คอลัมน์เกรียนเขียนบอล : ต้องชนะ

บางทีฟุตบอลโลก 2022 ของ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย อาจจะรู้ผลว่าจะหมู่หรือจ่า ได้เร็วกว่าที่คาดๆ กันไว้กันไว้ก็ได้นะครับ

เพราะว่าเกมนัดต่อไปที่จะไปเยือน อินโดนีเซีย อาจจะเป็นเกมที่ตัดสินอะไรหลายๆ อย่างได้เลยทีเดียวสำหรับทีมชาติไทย

จากผลงานนัดแรกซึ่งเราเสมอในบ้านกับ เวียดนาม มาแล้ว 0-0 คืออาจจะเป็นผลที่พอรับได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเสียหายไม่น้อยที่ไม่สามารถเก็บ 3 คะแนนในบ้าน ในการเจอกับทีมที่เป็นคู่แข่งโดยตรงในการลุ้นแชมป์กลุ่ม หรืออันดับ 2 ที่ดีที่สุด

ในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ซึ่งมีแค่ 8 เกมให้ลงเล่น แล้วโอกาสที่ดีที่สุดคือการการันตีเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม เมื่อพลาดเกมแรกในการเสมอกับทีมจากโถ 2 ในบ้านตัวเองไปแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือการบุกไปเก็บชัยชนะจากทีมในโถ 4-5 ทั้งหมดให้ได้ ทั้งเกมเหย้าและเกมเยือน

Advertisement

ซึ่งอินโดนีเซีย ก็คือทีมจากโถ 5 ถ้านับเรียงตามแรงค์กิ้่ง นี่คือทีมที่อันดับต่ำที่สุดในกลุ่มแล้ว ทีมชาติไทยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเก็บชัยชนะให้ได้เท่านั้น

ถ้าวัดกันตามสถิติจากรอบคัดเลือก รอบสอง ของฟุตบอลโลก 2018 เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทีมที่ได้แชมป์กลุ่ม จะต้องมีอย่างน้อยราวๆ 20 แต้มขึ้นไป (ไม่นับกลุ่มของไทย ซึ่งมีทีมเล่นน้อยกว่า)

และแต่ละทีมเองจะพลาดเสียแต้มได้ไม่เกิน 2 นัดเท่านั้น ซึ่งเราก็เสียโควต้าไปแล้ว 1 นัด เหลือโควต้าให้พลาดได้นัดเดียว ซึ่งก็ยังต้องเก็บเอาไว้เพราะมีเกมที่ต้องไปเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อีกด้วย

Advertisement

หรือถ้าอยากลุ้นเป็นอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 4 ทีม ก็ยังพลาดได้เพิ่มอีกแค่เกมเดียวเท่านั้น ถือว่าเป็นงานที่ไม่ง่ายเลยสำหรับทีมชาติไทยในตอนนี้ ยิ่งคู่แข่งที่เจอ คือทีมในระดับอาเซียนด้วยกันเอง ที่แทบจะเป็นบ้านใคร บ้านมัน อยู่แล้วด้วย

อย่างเช่นการไปเยือนอินโดนีเซีย ซึ่งทีมชาติไทยไม่สามารถบุกไปเอาชนะมาได้ 11 ปีแล้ว ครั้งล่าสุดที่บุกไปเยือนคือเกมเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 นัดชิงชนะเลิศ ที่ปากันซารี สเตเดียม เกมนั้นไทยบุกไปแพ้ 1-2 แต่ยังดีที่กลับมาเอาชนะในบ้าน แล้วคว้าแชมป์ได้สำเร็จ

ยิ่งครั้งนี้คือการเยือนสนามปราบเซียน อย่างเกโลร่า บุงการ์โน่ หรือว่าสนามเสนายันเดิม ที่ถ้าใครจำซีเกมส์ เมื่อปี 1997 ได้ ก็น่าจะรู้ดีกว่าสนามนี้โหดแค่ไหน (หรือล่าสุดไม่กี่วันก่อนกับมาเลเซีย ก็มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นเช่นกัน)

เชื่อว่า อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รู้สถานการณ์ดีกว่านัดนี้จะต้องเก็บ 3 คะแนนให้ได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกมาเล่นเกมรุกแบบเต็มสูบหรือไม่ หรือจะยังคงแผนฟอลส์ 9 เอามาใช้อีกนัด

ในใจลึกๆ ยังเชื่อว่า “ช้างศึก” มีดีพอจะบุกไปเอาชนะอินโดนีเซีย ถึงถิ่นได้

แต่ถ้าทำไม่ได้ ยอมรับเลยว่าโอกาสยากมากจริงๆ ที่จะเป็น 12 ทีมสุดท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image