ใกล้จะเข้าสู่ปี 2020 เต็มทีแล้ว นั่นหมายถึงว่าเรากำลังก้าวขาผ่านไปอีกทศวรรษหนึ่ง ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีอะไรเกิดขึ้นมากมาย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เปลี่ยนตัวเองจากยอดทีมไปเป็นทีมที่ต้องดิ้นรนไปอยู่ท็อป 4 นักเตะหลายคนผันตัวเป็นผู้จัดการทีมไปแล้ว หรือความเปลี่ยนแปลงของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มากวาดความสำเร็จตลอดหลายปีหลัง มาดูกันว่า 10 ปีที่ผ่านมา พรีเมียร์ลีกมีอะไรน่าสนใจบ้าง
‘แมนเชสเตอร์’เมืองแห่งความสำเร็จ
แมนฯยูและแมนซิตี้ต่างครองแชมป์ในประเทศกันอย่างสม่ำเสมอ สำหรับทีมปีศาจแดงในช่วง 5 ปีแรกของทศวรรษที่ผ่านมา ยังมีแชมป์ติดมืออย่างสม่ำเสมอ เพราะ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังไม่วางมือ แต่หลังจากที่เฟอร์กี้ลาทีมไป แชมป์พรีเมียร์ลีกก็ตกไปอยู่ในมือของทีมเรือใบสีฟ้ามากกว่า แมนฯยูได้ไป 2 ครั้ง ส่วนแมนฯซิตี้ได้ไป 4 ครั้ง อีก 3 ครั้งเป็นของ เชลซี และ เลสเตอร์ ซิตี้ สร้างเทพนิยายคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์
ส่วนฟุตบอลถ้วน 2 รายการ คือ เอฟเอคัพ และลีกคัพ สองทีมยักษ์ใหญ่จากแมนเชสเตอร์ได้รวมกัน 10 รายการ เรียกได้ว่ากวาดไปครึ่งหนึ่ง ขณะที่เชลซีกับอาร์เซน่อล ตัวแทนจากกรุงลอนดอน กวาดแชมป์รวมกัน 7 รายการ
ในแง่ของคะแนนรวมในลีกตลอด 10 ปี แมนฯซิตี้เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ลงเล่น 378 นัด ได้ไป 812 คะแนน ส่วนแมนฯยูมาเป็นอันดับ 2 ลงเล่นน้อยกว่า 1 แมตช์ ได้ไป 741 คะแนน เชลซีเตะ 377 แมตช์ เก็บได้ 734 คะนน ลิเวอร์พูล 377 แมตช์ ได้ไป 704 คะแนน และอันดับ 5 สเปอร์ส 377 แมตช์ 699 คะแนน ส่วนอาร์เซน่อล 378 แมตช์ 700 คะแนน ทำให้ทีมเหล่านี้เหมาะสมกับการถูกเรียกว่าเป็นบิ๊ก 6 มาจนถึงวันนี้
‘เป๊ป กวาร์ดิโอล่า’ ยอดโค้ชตัวจริง
แมนฯซิตี้ประสบความสำเร็จมากที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา 10 ปีมานี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้ไป 20 แชมป์กับทั้งบาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิก และแมนฯซิตี้ กับทีมปัจจุบันเขาได้ไป 5 แชมป์ 2 พรีเมียร์ลีก 2 ลีกคัพ 1 เอฟเอคัพ และสร้างเปอร์เซ็นต์ชนะไว้ที่ 74.62 เอร์เซ็นต์ เก็บแต้มในเกมลีกเฉลี่ย 2.374 คะแนน แซงหน้าเฟอร์กี้ที่เคยทำไว้กับแมนฯยู 69.70 เปอร์เซ็นต์ และ 2.273 คะแนนต่อแมตช์ไปแล้ว อันดับ 3 เป็นอันโตนิโอ คอนเต้ ในช่วงที่อยู่กับเชลซี 2.145 คะแนนต่อแมตช์ อันดับ 4 เยอร์เก้น คล็อปป์ 2.143 คะแนนต่อแมตช์
ส่วนโค้ชที่ทำทีมได้แย่ที่สุดในทศวรรษในแง่ของเปอร์เซ็นต์การพาทีมชนะ คือ อาฟรัม แกรนต์ ในวันที่คุมปอร์ทสมัธและเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เปอร์เซ็นต์รวมกันชนะแค่ 18.18 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น รองลงมาเป็น ดาวิด วากเนอร์ กุนซือฮัดเดอร์สฟิลด์ พาทีมชนะ 19.33 เปอร์เซ็นต์ อเล็กซ์ แมคลีช ทำทีมเบอร์มิงแฮม ซิตี้ และแอสตัน วิลล่า ชนะรวมกัน 19.64 เปอร์เซ็นต์ แน่นอนว่าทีมเหล่านี้ต่างสัมผัสรสชาติของการตกชั้นกันถ้วนหน้า
‘เฮนโด้’ลงมากสุด-‘ซิลบา’ฟอร์มเจ๋งสุด
