสินที่อยู่ห่างจากเหตุการณ์เพียงแค่ 3-4 ก้าว กลับเลือกที่จะให้เป็นเพียรฟรีคิกนอกเขตโทษ

จังหวะนั้นมันทำให้เกมที่กำลังสนุกต้องชะงักไปทันที เพราะต่อเนื่องจากตรงนั้น ซัวเรซ ที่โมโหจากการไม่ได้จุดโทษ ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่อยู่จนปาลูกบอลไปใส่ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา แล้วโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป การท่าเรือเสียหายทั้งไม่ได้จุดโทษ แถมต้องเหลือผู้เล่น 10 คนอีก

Advertisement

ไม่จบแค่นั้น เพราะช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จังหวะที่แบงค็อกสวนขึ้นมาหวังทำประตู แต่กลับโดนสกัดล้ม ซึ่งควรเป็นลูกฟาล์วบวกใบแดงได้เลย แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร แถมจังหวะสวนกลับของการท่าเรือ ยังให้ฟาล์วอีก สร้างความไม่พอใจต่อนักเตะแข้งเทพ ทำให้ “แคมป์” สรรวัชญ์ เดชมิตร ออกอาวุธใส่ผู้ตัดสิน เป็นใบแดงไปอีกคน

แค่เกมนั้นก็ถือว่าเป็นประเด็นที่รุนแรง และทาง “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งติดตามเกมนัดนี้อยู่ ออกคำสั่งมาทันทีในวันถัดมาให้แบน ผู้ตัดสิน อาคม เจริญสุข ไม่ให้ทำหน้าที่แบบไม่มีกำหนดจนกว่าจะจบฤดูกาล

ทว่าภายในวันเดียวกันหลังจากการออกบทลงโทษดังกล่าวมา ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำอีกในเกมระหว่าง “ช้างศึกยุทธหัตถี” สุพรรณบุรี เอฟซี กับ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แถมเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเกมเพียงแค่ 26 นาทีเท่านั้น

Advertisement

จังหวะดังกล่าว มาริโอ ยูรอฟสกี้ ส่งบอลให้กับ อดิศร พรหมรักษ์ ก่อนจะกระดกบอลหนีแนวรับที่เข้ามาสกัด แต่ทางด้านของ ทินกร อสุรินทร์ พุ่งเข้ามาเสียบจนร่วงลงไป แต่ ภานุมาส พันธ์สะโม ผู้ตัดสินในเกมนั้นกลับไม่ให้จุดโทษ หรือแม้กระทั่งลูกฟาวล์ จนอดิศรไปโวยวายและก็เสียใบเหลืองไปด้วย

หลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้ ที่อาจจะไม่ได้กล่าวถึง มันทำให้น่าสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับวงการผู้ตัดสินไทย ที่อยู่ดีๆ มาตรฐานก็ตกฮวบลงมาจากฤดูกาลก่อนแบบหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยก็ว่าได้ สร้างความคลางแคลงใจให้กับแฟนบอลต่างๆ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี่มันควรจะต้องมีมาตรการอะไรหรือไม่

พล.ต.อ.สมยศ เล่าว่า ในทางปฏิบัติของสมาคมฯ ถ้าหากเกิดข้อพิพาทใดๆ หรือมีเรื่องร้องเรียนที่ไม่เป็นธรรม ก็จะมีการเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่น, ผู้ตัดสิน, เจ้าหน้าที่ทีม หรือผู้ควบคุมการแข่งขัน เข้ามาคุยกัน มารับฟังเหตุผล ได้โต้แย้งกัน แต่ว่าเรื่องของการตัดสินที่ผิดพลาดในสนาม มันต้องเป็นไปตามกติกาสากล ผลการตัดสินต่างๆ มันเป็นสิทธิขาดของผู้ตัดสิน เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นใบเหลือง-ใบแดง ซึ่งถ้าผู้ตัดสินทำผิดพลาดจริงๆ สมาคมฯ ก็ทำได้เพียงแค่ลงโทษตามความผิดเท่านั้น ทำนอกเหนือจากนี้ไม่ได้

