ฤดูกาลที่ยาวนานของพ่อหนุ่มที่ชื่อ อลิสซง เบ็คเกอร์ เพิ่งจะจบลงไปหลังจากสามารถพาทีม “แซมบ้า” บราซิล คว้าแชมป์ โกปา อเมริกา 2019 ในบ้านตัวเองได้สำเร็จ และถือว่าเป็นแชมป์ที่ 2 ในรอบ 37 วันของเขา หลังจากที่เพิ่งพา “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไปเมื่อเดือนก่อน
นับเป็นฤดูกาลที่เขาสร้างสถิติออกมาอย่างมากมาย และเป็นการซื้อตัวที่คุ้มค่าที่สุดของหงส์แดงในฤดูกาลที่ผ่านมา แก้ปัญหาจุดอ่อนที่ทีมมีมาตลอดคือเรื่องเกมรับ ให้กลายเป็นทีมที่แนวรับดีที่สุดในยุโรปได้
กับสโมสร ตลอดปีที่ผ่านมาเขาสร้างผลงานน่าจดจำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทุบสถิติคลีนชีทของ เปเป้ เรน่า พร้อมคว้าถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีกไปครอง หรือการเซฟลูกยิงของ อคาดิอุสซ์ มิลิค กองหน้า นาโปลี ช่วยให้ลิเวอร์พูลรอดพ้นจากการตกรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนสุดท้ายจะเป็นแชมป์ในที่สุด
ขณะที่ทีมชาตินั้น เขาเองยังโชว์ความเหนียวแน่น เก็บคลีนชีทได้ 5 จาก 6 เกม เสียประตูเดียวในนัดชิงชนะเลิศให้กับจุดโทษของ เปาโล เกร์เรโร่ เท่านั้น หรือเรียกได้ว่าการเล่นแบบโอเพ่นเพลย์ ทำอะไรเขาไม่ได้
และก็ทำให้เขาสร้างอีกหนึ่งสถิติใหม่คือ การเป็นผู้รักษาประตูที่คว้ารางวัลถุงมือทองคำจาก 3 รายการใหญ่ภายใน 1 ปีมาครองได้ ก็คือพรีเมียร์ลีก, แชมเปี้ยนส์ลีก และโกปา อเมริกา
สถิติตลอดทั้งฤดูกาลของอลิสซงทั้งในสีเสื้อหงส์แดง และในนามทีมชาติ นั้น ลงสนามไป 62 เกม คลีนชีทได้ถึง 36 นัด (มากกว่าครึ่ง) และยังเสียแค่ 36 ประตู แล้วก็มี 2 แชมป์
ถ้าหากเรามองว่าการคว้ารางวัล บัลลงดอร์ นั้นควรจะดูที่จำนวนแชมป์และผลงาน แน่นอนเลยว่านี่คือหนึ่งในนักเตะที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมที่สุดที่ควรจะได้รางวัลนี้
เรียกได้ว่าตีคู่ขึ้นมากับ เวอร์กิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังเพื่อนร่วมทีมหงส์แดง ที่ต้องบอกว่าการพลาดแชมป์ ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก กับทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ไปนั้น ทำให้คะแนนลดลงมา และกลายเป็นสูสีกับอลิสซงเลยทีเดียว
ในอดีต นับตั้งแต่มีการมอบรางวัลบัลลงดอร์มาในปี 1956 นั้น มีเพียงครั้งเดียวที่ตำแหน่งผู้รักษาประตูเคยได้รางวัลนี้คือปี 1963 เป็นของ เลฟ ยาชิน ตำนานนายทวารของสหภาพโซเวียต
แต่ชั่วโมงนี้ต้องยอมรับเลยว่า อลิสซง นั้นมีผลงานที่ดีไม่แพ้ผู้เล่นเอาท์ฟิลด์คนไหน และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จด้วย
ถ้าคนบอกว่า เกมรุกจะทำให้คุณสนุก แต่เกมรับจะทำให้เป็นแชมป์ งั้นก็ถึงเวลาหรือยังที่ตำแหน่งเกมรับจะได้รับรางวัลที่คู่ควรเสียที