รู้จัก ‘อากิระ นิชิโนะ’ ว่าที่ผู้คุมช้างศึกเลือดซามูไร

“ช้างศึก” ฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดใหญ่ ยังไม่มีหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ หลังจากที่ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ประกาศลาออกไป ทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เดินหน้าหากุนซือคนใหม่ และสุดท้ายก็มาลงตัวที่ อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่น ที่ดีกรีไม่ธรรมดา เพราะเขาพาทีมซามูไรบลูเข้ารอบสอง ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย เมื่อปีที่แล้วมาแล้ว

มาทำความรู้จักกับควาญช้างศึกคนใหม่สายเลือดแดนอาทิตย์อุทัยก่อนจะเข้ามาทำหน้าที่ในเร็วๆ นี้
นิชิโนะปัจจุบันอายุ 64 ปี เป็นชาวไซตามะ นักเตะที่ลงเล่นให้เพียงสโมสรเดียว คือ ฮิตาชิ หรือ คาชิวา เรย์โซล ในเจลีก ญี่ปุ่น ในปัจจุบัน เขาคุมแดนกลางให้ฮิตาชิถึง 12 ปีเต็ม ลงเล่นไปทั้งหมด 143 นัด ยิง 29 ประตู แต่ก็ไม่เคยคว้าแชมป์อะไรกับสโมสรเลย

สมัยยังค้าแข้งกับฮิตาชิ Photo Getty Images

หลังจากประกาศแขวนสตั๊ดในปี 1990 และเริ่มงานโค้ชกับฮิตาชิ แต่ก็ทำได้ไม่นาน เมื่อทีมชาติญี่ปุ่น รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี มาทาบทามให้ไปคุมทีม ต่อด้วยทีมชาติรุ่นยู 23

นิชิโนะสร้างชื่อให้วงการฟุตบอลจดจำด้วยการพาทีมชาติญี่ปุ่น ยู 23 คว้าตั๋วไปเตะโอลิมปิกเกมส์ 1996 ที่เมืองแอตแลนตา สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี ที่ญี่ปุ่นผ่านเข้ามาเล่นในโอลิมปิกเกมส์ รอบมหกรรมได้ แค่นั้นไม่พอ ประเดิมนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ทีมจากแดนปลาดิบสร้างเซอร์ไพรส์ เอาชนะ บราซิล 1-0 จนมีการเรียกเหตุการณ์ในวันนั้นว่า “ปาฏิหาริย์แห่งไมอามี” เพราะเตะกันที่สนามออเรนจ์ โบว์ล ไมอามี ถึงแม้จะชนะ ฮังการี และแพ้ ไนจีเรีย มี 6 แต้ม แต่ก็ยังตกรอบแรก

Advertisement

หลังจากหมดภารกิจในการทำทีมชาติ นิชิโนะกลับสู่อ้อมอกของคาชิวา เรย์โซลอีกครั้ง ในฐานะกุนซือทีมชุดใหญ่ ในปี 1998 และคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยเจลีกคัพ ได้ทันทีในปี 1999 ต่อด้วยการจบอันดับ 3 ในเจลีก 2 ฤดูกาลติด จนได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยม แต่กลัวมาโดนปลดในปี 2011

ความยิ่งใหญ่ของนิชิโนะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในการไปทำทีม กัมบะ โอซาก้า เขาเริ่มหน้าที่กับทีมใหม่ในปี 2002 แต่ต้องรอจนถึงปี 2005 กว่าที่จะพาทีมคว้าแชมป์เจลีกได้ ซึ่งถือเป็นแชมป์ลีกครั้งแรกในการทำงานเป็นผู้จัดการทีมของนิชิโนะ ถัดมาในปี 2008 พากัมบะเป็นแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ เป็นโค้ชญี่ปุ่นคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้ ต่อด้วยจบอันดับ 3 ในฟุตบอลสโมสรโลก คว้ารางวัลโค้ชแห่งปีของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย(เอเอฟซี) มาครองไอ้อีก หลังจากอิ่มตัวแล้วก็ลาออกไปคุมทีม วิสเซล โกเบ ในปี 2012 แต่อยู่ได้ไม่นาน โดนปลดในปี 2014 ส่งท้ายการคุมทีมระดับสโมสรด้วยการไปคุมทีม นาโกยา แกรมปัส ในปี 2015

