‘บุฟฟ่อน’ แยกทาง ‘เปแอสเช’ เปิดทาง ‘เด เคอา’ ชิ่ง ‘ผีแดง’ ?

จานลุยจิ บุฟฟ่อน เด็กชายผู้มีบ้านเกิดที่เมืองคาร์ราร่า ของอิตาลี เติบโตมาท่ามกลางครอบครัวนักกีฬาโดยคุณพ่อเป็นนักทุ่มน้ำหนักทีมชาติ ส่วนคุณแม่เป็นนักขว้างจักระดับทีมชาติเช่นกัน ซึ่งเดิมทีบุฟฟ่อนเริ่มเล่นฟุตบอลในระดับเยาวชนด้วยการเป็นผู้เล่นกองกลางมาก่อน โดยเคยให้สัมภาษ์ไว้ว่า ตนเริ่มเล่นฟุตบอลสมัยประมาณ 6-7 ขวบ ลองหมดแล้วทุกตำแหน่ง ในตำแหน่งกองกลาง จากการที่ลองเล่นมาหมดแล้วในทุกตำแหน่ง เพราะรู้สึกว่าทำได้ดีที่สุดในการเป็นมิดฟิลด์ ซึ่งเหมือนเด็กๆ ทุกคนที่ชอบความรู้สึกเวลาทำเกมไปยิงประตูได้มากกว่าการเก็บคลีนชีต

“แต่สุดท้ายผมก็ตกหลุมรักตำแหน่งผู้รักษาประตู เพราะศึกฟุตบอลโลก 1990 ที่อิตาลีเป็นเจ้าภาพ กับการได้ดูโธมัส เอ็นโคโน ผู้รักษาประตูแคเมอรูนโชว์ฟอร์มในทัวร์นาเมนต์นั้น เขาเป็นผู้รักษาประตูที่ไม่เหมือนนายด่านทั่วๆ ไป มีความดุดันและเป็นผู้นำสุดสุด ทำให้ผมในวัย 12 ปีตัดสินใจเลือกเส้นทางการเป็นผู้รักษาประตูทันที”

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการก้าวมาเป็นผู้รักษาประตูระดับโลกของชายชาวอิตาลีนามว่า “บุฟฟ่อน”
บุฟฟ่อนซึ่งฝึกฝนอย่างหนักได้ก้าวขึ้นมาสู่วงการฟุตบอลอาชีพในทีมชุดใหญ่ของ ปาร์ม่า ในวัย 17 ปี เมื่อปี 1994 ก่อนที่จะคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ และโคปปา อิตาเลียในฤดูกาล 1998-99 ต่อด้วยอิตาเลียนซุปเปอร์คัพในฤดูกาล 1990-00

Advertisement

ต่อมาบุฟฟ่อนในวัย 23 ก็ย้ายไปอยู่กับ “ม้าลาย” ยูเวนตุส ด้วยค่าตัวสถิติโลก 52 ล้านยูโร (ประมาณ 2,614 ล้านบาท) เมื่อปี 2001 จากนั้นเจ้าตัวก็กวาดแชมป์ทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ทั้งฟุตบอลโลก 2006 บวกกับผลงานในสีเสื้อยูเวนตุส ทั้ง กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี 9 สมัย, โคปปา อิตาเลีย 4 สมัย, อิตาเลียนซุปเปอร์คัพ 5 สมัย, ยูฟ่า คัพ (ยูโรป้า ลีก) 1 สมัย

จากนั้นเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2018 บุฟฟ่อนได้ตัดสินใจยุติเส้นทาง 17 ปี 656 นัดกับยูเวนตุสหลังหมดสัญญาฉบับสุดท้าย โดยเลือกย้ายซบ ปารีส แซงต์แชร์แมง สโมสรมหาเศรษฐีในฝรั่งเศส

“นี่คือบทสรุปของการเดินทางที่แสนมหัศจรรย์ อยากขอบคุณไปยังครอบครัวยูเวนตุสทุกคน ที่ทำให้ทุกๆ วินาทีของผมที่นี่กลายเป็นสิ่งที่วิเศษมากๆ” บุฟฟ่อนระบุ