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นนักเตะที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา รวมกันระหว่างซันเดอร์แลนด์และลิเวอร์พูล 306 แมตช์ ส่วน เจมส์ มิลเนอร์ เพื่อนร่วมทีมของเฮนโด้ในปัจจุบัน ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 305 นัด ทั้งกับแอสตัน วิลล่า, แมนฯซิตี้, ลิเวอร์พูล แต่พิเศษตรงที่มิลเนอร์ลงเล่นทุกตำแหน่งในสนาม ยกเว้นแค่การเป็นผู้รักษาประตูเท่านั้น
ท็อป 10 นักเตะที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมากที่สุดใน 10 ปีมานี้ มีผู้รักษาประตูถึง 4 คน เบน ฟอสเตอร์ 303 เกม 983 เซฟ ปีเตอร์ เช็ก 274 แมตช์ คลีนชีต 107 ครั้ง ดาบิด เด เกอา ลงเล่นให้แมนฯยูมากที่สุดในบรรดานักเตะปีศาจแดงของทศวรรษนี้ 292 นัด ส่วน ดาบิด ซิลบา เพลย์เมกเกอร์แมนฯซิตี้ลงเล่นไป 297 แมตช์ แอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมทำประตู 89 ครั้ง มากที่สุดในบรรดานักเตะทุกคนในลีก 10 ปีที่ผ่านมา แถมยังเป็นนักเตะที่สร้างโอกาสในการประตูมากที่สุดถึง 768 ครั้งด้วย
‘กุน’ยิงเยอะ-‘วาร์ดี้’ยิงคม
ถ้าว่ากันถึงสุดยอดนักเตะที่ยิงประตูเป็นกอบเป็นกำ เบอร์หนึ่งต้องยกให้ เซร์คิโอ้ “กุน” อากูเอโร่ กดไปทั้งหมด 173 ตุงให้แมนฯซิตี้ รองลงมาเป็น แฮร์รี่ เคน ของสเปอร์ส 134 ประตู อันดับ 3 เวย์น รูนี่ย์ กับแมนฯยูและเอฟเวอร์ตัน 114 ประตู อันดับ 4 โรเมลู ลูกากู ยิงให้เอฟเวอร์ตันและแมนฯยูรวมกัน 113 ประตู อันดับ 5 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ซัดให้อาร์เซน่อลกับแมนฯยูรวมกัน 98 ประตู
ส่วนเจมี่ วาร์ดี้ กองหน้า เลสเตอร์ ซิตี้ อาจจะมาเป็นดาวยิงสูงสุดอันดับ 6 ในทศวรรษนี้ ที่ 96 ประตู เป็นนักเตะที่มีความน่าสนใจมากๆ เพราะเขาเริ่มต้นกับสต๊กบริดจ์ ปาร์ก สตีลส์ ทีมดิวิชั่น 7 เมื่อปี 2007-2010 แต่ตอนนี้เป็นดาวซัลโวสูงสุดของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลปัจจุบัน ติดทีมชาติอังกฤษไปแล้ว 26 ครั้ง แถมยังร่วมอยู่ในเทพนิยายแชมป์พรีเมียร์ลีกกับเลสเตอร์ และเป็นกองหน้าที่มีสถิติความแม่นยำในการยิงประตูมากที่สุดในรอบ 10 ปี ที่ 23.3 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาเป็น ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เอร์นันเดซ กองหน้าแมนฯยู และเวสต์แฮม ที่ 22.5 เปอร์เซ็นต์
แมนฯยูซื้อนักเตะแพงกว่าใคร
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาของพรีเมียร์ลีก มีการทุ่มเงินซื้อนักเตะกันอย่างมหาศาล ฤดูกาล 2009-2010 ใช้เงินรวมกัน 480 ล้านปอนด์ หลังจากนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มาพีคที่สุดในซีซั่น 2017-2018 ที่ 1,860 ล้านปอนด์ แต่ฤดูกาล 2018-2019 ลดลงมาเหลือที่ 1,415 ล้านปอนด์ ส่วนฤดุกาลปัจจุบันคงยังสรุปไม่ได้ เพราะตลาดนักเตะรอบใหม่กำลังจะเปิดแล้ว
นักเตะที่ค่าตัวในการย้ายทีมแพงที่สุด 10 อันดับ เป็แข้งที่ย้ายเข้าแมนฯยูถึง 4 คน แพงสุดเป็น ปอล ป๊อกบา ย้ายจากยูเวนตุสมา 89 ล้านปอนด์ รองลงมาเป็น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จากเลสเตอร์ 80 ล้านปอนด์ อันดับ 3 ลูกากู จากเอฟเวอร์ตัน 75 ล้านปอนด์
ส่วน เวอร์กิล ฟาน ไดก์ ย้ายจากเซาแธมป์ตันไปลิเวอร์พูล 75 ล้านปอนด์ อันดับ 5 นิโกล่าส์ เปเป้ จากลีลล์ไปอาร์เซน่อล 72 ล้านปอนด์ และมีแนวโน้มว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ค่าตัวของป๊อกบาจะถูกทำลายลงแบบไม่เห็นฝุ่นแน่นอน
เตรียมตัวเดินหน้าเข้าสู่ทศวรรษใหม่ เป็นยุคที่ลิเวอร์พูลกำลังจะเปิดหัวด้วยการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