“ขุมกำลังชุดปัจจุบันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นชุดที่แย่ที่สุดในประวัติศาตร์ของพวกเขา นับตั้งแต่มีศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ” แกรม ซูเนสส์ อดีตกองกลางลิเวอร์พูลระบุ
ส่วน รอย คีน อดีตกองกลางแมนฯยู กล่าวว่า “แมนฯยูชุดนี้เล่นบอลน่าเบื่อสุดสุด ไม่มีคุณภาพ ขาดความกระหายชัยชนะ ไม่มีภาวะผู้นำ และไม่มีความเป็นตัวตนของปีศาจแดงอยู่เลย”
แต่ก่อนจะบอกว่าผีชุดปัจจุบันเป็นยุคที่แย่สุด ต้องย้อนดูผลงานปีศาจแดงยุคฟอร์มตกของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, เดวิด มอยส์, หลุยส์ ฟาน กัล และโชเซ่ มูรินโญ่ ประกอบสักนิด
- เฟอร์กูสัน – 2004-05
อันดับพรีเมียร์ลีก : 3
เอฟเอคัพ : รองแชมป์
ลีกคัพ : รอบรองชนะเลิศ
แชมเปี้ยนส์ลีก : รอบ 16 ทีม
- การซื้อตัว
เวย์น รูนี่ย์ (เอฟเวอร์ตัน) – 30 ล้านปอนด์
กาเบรียล ไฮน์เซ่ (ปารีส แซงต์แชร์แมง) – 7 ล้านปอนด์
อลัน สมิธ (ลีดส์) – ล้านปอนด์
เกราร์ด ปิเก้ (บาร์เซโลน่า) – 4.7 ล้านปอนด์
เลียม มิลเลอร์ (เซลติก) ฟรี
ฤดูกาลนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มี 77 คะแนนตามหลัง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ของโชเซ่ มูรินโญ่ ที่พาทีมเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก มากถึง 18 คะแนน คว้าอันดับ 3 เป็นซีซั่นที่ 2 ติดต่อกัน ส่วนผลงานในถ้วยอื่นๆ แมนฯ ยูไนเต็ด ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยน้ำมือของเอซี มิลาน, ตกรอบลีกคัพด้วยฝีมือของเชลซี และแพ้จุดโทษต่ออาร์เซน่อลในรอบชิงชนะเลิศของศึกเอฟเอคัพ
11 ตัวจริงที่ชอบ : รอย แคร์โรลล์ – แกรี่ เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เวส บราวน์, กาเบรียล ไฮน์เซ่ – คริสเตียโน่ โรนัลโด้, รอย คีน, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์ – เวย์น รูนี่ย์, รุด ฟาน นิสเตลรอย
- มอยส์ : 2013-14
อันดับพรีเมียร์ลีก : 7
เอฟเอคัพ : รอบ 3
ลีกคัพ : รอบรองชนะเลิศ
แชมเปี้ยนส์ลีก : รอบ 8 ทีม
- การซื้อตัว
มารูยาน เฟลไลนี่ (เอฟเวอร์ตัน) – 27.5 ล้านปอนด์
ฆวน มาต้า (เชลซี) – 37.1 ล้านปอนด์