Advertisement

แต่ทว่าเส้นทางการค้าแข้งนอกอิตาลีของบุฟฟ่อนเป็นอันต้องจบลงหลังโลดแล่นกับเปแอสเชได้เพียง 1 ปีเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นข่าวที่สร้างความประหลาดให้กับแฟนบอลไม่น้อย เมื่อ “เปแอสเช” ประกาศแยกทางกับ บุฟฟ่อน ผู้รักษาประตูชาวอิตาลีวัย 41 ปี หลังจากที่สัญญาของนายด่านดีกรีแชมป์โลกกับทีมมหาเศรษฐีเมืองน้ำหอมจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์นี้

“หลังจากที่เราได้มีการปรึกษาหารือกันจึงได้ข้อสรุปว่า ปารีส แซงต์แชร์แมงและจานลุยจิ บุฟฟ่อน บรรลุข้อตกลงเรียบร้อยเกี่ยวกับการไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่ แทนที่ฉบับปัจจุบันซึ่งกำลังจะหมดสัญญาในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ซึ่งสโมสรเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก” เปแอสเชแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ของสโมสร

บุฟฟ่อนได้โพสต์ข้อความอำลาแฟนๆ โดยมีใจความว่า “12 เดือนที่แล้วผมมาเยือนที่ปารีสฯ เพิ่มเติมเต็มความกระหาย ซึ่งมีการต้อนรับจากแฟนๆที่ยอดเยี่ยมเหลือเชื่อ และตอนนี้ถึงเวลาที่ผมต้องจากสโมสรไป ประสบการณ์ที่ได้จากที่แห่งนี้ทำให้ผมเติบโตขึ้นอีกเยอะเลย ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่ทำให้ผมได้มีโอกาสเก็บประสบการณ์ในปารีส และขอบคุณสำหรับความรู้สึกที่เราได้ร่วมแบ่งปันกันตลอดมา ขอบคุณจริงๆ จากก้นบึ้งของหัวใจ วันนี้การผจญภัยนอกบ้านเกิดของผมได้จบลงแล้ว”

สำหรับบุฟฟ่อน ลงสนามให้ปารีสฯ ไปทั้งสิ้น 25 นัดในทุกรายการ เสีย 25 ประตู เก็นคลีนชีตได้ 9 แมตช์ โดยในจำนวนนี้เป็นการเฝ้าเสาในเกมลีกเพียง 17 นัดจากทั้งหมด 38 นัด เนื่องจาก โทมัส ทูเคิล กุนซือเปแอสเช มักใช้งาน อัลฟอนซ์ อาเรโอล่า นายด่านเลือดน้ำหอมวัย 26 ปีลงสนามเป็นหลัก

โดยบุฟฟ่อน คว้าแชมป์ลีกเอิง ฝรั่งเศส 1 สมัยและ โทรเฟ่ เดส์ ช็องปิยงส์ (ซุปเปอร์คัพ ฝรั่งเศส) 1 สมัย ร่วมกับเปแอสเช ตลอดการร่วมงานกัน 1 ซีซั่นที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม บุฟฟ่อน ยังไม่เคยคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว หลังมีโอกาสทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ 3 ครั้ง โดยแพ้ เอซี มิลาน ในปี 2013, แพ้ บาร์เซโลน่า ในปี 2014 ปิดท้ายที่แพ้ รีล มาดริด ในปี 2017

ขณะที่ในฤดูกาล 2018-19 ที่ผ่านมา เกมสุดท้ายในถ้วยบิ๊กเอียร์นั้นจะจบลงด้วยการตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยฝีมือโกงตายของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แต่บางทีบุฟฟ่อนอาจได้โอกาสแก้แค้นแมนฯ ยูไนเต็ดแบบเล็กๆ ทางอ้อม

เมื่อมีกระแสข่าวจากหลายสื่อดังในต่างประเทศ โดยเฉพาะ “แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์” ระบุว่า เปแอสเช เตรียมดำเนินการกระชากตัว ดาบิด เด เคอา มือกาวชาวสเปนที่กำลังจะหมดสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า ด้วยการทุ่มเงินกว่า 60 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,400 ล้านบาท) เพื่อสู่ขอเด เคอา ในตลาดซัมเมอร์นี้ แม้อาโรเอล่า มือกาวฝรั่งเศสที่ฝึกวิชาและขับเคี่ยวแย่งตำแหน่งกับบุฟฟ่อนมาตลอด 1 ปีนี้ มีโอกาสที่จะต่อสู้เพื่อเป็นนักเฝ้าเสาเบอร์ 1 ต่อไป

