| ผู้เขียน | เอคูสติก |
|---|
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกือบพลาดท่าบุกไปแพ้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในบรามอลล์ เลน ก่อนจะลงเอยด้วยผลเสมอ 3-3 แบบสุดมัน
เจ้าถิ่นได้ดีกว่าจริงๆ ในช่วง 60 กว่านาที หลังจากที่ยิงนำ 2-0 เหมือนว่าเกมจบแล้ว เพราะถ้าเชฟฯยูเล่นได้เหมือนกับที่ทำมาตลอด โอกาสจะเสมอหรือแพ้แทบจะไม่มีเลย
3 ประตูที่แมนฯยูยิงแซงขึ้นนำ ในเวลารวม 7 นาที แสดงให้เห็นว่าเชฟฯยูเสียสมาธิอย่างชัดเจน รวมทั้งการที่ลูกทีมของ คริส ไวลเดอร์ ใช้พละกำลังไล่บอลมาตลอด 60 นาที ทำให้หมดแรงที่จะสู้ในระยะยาว ยิ่งมาเจอความเร็วของ ดาเนียล เจมส์, มาร์คัส แรชฟอร์ด เล่นงานในช่วงกลางครึ่งหลัง เห็นได้ชัดว่าความฟิตของนักเตะดาบคู่แผ่วลงไปชัดเจน
สำหรับทีมปีศาจแดง 60 กว่านาทีแรก เล่นแบบพร้อมแพ้ เพราะแดนกลางเก็บบอลไม่ได้ โดนเกมเพรสซิ่งตัดแย่งบอลเร็วของทีมดาบคู่เล่นงานจนหมดฤทธิ์ บอลไปไม่ถึงเจมส์, แรชฟอร์ด, อองโตนี่ มาร์ซิยาล แทบไม่มีโอกาสลุ้นประตู จุดนี้ทำเอา โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ หัวเสีย ออกมาให้สัมภาษณ์จวกลูกทีมว่าเล่นโคตรแย่ ซึ่งไม่ค่อยจะได้เห็นกันบ่อยนัก
เชฟฯยูเป็นทีมที่ผลงานดีก็จริงในฤดูกาลนี้ แต่ยังขาดความเก๋า ความเขี้ยวลากดิน และแพ้ในจังหวะที่ไม่ควรแพ้ได้อยู่ เหมือนแมตช์ที่ ดีน เฮนเดอร์สัน นายทวารทำซองแตก ให้เป็นประตูชัยของ ลิเวอร์พูล ทั้งๆ ที่ทำกันมาดีตลอดทั้งเกม ซึ่งแมนฯยูก็ฉกฉวยจังหวะแบบนี้ได้เช่นกัน ทั้งๆ ที่แนวรุกไม่ได้จัดจ้านในระดับเดียวกับลิเวอร์พูล
เกมนี้เป็นการวัดกันที่หัวจิตหัวใจนักเตะล้วนๆ แมนฯยูเสียขวัญอย่างหนักหลังโดนลูกสอง ส่วนเชฟฯยูก็ปั่นป่วนสุดขี้เมื่อโดนแซงนำ เหมือนกับว่าทั้งสองทีมมีช่วงเวลาที่ดีและแย่ในเกมนี้ด้วยกันทั้งคู่ แต่แมนฯยูเรียกได้ว่าน่าผิดหวัง เพราะอุตส่าห์กลับมากำ 3 แต้มในมือแล้ว แต่เก็บกลับบ้านไม่ได้ ส่วนเชฟฯยู 1 แต้มในบ้าน อาจไม่อิ่มนัก แต่ก็ไม่น่าเซ็งเท่าความรู้สึกของแฟนผี
ถ้ามองในแง่ดี การยิง 3 ประตูแซงขึ้นนำได้ ย่อมทำให้สาวกแมนฯยูมีรอยยิ้มกันบ้าง แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะมาโดนตีเสมอแบ่งแต้มในช่วงท้ายเกมก็เถอะ เพราะทุกประตูที่ได้มาเป็นผลงานจากเด็กปั้นในอคาเดมีล้วนๆ
มันแสดงให้เห็นถึงอนาคตที่สดใสสำหรับแฟนบอลที่รอคอยได้ เพราะเมื่อถึงเวลาที่นักเตะเหล่านี้โตเต็มที่แล้ว แมนฯยูน่าจะกลับมาได้จริงๆ