นี่คือฤดูกาลแรกที่เปลี่ยนมือจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สู่การคุมทีมของเดวิด มอยส์ แต่เขาก็พาแมนฯ ยูไนเต็ดตกรอบเอฟเอคัพรอบ 3 จากการแพ้สวอนซีคาบ้าน ส่วนในลีกคัพ ปีศาจแดงก็แพ้จุดโทษต่อ ซันเดอร์แลนด์ในรอบรองชนะเลิศ ด้านศึกแชมเปี้ยนส์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ดเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม ส่วนในรอบ 16 ทีม ก็เอาชนะโอลิมเปียกอส (กรีซ) หวุดหวิด 3-2 แต่ต้องตกรอบ 8 ทีมเมื่อแพ้ บาเยิร์น มิวนิก สกอร์รวม 2-4 ช่วงเวลาของมอยส์กับแมนฯ ยูไนเต็ดมาถึงจดจบหลังคุมทีมได้ 8 เดือน เนื่องจากพาที่แมนฯยู บุกแพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-2 ในเดือนเมษายน
11 ตัวจริงที่ชอบ : ดาบิด เด เคอา – ราฟาเอล ดาซิลวา , ฟิล โจนส์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอฟร่า – อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิล คาริค, มารูยาน เฟลไลนี่, มาต้า – รูนี่ย์ , โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
- ฟาน กัล : 2015-16
อันดับพรีเมียร์ลีก : 5
เอฟเอคัพ : แชมป์
ลีกคัพ : รอบ 4
แชมเปี้ยนส์ลีก : รอบ 16 ทีม
- การซื้อตัว
อ็องโตนี่ มาร์ซิยาล (โมนาโก) – 54 ล้านปอนด์
มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน (เซาแธมป์ตัน) – 30 ล้านปอนด์
เมมฟิส เดปาย (พีเอสวี) – 30 ล้านปอนด์
มันเตโอ ดาร์เมี่ยน (โตริโน่) – 12.7 ล้านปอนด์
บาสเตียน ชไวน์สไตน์เกอร์ (บาเยิร์น มิวนิก) – 6 ล้านปอนด์
เซร์คิโอ โรเมโร่ (ซามพ์โดเรีย) ฟรี
นี่คือซีซั่นที่ 2 ของหลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งขึ้นชื่อว่าทำทีมในสไตล์ที่น่าเบื่อสุดสุด โดยทำแมนฯยู ตกรอบ 4 ลีกคัพ เพราะแพ้จุดโทษต่อมิดเดิลสโบรห์คาบ้าน ส่วนเดือนธันวาคม ผีแดงแพ้ 3 เกมรวดในพรีเมียร์ลีก (บอร์นมัธ, นอริช และสโต๊ค ซิตี้) เท่านั้นยังไม่พอ ในเดือนเดียวกันยังตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม หลังจบอันดับ 3 เป็นรองโวล์ฟสบวร์ก และพีเอสวี
แมนฯยูจึงหล่นไปเล่นยูโรป้าลีก แต่ก็โดนคู่อริอย่างลิเวอร์พูล เขี่ยตกรอบด้วยสกอร์รวม 1-3 ซึ่งแม้ฟาน กัล พาทีมคว้าแชมป์เอฟเอคัพ โดยเฉือนชนะคริสตัล พาเลซ 2-1 ใน 120 นาที แต่เขาก็ถูกไล่ออกอยู่ดี เนื่องจากแมนฯยูหลุดท็อปโฟร์ในลีก หลังรั้งที่ 5 โดยมี 66 แต้มเท่ากับอันดับ 4 แมนฯ ซิตี้ แต่ผีเป็นรองผลต่างประตูถึง 16 ลูก
11 ตัวจริงที่ชอบ : เด เคอา – ดาร์เมี่ยน, คริส สมอลลิ่ง, ดาลีย์ บลินด์, มาร์กอส โรโฮ – คาร์ริค, ชไนเดอร์ลิน, อังเดร เอร์เรร่า – มาต้า, รูนี่ย์, มาร์ซิยาล
- มูรินโญ่ : 2018-19
อันดับพรีเมียร์ลีก : 6
เอฟเอคัพ : รอบ 8 ทีม
ลีกคัพ : รอบ 3
แชมเปี้ยนส์ลีก : รอบ 8 ทีม
- การซื้อตัว
