สกู๊ปพิเศษ : แหกโค้งสุดท้าย ‘ไทยลีก2019’ ระทึก2นัดชี้ชะตาแชมป์-ตกชั้น

ศึกฟุตบอล “โตโยต้า ไทยลีก 2019” เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายใน 2 นัดสุดท้ายของฤดูกาล โดยสถานการณ์ลุ้นแชมป์ และหนีตกชั้น ยังคงต้องลุ้นระทึกจนถึงวินาสุดท้าย ซึ่งกลุ่มทีมหัวตาราง จ่าฝูงเป็น “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 54 แต้ม ขณะที่รองจ่าฝูง “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟ.ซี. มี 52 แต้มเท่ากับอันดับ 3 “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แต่ประตูได้-เสียของการท่าเรือดีกว่าในช่วงการจัดอันดับระหว่างฤดูกาล แต่หลังจบฤดูกาลนั้นก็ตัดสินกันที่เฮดทูเฮดหากทีมมีแต้มเท่ากัน

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยู่ในสถานการณ์ที่กุมความได้เปรียบเอาไว้ทั้งหมดภายใต้น้ำมือตัวเอง โดย 2 นัดสุดท้ายจะเปิดบ้านเตะนัดชี้ชะตาแชมป์กลายๆ กับ การท่าเรือ วันที่ 20 ตุลาคม และนัดสุดท้ายจะบุกเยือน เชียงใหม่ เอฟซี วันที่ 26 ตุลาคม ซึ่งบุรีรัมย์เพียงแค่เก็บชัยชนะให้ได้หมดทั้ง 2 นัดก็จะเถลิงแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 7 แต่ยังมีอีกหนึ่งเงื่อนไขที่บุรีรมย์จะคว้าแชมป์ได้ในนัดรองสุดท้ายคือ จะต้องชนะการท่าเรือ พร้อมกับลุ้นให้ เชียงราย ไม่ชนะ พีที ประจวบ เอฟซี

ขณะที่ การท่าเรือ เอฟ.ซี. ต้องออกแรงเหนื่อย และลุ้นหนักยิ่งกว่า เพราะนัดรองสุดท้ายจำเป็นที่จะต้องบุกโค่น บุรีรัมย์ ให้ได้เพียงสถานเดียวเท่านั้น และนัดสุดท้ายจะต้องเปิดรัง แพท สเตเดียม คว้าชัยเหนือ สมุทรปราการ ซิตี้ ให้ได้ในวันที่ 26 ตุลาคม แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะสิงห์เจ้าท่ายังจะต้องไปลุ้นให้ เชียงราย เก็บให้ได้เพียง 4 แต้มใน 2 นัดสุดท้ายกับ ประจวบ และบุกเยือน สุพรรณบุรี เอฟซี

ด้าน สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เป็นทีมม้ามืดที่พร้อมเบียดแซงเข้าเส้นชัยได้แบบพลิกความคาดหมาย เนื่องจาก 2 ทีมหัวตารางอย่าง บุรีรัมย์ และการท่าเรือ จะต้องตัดแต้มกันเอง โดยจะต้องลุ้นให้ บุรีรัมย์ เสมอกับ การท่าเรือ ส่วนเชียงรายเองจะต้องเก็บชัยรวดใน 2 นัดสุดท้ายที่มีคิวจะเปิดรังเจอกับ ประจวบ วันที่ 20 ตุลาคม และส่งท้ายบุกเยือน สุพรรณบุรี วันที่ 26 ตุลาคม ทำให้เชียงรายแซงโค้งสุดท้ายขึ้นมาเป็นแชมป์ด้วยการเป็นทีมที่เฮดทูเฮดดีกว่า

