100 ทอง และรองแชมป์ เป้าทัพซีเกมส์ไทยต้องไปให้ถึง?

กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ จะเปิดฉากขึ้นแล้ว โดยพิธีเปิดจะมีขึ้นวันที่ 30 พฤศจิกายน ทำให้ตอนนี้เหลือเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น ที่จะมีการชิงชัยอย่างเป็นทางการ

ครั้งนี้เจ้าภาพจัด 56 ชนิดกีฬา แต่จำนวนเหรียญทองยังไม่นิ่ง เพราะฟิลิปปินส์ยังมีการดึงเข้า ดึงออก บางกีฬา บางอีเวนต์ยังไม่จบ แต่จะมากกว่า 500 อีเวนต์ ไม่เกิน 530 อีเวนต์อย่างแน่นอน

สำหรับไทยส่งแข่งขันไม่ครบทั้ง 56 กีฬา ขาดไปเพียง 3 ชนิด คือ อาร์นิส (ศิลปะป้องกันตัวประจำชาติฟิลิปปินส์), ฮอกกี้ใต้น้ำ และ ออบสเตเคิล (กีฬาวิ่งผ่านอุปสรรค) นอกจากนั้นส่งเต็มโควต้า ซึ่งแน่นอนว่าการไม่ส่งแข่งขัน 3 กีฬาข้างต้น ทำให้หมดลุ้นเหรียญไปแล้ว 26 รายการ จากอาร์นิส และออบสเตเคิล ส่วนฮอกกี้ใต้น้ำ เป็นกีฬาสาธิตที่ไม่นับเหรียญรางวัล

Advertisement

จนถึงตอนนี้ คีย์แมนกีฬาไทยในหน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งการเตรียมความพร้อมอย่าง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และการส่งแข่งอย่าง คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ยังไม่สามารถประเมินเป้าหมายเหรียญทองของไทยออกมาได้ สาเหตุหนึ่งมาจากการที่เจ้าภาพยังไม่นิ่ง รวมทั้งปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ของการเตรียมทีมเอง แต่ยกธงขาวยอมรับตรงกันว่า ไม่มีทางที่ไทยจะเป็นเจ้าเหรียญทองได้อย่างแน่นอน

ฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพครั้งล่าสุด เมื่อครั้งที่ 23 หรือ 14 ปีที่แล้ว ครั้งนั้นก็กวาดเหรียญไปมโหฬาร 112 ทอง จาก 444 อีเวนต์ ไทยเป็นอันดับ 2 ทำไป 87 ทอง แต่ครั้งนั้นถูกยกให้เป็น “ซีโกง” ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ซีเกมส์เลยทีเดียว

ถ้าจะให้คาดการณ์จำนวนเหรียญที่ไทยน่าจะทำได้นั้น น่าจะอยู่ในระดับเดียวกับที่เคยทำไว้ในการแข่งขันนอกบ้านหลายๆ ครั้ง คือ 80-110 ทอง ขึ้นอยู่กับว่าจำนวนอีเวนต์ที่ชิงชัย และความโหดร้ายของเจ้าภาพเอง
2 ปีที่แล้วที่มาเลเซีย ไทยได้รองแชมป์ที่ 72 ทอง, ครั้งที่ 28 ที่สิงคโปร์ ได้แชมป์ 95 ทอง, ครั้งที่ 27 ที่พม่า ได้แชมป์ 108 ทอง, ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย ได้รองแชมป์ 109 ทอง และครั้งที่ 25 ที่ลาว ได้แชมป์ 86 ทอง
กีฬาความหวังที่จะหยิบเหรียญเป็นกอบเป็นกำให้ไทยอยู่ที่มวย (มวยไทย), เทนนิส, แบดมินตัน, กรีฑา, กอล์ฟ, ตะกร้อ, เทควันโด, เรือพาย, จักรยาน รวมทั้งกีฬาประเภทอย่างวอลเลย์บอลหญิงน่าจะแบเบอร์เช่นกัน ส่วนกีฬาอื่นๆ ต้องลุ้นหนัก