อย่างที่ว่ากันพอมีเรื่องการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินทำหน้าที่ผิดพลาดกันเข้ามา ก็มักจะทำให้คนไปพูดถึงการใช้ วิดีโอช่วยตัดสิน (วีเออาร์) ซึ่งก่อนหน้านี้ทางสมาคมฯ ประกาศออกมาอย่างดิบดี ว่าในฤดูกาลนี้จะใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ

แต่พอจะใช้จริง ก็มีปัญหาเพราะว่าประเทศไทยยังไม่ได้รับการอนุมัติจาก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และ คณะกรรมการฟุตบอลนานาชาติ (ไอแฟบ) ให้สามารถใช้งานได้ เพราะต้องผ่านการทดสอบใช้ให้ได้ในระดับสากลเสียก่อน

ซึ่งพอไม่มีวีเออาร์ มันก็เลยทำให้เกิดความผิดพลาดออกมาอย่างมากๆมาย ซึ่งไอความผิดพลาดที่มันเกิดขึ้น มันอยู่ในวิสัยที่ว่าถ้ามีวีเออาร์ มันจะสามารถกลับคำตัดสิน หรือช่วยให้การติดสินเป็นไปอย่างถูกต้องได้ทั้งนั้น
แล้วถามว่าเมื่อไหร่วีเออาร์จะพร้อมหล่ะ ตามหลักแล้วก็ต้องรอให้ผู้ตัดสินไทยทำการอบรมให้ผ่านมาตรฐานของฟีฟ่าให้เรียบร้อย

ซึ่งสมาคมฟุตบอลฯ ก็พยายามดำเนินการเรื่องนี้อย่างหนัก ลงทุนจ้างวิทยากรมาอบรมที่ไทยเอง ไม่งั้นอาจจะต้องรอ 1-2 ปีกว่าจะได้ใช้งาน แต่ว่าจะได้คิวก็ต้องรอเดือนกรกฎาคม ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ก็จะสามารถใช้ได้ก่อนจบฤดูกาลนี้

เพียงแต่สุดท้าย กว่าจะใช้วีเออาร์ได้ มันจะเกิดความเสียหายกันไปเท่าไหร่แล้วหล่ะ?

บิ๊กอ๊อด บอกว่า ต้องยอมรับว่าผู้ตัดสินเองก็มีอายุการใช้งานตามสภาพร่างกาย ดังนั้นสมาคมฯ จำเป็นต้องสร้างผู้ตัดสินรุ่นใหม่ขึ้นมาแทน ปีนี้มีการดันผู้ตัดสินจากไทยลีก 2-3 ขึ้นมาทำหน้าที่บ้าง ซึ่งแน่นอนว่าประสบการณ์ยังน้อย มันเกิดความผิดพลาดกันได้ แต่ถ้าไม่ให้โอกาสเลย วันข้างหน้าก็จะไม่มีผู้ตัดสินที่มีคุณภาพ

สมาคมฯ มีจัดอบรบ ทดสอบสมรรถภาพตลอด แต่ของทุกอย่างต้องใช้เวลา ปัจจุบันผู้ตัดสินระดับฟีฟ่า ในต่างประเทศ ยังมีการตัดสินผิดพลาดอยู่เลย แล้วนับประสาอะไรกับผู้ตัดสินไทย ที่เพิ่งเลื่อนขั้นขึ้นมา เรื่องการตัดสินที่ผิดพลาด มันจะส่งผลต่อกระแสของฟุตบอลลีกอาลีพของไทยที่จะซบเซาลงไป หากยังปล่อยเป็นแบบนี้ คนจะเริ่มเบื่อฟุตบอลไทย เบื่อผู้ตัดสิน จนไม่เข้าสนามฟุตบอลฯ

ถึงวันนั้นพวกคุณ เชิ้ตดำทั้งหลายจะรับผิดชอบไหวไหม กับการถูกตราหน้าว่า ทำลายฟุตบอลไทย…?

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image