เฟร็ด (ชัคตาร์ โดเนตส์ค) – 52 ล้านปอนด์
ดิโอโก้ ดาโลต์ (ปอร์โต้) – 19 ล้านปอนด์
ลี แกรนท์ (สโต๊ค ซิตี้) – 1.5 ล้านปอนด์
อาถรรพ์ความล้มเหลวในซีซั่นที่ 3 กับหลายสโมสรของโชเซ่ มูรินโญ่ เกิดขึ้นที่แมนฯ ยูไนเต็ดเช่นกัน มูรินโญ่โวยวายว่าเขาไม่ได้ตัวเซ็นเตอร์แบ๊กตามที่ขอบอร์ดสักคน ทั้งแฮร์รี่ แม็กไกวร์ หรือโทบี้ อันเดอร์ไวเรลด์ แถมมูรินโญ่ยังมีปัญหากับนักเตะในทีม โดยเฉพาะปอล ป๊อกบา จนถึงขั้นแตกหัก
ส่วนผลงานในสนาม แมนฯยู ตกรอบลีกคัพ รอบ 3 โดยแพ้จุดโทษให้กับดาร์บี้ เคาน์ตี้ (จากลีกแชมเปี้ยนชิพ) ของแฟร้งก์ แลมพาร์ด ก่อนฟางเส้นสุดท้ายก็ขาดลงเมื่อแมนฯยู บุกแพ้ ลิเวอร์พูล 1-3 ในเกมลีกกลางเดือนธันวาคม ทำให้มูรินโญ่ถูกไล่ออก
โดยแต่งตั้งโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ คุมขัดตาทัพ ก่อนได้สัญญาถาวรในเดือนมีนาคม หลังพาทีมโกงตายบุกชนะปารีส แซงต์แชร์แมง 3-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัด 2 (แพ้คาบ้านนัดแรก 0-2) ทำให้มีสกอร์รวม 3-3 และผีแดงผ่านเข้ารอบ 8 ทีมด้วยกฏประตูทีมเยือน ก่อนตกรอบเเนื่องจากแพ้ บาร์เซโลน่า ประตูรวม 0-4
11 ตัวจริงที่ชอบ : เด เคอา – แอชลี่ย์ ยัง, ลินเดอเลิฟ, สมอลลิ่ง, ชอว์ – เจสซี่ ลินการ์ด, เอร์เรร่า, เนมานย่า มาติช, ป๊อกบา – มาร์คัส แรชฟอร์ด, โรเมลู ลูกากู
- โซลชาร์ : 2019-20
- การซื้อตัว
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (เลสเตอร์ ซิตี้) – 80 ล้านปอนด์
อารอน วาน-บิสซาก้า (คริสตัล พาเลซ) – 50 ล้านปอนด์
ดาเนียล เจมส์ (สวอนซี) 17 ล้านปอนด์
ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 2 คือผลงาน 6 นัดแรกในพรีเมียร์ลีกที่ไม่สู้ดีนัก ซึ่งโซลชาร์จำเป็นต้องพาผีแดงกลับมาแกร่งให้เร็วที่สุด หากหวังจะรักษาเก้าอี้กุนซือ
โดยการขายขาดโรเมลู ลูกากู และปล่อยยืมอเล็กซิส ซานเชซ ให้กับอินเตอร์ มิลาน โดยไม่ซื้อกองหน้าเข้ามาเพิ่มนั้น เป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ของโซลชาร์ แม้เขาจะหวังดันเด็กปั้นเมสัน กรีนวู้ด แต่ก็ยังไม่สามารถทดแทนได้ดีพอ
11 ตัวจริงที่ชอบ : เด เคอา – วาน บิส-ซาก้า, ลินเดอเลิฟ, แม็กไกวร์, ชอว์ – สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, ป๊อกบา, ลินการ์ด, เจมส์ – แรชฟอร์ด, มาร์ซิยาล
หากโซลชาร์ไม่สามารถพาแมนฯยูคืนฟอร์มเก่งได้แล้วล่ะก็ บางทีแมนฯยูชุดนี้ อาจถูกจารึกว่าเป็นชุดที่แย่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรจริงๆ ก็ได้