Advertisement

สมาคมกีฬาที่ประเมินสถานการณ์ และยืนยันเป้าหมายของตัวเองออกมาแล้วมีไม่มาก และจะเปิดเผยความหวังออกมาในช่วงที่สมาคมนักข่าวและช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข่าว “มีท เดอะ เพรส” เพื่อให้ทุกสมาคมมานำเสนอความพร้อมและความหวัง ตรงนั้นจะได้ข้อมูลคร่าวๆ และความหวังโดยรวมก่อนการแข่งขันจริง

สมาคมที่ออกตัวมาแล้ว บิลเลียดหวัง 2 ทอง, เทนนิส 5 ทอง, แบดมินตันตั้งเป้าทำให้ได้ดีกว่า 4 ทองจากครั้งที่แล้ว, กอล์ฟเหมาทั้ง 4 ทอง, ว่ายน้ำ 2 ทองเป็นอย่างน้อย, โปโลน้ำหญิงหวังป้องกันแชมป์, วอลเลย์บอลหญิง เหรียญทองแน่นอน, ฟุตบอลชาย-หญิงประกาศจองเหรียญทอง, เรือใบ 9 ทอง, เวกบอร์ด 2 ทอง, เอ็กซ์ตรีม 3 ทอง, กรีฑาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับครั้งที่แล้ว 9-10 ทอง, ตะกร้อส่งแข่งขันได้ 3 รายการ หวังเหมาทองให้ได้ทั้งหมด, โบว์ลิ่ง 2 ทอง, จักรยาน 2 ทอง, ยิมนาสติก 3 ทอง, รักบี้ 2 ทอง, มวยปล้ำมั่นใจมีเหรียญทองแน่

ส่วนกีฬาที่เหลือทั้งมวยสากลสมัครเล่น, บาสเกตบอล, เทเบิลเทนนิส, ฟันดาบ, วินด์เซิร์ฟ, เรือพาย, หมากล้อม, ยูโด, ยูยิตสู, ยิงปืน, ยกน้ำหนัก ที่พอจะมีหวังหยิบเหรียญทองได้ แต่ยังไม่มีการบอกจำนวนเหรียญ และกีฬาที่ไม่ได้เอ่ยถึงก็มีความเป็นไปได้ที่คว้าแชมป์เช่นกัน

เมื่อพิจารณาแล้ว โอกาสที่จะหยิบได้มากกว่า 100 เหรียญทองก็ยังมีความเป็นไปได้ แต่คงไม่มีทางที่จะเป็นเจ้าเหรียญทองแน่นอน

“ผู้ว่าฯ ก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่า กกท.ยอมรับว่า เป้าหมายของไทยคงมองไปที่เจ้าเหรียญทองกีฬาสากลที่มีในโอลิมปิกเป็นหลัก เพราะครั้งนี้มีกีฬาพื้นบ้านและกีฬาที่ไม่แพร่หลายจำนวนมาก เจ้าภาพได้เปรียบในหลายๆ ด้านอย่างชัดเจน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของซีเกมส์อยู่แล้ว ดังนั้นจึงควรมองไปที่กีฬาที่แพร่หลายในเวทีโลก เพื่อจะได้ต่อยอดสู่โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปีหน้าด้วย

เช่นเดียวกับ “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย บอกว่า การเตรียมการของเจ้าภาพยังไม่นิ่ง และหลายเรื่องยังไม่เรียบร้อย ช่วง 27-29 ตุลาคม เจ้าภาพจะเรียกหัวหน้าคณะนักกีฬาเข้าไปประชุมหารือในเรื่องต่างๆ ซึ่งจะได้บทสรุปทุกๆ เรื่อง หลังจากนั้นจะเรียกตัวแทนของสมาคมกีฬาฯ ของเราเอง มาประชุมหารือกันอีกครั้ง เพื่อประเมินความหวัง รับฟังปัญหาและความพร้อม

10 ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ไม่มีกล้าประกาศท้าชิงเจ้าเหรียญทองกับฟิลิปปินส์แม้แต่ชาติเดียว ไทยเองที่เป็นพี่ใหญ่ในกีฬาอาเซียนยังยกธงขาว ชาติต่างๆ คงทำได้แค่แย่งรองแชมป์กันเท่านั้น

ซึ่งยังไม่แน่ว่าทัพไทยจะทำได้อีกด้วย…!!!

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image