สกู๊ปพิเศษ : ไทเกอร์ วู้ดส์ ‘แมว 9 ชีวิต’

ไทเกอร์ วู้ดส์ คว้าแชมป์ "โซโซ่ แชมเปี้ยนชิพ" (Reuters)

หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของ ไทเกอร์ วู้ดส์ อดีตโปรกอล์ฟหมายเลข 1 ของโลกชาวอเมริกัน ในยุคที่ทำผลงานโดดเด่นเข้าขั้น “ไร้เทียมทาน” เมื่อหลายปีก่อน คือสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งเกินธรรมดา

ในวันที่ฟอร์มสุดยอด ไทเกอร์ไม่เคยประมาทหรือผ่อนเกม ต่อให้โดนคู่แข่งกดดันก็จะไม่เกร็งหรือประหม่าจนเสียสมาธิ ยังคงมุ่งมั่นทำผลงานของตัวเองต่อไป บ่อยครั้งที่เขาสามารถคว้าชัยชนะได้อย่างเหนือชั้น บางคราวก็มีช็อตมหัศจรรย์มาให้เห็น จนช่วงหนึ่งสามารถผูกขาดความยิ่งใหญ่ชนิดที่ว่าเป็นตัวเต็งกันแทบทุกสัปดาห์ที่ลงแข่งขัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากประสบมรสุมชีวิตและปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรังปลายปี 2009 จนฟอร์มตกและเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน แฟนและสื่อกอล์ฟจำนวนไม่น้อยเริ่มทำใจว่าไทเกอร์จะไม่สามารถกลับมาเป็น “พญาเสือ” ที่น่าเกรงขามคนเดิมได้อีก

แต่แล้วหลังจากความพยายามที่ไม่เป็นผลหลายต่อหลายครั้ง ไทเกอร์ วู้ดส์ ที่เติบโตขึ้น มีทัศนคติต่อการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ลดอีโก้และใจเย็นลงกว่าเดิม กลายเป็นว่าสามารถกลับมาทำผลงานดีได้เป็นระยะๆ

Advertisement

เริ่มจากการคว้าแชมป์ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ รายการส่งท้ายปีเมื่อปีที่แล้ว พอมาปีนี้ก็คว้า “กรีน แจ๊กเกต” แชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส เป็นเมเจอร์หนที่ 15 ในชีวิต ห่างจากแชมป์เมเจอร์หนก่อนหน้านั้นถึง 11 ปี

และล่าสุด วู้ดส์เพิ่งคว้าแชมป์ โซโซ่ แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่ 82 ในชีวิต เทียบเท่าสถิติสูงสุดตลอดกาลของ แซม สนีด ตำนานสะวิงชาวอเมริกันผู้ล่วงลับ

ทั้งที่รายการนี้เป็นรายการแรกตั้งแต่เดือนสิงหาคมของเจ้าตัวหลังจากต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาเข่าซ้ายอีกครั้ง

(Photo by TOSHIFUMI KITAMURA / AFP)

วันนี้ในวัย 43 ปี วู้ดส์กลับมาเป็นนักกอล์ฟที่หลายๆ คนต้องให้เครดิตว่ามีลุ้นแชมป์รายการต่างๆ ที่ลงแข่งขันอีกครั้ง แม้จะไม่เข้าขั้นไร้เทียมทานเหมือนก่อน แต่จะมองข้ามไปไม่ได้เป็นอันขาด

ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่ดีเท่าเดิม เขาอาจจะไม่สามารถลงแข่งขันได้สม่ำเสมอทุกสัปดาห์เหมือนก่อน แต่การวางแผนอย่างมีระบบก็จะช่วยให้วู้ดส์สามารถยืนระยะต่อไปได้อีกยาวๆ ซึ่งรวมถึงการได้ลุ้นแชมป์เมเจอร์อย่างต่อเนื่องโดยมีสถิติสูงสุดตลอดกาล 18 ครั้ง ของ แจ๊ค นิคคลอส เป็นเป้าหมาย

รอรี่ แม็คอิลรอย อดีตมือ 1 ของโลกชาวไอร์แลนด์เหนือ รุ่นน้องของวู้ดส์บอกว่า พญาเสือเปลี่ยนไปจากเดิมพอสมควร ทุกวันนี้เขาใช้ชีวิตแบบเปิดเผยกับเพื่อนฝูงมากขึ้น ต่างจากสมัยก่อนที่เข้าถึงยาก ตนมีบ้านพักไม่ไกลจากวู้ดส์มากนัก จึงได้สานสัมพันธ์กันสนิทสนมกว่าแต่ก่อน ได้เห็นช่วงเวลาเป็นส่วนตัว ได้เห็นความเป็นพ่อที่ดี ได้เห็นมุมอื่นๆ ในชีวิตนอกเหนือจากการเล่นกอล์ฟ

ซึ่งแน่นอนว่าภาพความเป็น “มนุษย์” เหล่านี้แทบไม่มีให้เห็นจากวู้ดส์เมื่อสมัยก่อนเลย ด้วยความเก่งกาจที่สื่อและแฟนๆ ยกย่องประหนึ่ง “มนุษย์ต่างดาว” หรือ “เทพเจ้า” และอีโก้ส่วนหนึ่งของเจ้าตัว ทำให้เขามีชีวิตในแบบที่แตะต้องไม่ได้ หรืออยู่สูงเกินเอื้อม
แม็คอิลรอยขยายความในส่วนนี้ว่า สมัยก่อนแม้แต่เพื่อนนักกอล์ฟด้วยกันก็ไม่ได้มองว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนักกอล์ฟที่จะชวนกันไปสังสรรค์หรือเล่นหัวกันได้โดยง่าย แต่ทุกวันนี้วู้ดส์เปลี่ยนไปมาก รีแลกซ์ขึ้น เข้าถึงง่ายขึ้น ดูกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของบรรดานักกอล์ฟรุ่นน้องไปแล้ว

ดังที่กล่าวไปว่าสภาพร่างกายที่ไม่เหมือนก่อน ความแม่นยำหรือช็อตมหัศจรรย์ที่วู้ดส์เคยทำได้อาจจะไม่มากเท่าเก่า ประกอบกับเทคโนโลยีเรื่องอุปกรณ์และวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ทำให้นักกอล์ฟรุ่นใหม่ๆ ตีไกลเกินหน้าเกินตาเจ้าตัวไปแล้ว วู้ดส์ ณ ปัจจุบันจึงไม่ไร้เทียมทานเท่าเก่า

แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เปลี่ยนคือความแข็งแกร่งของจิตใจ ความรักที่จะแข่งขันและท้าทายตัวเอง รวมถึงความทะเยอทะยานที่จะประสบความสำเร็จในสนาม

ทั้งหลายทั้งปวงนี้ประกอบกัน เมื่อรวมกับการวางโปรแกรมแข่งขันที่เหมาะเจาะพอดี ก็ไม่แน่ว่าสถิติแชมป์เมเจอร์ 18 รายการของนิคคลอสอาจโดนทำลายลงสักวันหนึ่งก็ได้!

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

(Photo by TOSHIFUMI KITAMURA / AFP)
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image