Advertisement

หลังจากนั้น สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นแต่งตั้งเขาเป็นประธานพัฒนาเทคนิคในปี 2016 และขยับไปรับตำแหน่งกุนซือทีมชาติชุดใหญ่ แทนที่ วาฮิด ฮาลิฮอดซิซ ที่ถูกปลดจากตำแหน่งไป ก่อนฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายจะเปิดฉากไม่กี่เดือนเท่านั้น

หลังจากที่เข้ามารับตำแหน่ง มีความกังขาในฝีมือของนิชิโนะ เพราะประสบการณ์ในการคุมทีมชาติชุดใหญ่ยังไม่มี แถมเวลาในการเตรียมทีมยังน้อยอีก

ฟุตบอลโลก 2018 ของญี่ปุ่นในการทำทีมของนิชิโนะ ถือเป็นทัวร์นาเมนต์ที่น่าจดจำครั้งหนึ่งของวงการฟุตบอลแกนอาทิตย์อุทัย ทีมปลาดิบเริ่มต้นด้วยการเชือด โคลอมเบีย 2-1 ตั้งแต่แมตช์แรกของรอบแบ่งกลุ่ม กลายเป็นทีมจากเอเชียชาติแรกในประวัติศาสตร์ที่ชนะทีมจากอเมริกาใต้ได้ แทคติคเพรสซิ่งเร็วและเล่นอย่างมีระเบียบตามแนวทางของโค้ชชาวไซตามะ ทำให้ญี่ปุ่นเสมอ เซเนกัล ไปแบบสนุก 2-2 ถึงแม้นัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มจะแพ้ โปแลนด์ แบบฉิวเฉียด 0-1 แต่ญี่ปุ่นก็ดีพอที่จะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมไปได้(ด้วยการที่ได้ใบเหลืองน้อยกว่าเซเนกัล)

ผลงานของนิชิโนะในการคุมทีมชาติญี่ปุ่นนัดสุดท้าย คือ การพาทีมขึ้นนำทีมเต็งอย่าง เบลเยียม 2-0 ในรอบ 16 ทีม ก่อนที่จะโดนยอดทีมจากยุโรปยิงแซงชนะไป 3-2 แต่ก็เต็มไปด้วยความประทับใจ ที่ทำให้เห็นว่า ทีมจากเอเชียก็ไม่ใช่ลูกไล่ในฟุตบอลโลกอีกต่อไป

ช้างศึกอาจจะยังไม่แข็งแกร่งและมาตรฐานสูงเท่าญี่ปุ่น การมาครั้งนี้อาจจะทำให้แฟนบอลไทยมีความหวังมากขึ้น แต่ที่สุดแล้วผลงานในสนามเท่านั้นที่จะบอกได้ว่า อากิระ นิชิโนะ คือคนที่ใช่ของช้างศึกหรือไม่ เวลาจะให้คำตอบเอง

ทำเนียบแชมป์ของอากิระ นิชิโนะ
– ปี 1999 เจลีกคัพ (คาชิวา เรย์โซล)
– ปี 2005 เจลีก (กัมบะ โอซาก้า)
– ปี 2007 เจลีกคัพ, เจแปนีส ซุปเปอร์คัพ (กัมบะ โอซาก้า)
– ปี 2008 เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก, เอ็มเพอเรอร์ส คัพ (กัมบะ โอซาก้า)
– ปี 2009 เอ็มเพอเรอร์ส คัพ (กัมบะ โอซาก้า)

รางวัลส่วนตัว
– ผู้จัดการทีมเจลีกยอดเยี่ยมแห่งปี ปี 2000, 2005
– โค้ชยอดเยี่ยมของเอเอฟซี ปี 2008

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image