สกู๊ปพิเศษ 10 ข่าวเด่นกีฬาไทย พ.ศ.2562

เข้าสู่เทศกาลปีใหม่กันอีกครั้ง เป็นประเพณีไปแล้วว่า จะต้องมีการสรุปเหตุการณ์เด่นๆ ในปีนั้นๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง สำหรับปี 2562 วงการกีฬาไทยอาจจะไม่หวือหวามากนัก ไม่มีความสำเร็จแบบอลังการ หรือความสูญเสียน่าเศร้า เรียกได้ว่าเป็นปีนิ่งๆ ที่ยิ้มไม่กว้างและเจ็บไม่หนักก็ว่าได้

การเปลี่ยนของฟุตบอลทีมชาติไทย
ฟุตบอลทีมชาติไทยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งทีมชายและทีมหญิง เริ่มจากทีมชาย หลังจากที่ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย สละเก้าอี้กุนซือทีมชาติไทย สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก็ได้แต่งตั้ง อากิระ นิชิโนะ โค้ชชาวญี่ปุ่นที่เคยคุมทัพปลาดิบไปสู้ศึกฟุตบอลโลก 2018 มาแล้ว โดยเซ็นสัญญาแค่ 1 ปี

นิชิโนะประเดิมคุมทีมช้างศึกเสมอเวียดนาม 0-0 ในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย แต่ผลงานชิ้นโบแดงคือการชนะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2-1 แบบหักปากกาเซียน การเรียกนักเตะดาวรุ่งหลายคนมาติดทีม เป็นการถ่ายเลือดใหม่ที่ดูมีอนาคต อย่างไรก็ตามโอกาสในการจะผ่านเข้ารอบต่อไปของฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ถือว่าต้องลุ้นเหนื่อย เพราะพลาดท่าบุกไปแพ้มาเลเซียมา 1-2 ตอนนี้ทีมช้างศึกรั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม โอกาสเข้ารอบไม่สดใสแต่ยังมีหวัง

Advertisement

ส่วนฟุตบอลหญิงชุดใหญ่ ไปบู๊ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2019 ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันที่ทีมชบาแก้วคว้าตั๋วไปแข่งขันได้ อย่างไรก็ตามครั้งนี้ไทยแพ้ 3 นัดรวดในรอบแบ่งกลุ่ม และโดนสหรัฐอเมริกาถล่ม 13-0 เป็นสถิติการยิงประตูที่มากที่สุดในฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก รอบสุดท้ายอีกด้วย
หลังจบภารกิจ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม และ “โค้ชหนึ่ง” หนึ่งฤทัย สระทองเวียน หัวหน้าผู้ฝึกสอน ประกาศขอวางมือ เพื่อส่งไม้ต่อให้คนอื่นมาทำหน้าที่บ้าง สุดท้ายสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แต่งตั้งให้ “โค้ชก้าง” นฤพล แก่นสน มาทำหน้าที่เฮดโค้ชแทน

ยกน้ำหนักโดนถอนรากถอนโคน
ยกน้ำหนักเป็นกีฬาความหวังของไทยในทุกๆ มหกรรม แถมในปี 2562 ประเทศไทยยังได้สิทธิเป็นเจ้าภาพการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2019 อีกด้วย โดยจัดขึ้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 18-27 กันยายน อย่างไรก็ตามองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก(วาด้า) ได้ตรวจพบว่ามีนักยกเหล้กไทยที่ใช้สารต้องห้ามถึง 9 คน ซึ่งรวมไปพถึงแชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2016 อย่าง “แนน” โสภิตา ธนสาร และ “ฝ้าย” สุกัญญา ศรีสุราช ด้วย ทำให้สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ ประกาศห้ามไทยส่งจอมพลังลงแข่งขันรายการระดับนานาชาติทั้งหมด โดยเฉพาะโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มิหนำซ้ำ ศึกชิงแชมป์โลกที่ไทยเป็นเจ้าภาพเอง ก็ทำได้แค่นั่งมองต่างชาติแข่งขันเท่านั้น