ก่อนหน้านี้ เด เคอา ได้ร้องขอไปยังปีศาจแดง ให้ขึ้นเงินค่าเหนื่อยให้สมน้ำสมเนื้อกับภาระงานที่หนักอึ้งที่จำนวนเงิน 350,000 ปอนด์ ไม่รวมโบนัสต่างๆ เทียบเท่ากับที่ อเล็กซิส ซานเชซ แนวรุกชาวชิลี ได้รับอยู่ในขณะนี้ จากเดิมที่มือกาวเลือดกระทิงดุได้รับเงินสัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์ (ประมาณ 8 ล้านบาท) แต่กลับมีข่าวว่าบอร์ดบริหารของผีแดงไม่สะดวกใจที่จะให้เงินเด เคอา มากขนาดนั้น ทำให้การเจรจายืดเยื้อนานร่วมปี ซึ่งคาดว่าเปเแอสเชยินดีที่จะจ่ายค่าเหนื่อยตามจำนวนดังกล่าว

เด เคอา ย้ายจาก “ตราหมี” แอตเลติโก้ มาดริด ในลาลีก้าสเปน มาอยู่กับปีศาจแดง เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2011 โดยมารับช่วงต่อในการเฝ้าเสาให้กับปีศาจแดงต่อจาก เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ยอดผู้รักษาประตูชาวเนเธอร์แลนด์ แม้ช่วงแรกเด เคอา จะเผชิญปัญหาในการปรับตัว และมีจุดอ่อนในการตัดบอลกลางอากาศชัดเจน แต่เจ้าตัวก็อดทนฝึกฝนจนกลายเป็นมือกาวเบอร์ต้นๆ ของโลก ด้วยปฏิกิริยาการเซฟที่ยอดเยี่ยม เหลือการเซฟจุดโทษเป็นจุดอ่อนแบบชัดเจนที่ต้องพัฒนา

มือกาวชาวสเปนวัย 28 ปีเป็นแกนหลักในแนวรับของปีศาจแดงมา จากการโชว์ซุปเปอร์เซฟช่วยเหลือทีมมานักต่อนัก จนทำให้ได้รับการโหวตเป็นผู้เล่นแห่งปีของสโมสรถึง 4 สมัยจาก 5 ปีหลังสุด พร้อมกับการคว้าแชมป์หลายรายการ ได้แก่ แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 1 สมัย, เอฟเอคัพ 1 สมัย, ลีกคัพ 1 สมัย และยูโรป้าลีก 1 สมัย


แต่เมื่อสโมสรไม่เห็นค่าและไม่พยายามตอบแทนอย่างสมน้ำสมเนื้อ ทำให้เด เคอา พร้อมเก็บข้าวของออกจากทีม หากไม่ถูกขายซัมเมอร์นี้ ก็อาจยอมอดทนจนชิ่งหนีแบบฟรีๆ หลังหมดสัญญาปีหน้า โดยมี “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด บิ๊กทีมในบ้านเกิดให้ความสนใจมาอย่างยาวนาน จนเคยเกือบร่วมงานกันมาแล้วเมื่อปี 2015 แต่ทว่าดีลกลับล่มในนาทีสุดท้ายของวันปิดตลาด เนื่องจากปัญหาเอกสารที่ส่งไม่ทันเวลา ทำให้เด เคอา จำใจต่อสัญญากับสโมสรต่อไป

หากแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สามารถรั้งตัว เด เคอา เอาไว้ได้ พวกเขาจำเป็นต้องตัดใจขายในราคาที่ไม่สูงมากช่วงซัมเมอร์นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียมือกาวชั้นดีออกจากสโมสรแบบฟรีๆ ปีหน้า

ผู้รักษาประตูระดับตำนานใช่ว่าจะสร้างกันได้ง่ายๆ ถ้าปล่อยหลุดมือไป คงเสียใจไปอีกนาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image