Advertisement

ส่วนกลุ่มท้ายตารางลุ้นหนีตกชั้นยังมีอยู่ถึง 5 ทีมที่ยังต้องดิ้นรนหนีตายกันจนในช่วง 2 นัดสุดท้าย โดยทีมอันดับ 12 “สวาดแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี มี 31 แต้ม ซึ่งมีคิวเตะ 2 นัดกับทีมในโซนหนีตายด้วยกันเองคือ เยือน ชัยนาท ฮอร์นบิล วันที่ 20 ตุลาคม และเปิดบ้านพบ สุโขทัย เอฟซี วันที่ 26 ตุลาคม แต่เชื่อว่าทัพสวาดแคทน่าจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์หนีตายได้ไม่ยากกว่าทีมอื่นหากสามารถคว้าชัยได้ทั้ง 2 นัด

ถัดมาอันดับ 13 อันดับ 13 “ช้างศึกยุทธหัตถี” สุพรรณบุรี เอฟซี มี 29 แต้ม แต่โปรแกรม 2 นัดสุดท้ายถือว่าค่อนข้างหนักมากกับการเยือน สมุทรปราการ วันที่ 20 ตุลาคม และเปิดบ้านพบ เชียงราย วันที่ 26 ตุลาคม ซึ่งต้องเจอกับทีมกำลังลุ้นแชมป์ จึงเชื่อว่า สุพรรณบุรี จะเจอกับงานหนัก และโอกาสหนีตายค่อนข้างยากลำบากกว่าทีมอื่นๆ อยู่พอสมควรเลนทีเดียว

รองลงไปเป็นอันดับ 14 “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี มี 28 แต้ม โปรแกรม 2 นัดสุดท้ายถือว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับการเจอทีมระดับเดียวกันอย่าง เปิดบ้านพบ ตราด เอฟซี วันที่ 20 ตุลาคม และดวลหนีตายกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี วันที่ 26 ตุลาคม โดยยังคงมีความมั่นใจว่า สุโขทัย ภายใต้การคุมทีมของ “ขงเบ๊” ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก กุนซือผู้มีคู่มือพาทีมหนีตายจะยังพาทัพค้างคาวไฟอยู่รอดต่อไป

Advertisement

ทีมรองสุดท้ายในอันดับ 15 “นกใหญ่พิฆาต” ชัยนาท ฮอร์นบิล มี 27 แต้ม โดย 2 นัดสุดท้ายเรียกได้ว่าหนักพอสมควรด้วยการเปิดรังพบ นครราชสีมา วันที่ 20 ตุลาคม และบุกเยือน ชลบุรี เอฟซี วันที่ 26 ตุลาคม ซึ่งการเจอกับนครราชสีมาจะเป็นการแย่งชิงพื้นที่อยู่รอดกันโดยตรง ส่วนการเจอกับชลบุรีแม้คู่แข่งจะไม่มีอะไรต้องลุ้นแล้ว แต่ก็หนักพอสมควร ทำให้ชัยนาทอาจจะหมดบุญในลีกสูงสุดแล้ว

ทีมอันดับสุดท้าย “พยัคฆ์ล้านนา” เชียงใหม่ เอฟซี มี 24 แต้ม โปรแกรม 2 นัดสุดท้าย บุกเยือน พีทีที ระยอง วันที่ 20 ตุลาคม และเปิดบ้านส่งท้ายกับ บุรีรัมย์ วันที่ 26 ตุลาคม ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นทีมที่ตกที่นั่งยากลำบากที่สุด และโอกาสรอดตกชั้นริบหรี่ที่สุด อีกทั้งนัดที่เหลือยังต้องเจอกับทีมลุ้นแชมป์ด้วย ทำให้ คิดว่าคงไม่มีปาฏิหารย์ใดๆ เกิดขึ้นกับทีมแห่งดินแดนล้านนาในช่วงโค้งสุดท้ายนี้

โค้งสุดท้ายไทยลีก 2019 เรียกได้ว่า ต้องลุ้นระทึกอย่างหนักใน 2 นัดสุดท้ายของฤดูกาล ทั้งการลุ้นแชมป์ และการหนีตกชั้น ซึ่งแฟนบอลชาวไทยคงจะต้องจับตาดูสถานการณ์ของศึกลูกหนังไทยลีกในฤดูกาลนี้จนถึงวินาทีสุดท้ายของการดวลแข้งเลยทีเดียว!

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image