Advertisement

ขณะที่กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สหพันธ์ยกเหล็กก็ยังไม่อนุญาตให้ทัพไทยลงแข่งด้วยซ้ำ เหมือนเป็นถอนรากถอนโคนเลยทีเดียว เรื่องนี้สมาคมกีฬายกน้ำหนักแห่งประเทศไทยฯ ออกมาบอกว่า สาเหตุที่เจอนักกีฬาโด๊ปเยอะขนาดนั้น เป็นผลมาจากโค้ชใช้ยาแก้ปวดทาให้นักกีฬา ซึ่งไม่เคยรู้ว่ามีสารต้องห้ามมาก่อน เป็นการใช้โดยไม่รู้มาก่อน แต่สุดท้ายก็ไม่รอด นักกีฬาโดนแบนยาว 4 ปี แทบจะปิดฉากการเป็นนักยกน้ำหนักแล้วก็ว่าได้

‘เจ้าแหลม’เข็มขัดแชมป์กระเด็น
“แหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมป์โลกรุ่นซุปเปอร์ฟลายเวต ของสภามวยโลก(ดับเบิลยูบีซี) ไม่สามารถรักษาเข็มขัดแชมป์โลกให้อยู่ในประเทศไทยได้ หลังจากที่แพ้คะแนนแบบเอกฉันท์ให้ ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า ผู้ท้าชิงชาวเม็กซิโก ที่เดอะฟอรัม อิงเกิลวูด แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 เมษายน ถึงแม้อดีตแชมป์โลกชาวไทยจะเตรียมตัวมาดี แต่เหมือนกับว่าเอสตราด้าเตรียมแก้เกมรับมือมาเป็นอย่างดี
สำหรับในปีหน้า ดับเบิลยูบีซีได้ให้เจ้าแหลมเป็นตัวยืนในการรอพบกับผู้ชนะระหว่างฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า ที่คิวขึ้นชกเดิมพันธ์แชมป์กับ คาลิด ยาไฟ แชมป์โลกรุ่นเดียวกันจากอังกฤษ ของสมาคมมวยโลก(ดับเบิลยูบีเอ) ในช่วงต้นปีหน้า เพื่อกลับมาทวงแชมป์โลกคืนให้ได้อีกครั้ง

ไทยหัวหอกอาเซียนขอจัดบอลโลก
อาเซียนสนใจที่จะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกมานานแล้ว โดยเฉพาะไทยที่คิดการใหญ่เรื่องนี้มาตลอด และในปีนี้ 5 ชาติในอาเซียนประกอบด้วย ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย ได้มีมติตรงกันว่าจะเดินหน้าเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2034 ในอีก 15 ปีข้างหน้า และได้มีการตั้งคณะทำงานในการเสนอตัวครั้งนี้เอาไว้แล้ว
การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ประเทศไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) ได้มาร่วมลงนามสนับสนุนวงการฟุตบอลอาเซียนและหนุนหลังให้อาเซียนเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกตามที่ตั้งใจกันไว้ด้วย
สำหรับประเทศที่ได้เสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลกในปี 2034 แข่งกับอาเซียน มีทั้งจีน อียิปต์ ซิมบับเว ไนจีเรีย รวมทั้งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมกัน

‘เชียงราย’ประกาศศักดาคว้าแชมป์ไทยลีก
ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2019 ต้องตัดสินกันถึงนัดสุดท้ายเลยทีเดียว โดยโค้งสุดท้าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, เชียงราย ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี ต่างมีโอกาสคว้าแชมป์กันทั้ง 3 ทีม อย่างไรก็ตาม เมื่อจบนัดรองสุดท้ายเหลือเพียง “จ่าฝูง” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ “รองจ่าฝูง” เชียงราย ยูไนเต็ด เท่านั้นที่มีลุ้นแชมป์ ณ ตอนนั้นบุรีรัมย์มี 57 แต้ม เชียงรายมี 55 แต้ม บุรีรัมย์โอกาสดีมาก เพราะเจอกับเชียงใหม่ เอฟซี ที่ตกชั้นไปแล้ว ส่วนเชียงรายต้องบุกเยือนสุพรรณบุรี เอฟซี ที่ดิ้นรนหนีตกชั้นเช่นกัน
บุรีรัมย์ชนะได้แชมป์ทันที แต่ถ้าเสมอแล้วเชียงรายชนะ เชียงรายจะเป็นแชมป์ด้วยเฮดทูเฮดที่ดีกว่าในการเจอกับบุรีรัมย์ และสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น เมื่อเชียงใหม่สามารถยันเสมอบุรีรัมย์ 1-1 ส่วนเชียงรายบุกยิงชนะ 3-1 ทะยานคว้าแชมป์ไทยลีกเป็นสมัยแรกได้แบบสะใจกองเชียร์
สำหรับบุรีรัมย์เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีที่ไม่มีแชมป์ติดมือเลย ถึงแม้ว่าปีนี้จะเข้าชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ แต่กลับแพ้ให้พีที ประจวบไปในรอบชิงชนะเลิศอีก

ประเด็นใหญ่ของวงการวอลเลย์บอล
วอลเลย์บอลไทยมีประเด็นมากมายในปีนี้ โดยเฉพาะการเตรียมทีมสู้ศึกวอลเลย์บอลหญิง ชิงโควต้าโอลิมปิกเกมส์ 2020 ในเดือนมกราคมนี้ ซึ่ง “ซาร่า” นุศรา ต้อมคำ มือเซตระดับโลก และ คิม ยอน คยอง กัปตันทีมเกาหลีใต้ ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาก่อน อยู่ๆ ก็ประกาศยุติความสัมพันธ์กันไป จนต้องหาคำตอบว่าเกิดจากอะไร หลายคนบอกว่ามาจากการต้องการคว้าโควต้าโอลิมปิกให้ได้ เพราะทั้งไทยและเกาหลีใต้เป็น 2 ทีมเต็งที่จะแย่งตั๋วใบเดียวของเอเชีย หรืออาจจะมีสาเหตุที่ลึกซึ้งกว่านั้น แต่กลับไม่มีคำตอบที่ชัดเจน
อีกเรื่อง คือ นักตบสาวไทยประกาศศักดาคว้าเหรียญทองซีเกมส์ เป็นสมัยที่ 12 ติดต่อกัน และเป็นสมัยที่ 14 ซึ่งเป็นเรื่องแบบเบอร์อยู่แล้ว แต่สิ่งที่แฟนวอลเลย์บอลใจหาย คือ การประกาศอำลาทีมชาติ(เฉพาะซีเกมส์)ของ “อร” อรอุมา สิทธิรักษ์ และ “กิ๊ฟ” วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ แต่ยังช่วยทีมในการลุ้นโควต้าโอลิมปิกอยู่ อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้สูงที่นักตบตัวเก๋าคนอื่นๆ จะประกาศลาทีมชาติอย่างเป็นทางการในปีหน้า อาจจะเป็นหลังจากจบการแข่งขันรอบคัดเลือก โอลิมปิก หรือจบโอลิมปิ รอบสุดท้าย ที่ประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว เพราะถือเป็นเกียรติประวัติสูงสุดและเติมเต็มฝันได้แล้ว
ส่วนอีกเรื่องที่ต้องให้กำลังใจกัน คือ การที่วิลาวัณย์ออกมาเปิดเผยว่าตัวเองเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วมาประมาณ 2-3 ปีแล้ว แต่ยังอยู่ในช่วงการรักษาและยังช่วยทีมได้อยู่

กีฬาไทยคว้าแชมป์โลก
นักกีฬาไทยยังได้แชมป์โลกมาหลายคน คนแรก “น้องมิลค์” วรรรญา วรรณผ่อง หรือน้องมิลค์หน้านิ่ง ป้องกัยแชมป์โลก ในการแข่งขัน “2019 เอฟเอไอ เวิลด์ โดรน เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ แกรนด์ ไฟนัล” ที่ประเทศจีน ซึ่งสาวน้อยวัย 12 ยังคงเอาชนะนักกีฬารุ่นพี่หลายๆ คนได้เหมือนปีก่อน
ขณะที่ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดสาวไทยยังประกาศศักดาไม่แพ้ใครตลอดการแข่งขันปีนี้ และเก็บมาได้ถึง 6 แชมป์สำคัญๆ ตลอดปี ได้แก่ เบลเยียม โอเพ่น ที่ประเทศเบลเยียม, ชิงแชมป์โลก ที่ประเทศอังกฤษ, กีฬามหาวิทยาลัยโลก ที่ประเทศอิตาลี, ชิบะ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ และซีเกมส์ ครั้งล่าสุด รวมทั้งเวิลด์ แกรนด์สแลม แชมเปี้ยนส์ ซีรีส์ 2019
นอกจากนั้นพาณิภัคยังได้รับรางวัลใหญ่ คือ เวิลด์ แกรนด์สแลม พร้อมทั้งการยืนยันได้สิทธิไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 แน่นอนแล้ว นอกจากนั้นยังปิดปีด้วยการเป็นเบอร์ 1 ของโลกในรุ่น 49 กก.หญิงด้วย

‘ธีราทร’ แข้งไทยคนแรกเถลิงแชมป์เจลีก
“อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ที่ไปเล่นกับ วิสเซล โกเบ ในเจลีก ญี่ปุ่น เมื่อปี 2018 ไม่ได้รับการขยายสัญญาใหม่ ทำให้ต้องโยกมาเล่นให้กับ โยโกฮามา เอฟ มารินอส ทีมร่วมลีกด้วยสัญญายืมตัว
แบ๊กทีมชาติไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นตัวหลักของมาริสนอสตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา ลงเล่นให้ต้นสังกัดทุกรายการ 30 นัด ทำ 3 ประตู แอสซิสต์ 4 ประตู ที่สำคัญเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทีมคว้าแชมป์เจลีกได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยนัดสุดท้ายยิง 1 ประตู ให้มารินอสถล่มเอฟซี โตเกียว 3-0 กลายเป็นนักเตะไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของญี่ปุ่นได้สำเร็จ
หลังจากที่ได้เแชมป์แล้ว สัญญายืมตัวของธีราทรหมดลง ทำให้เขาต้องกลับสู่เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ต้นสังกัดที่ไทยอีกครั้ง และมีข่าวว่าจะไม่มีการซื้อขาดกลับไปเล่นในเจลีก ซึ่งเจ้าตัวเปิดอกว่าพร้อมจะกลับไปช่วยเมืองทองอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดมารินอสที่ประทับใจกับผลงานของแข้งไทยรายนี้ได้ทุ่มเงิน 36 ล้านบาท ซื้อตัวไปแบบถาวร และเซ็นสัญญากัน 3 ปี

ตั๋วโอลิมปิก10ใบของทัพไทย
นักกีฬาไทยมีดปรแกรมใหญ่ คือ โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ในปีหน้า ตลอดปี 2562 มีนักกีฬาที่ได้โควต้าไปแข่งขันแล้ว 13 คน รวม 10 โควต้า คือ ยิงเป้าบิน 3 คน “ณี” สุธิยา จิวเฉลิมมิตร และ “วอร์ม” อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข ในประเภทสกีตหญิง และ เศวต เศรษฐาภรณ์ ประเภทแทร็ปชาย / ยิงปืน 3 คน “ธันย่า” ธันยพร พฤกษากร, “เอิน” ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์, อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ / เรือใบ 1 คน “แบม” กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม / วินด์เซิร์ฟ 1 คน “ดาว” ศิริพร แก้วดวงงาม / จักรยาน 1 คน “บีซ” จุฑาธิป มณีพันธ์ / เทควันโด 1 คน “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ / ขี่ม้า ทีมอีเวนติ้ง “มิ้น” อาริย์ณัฏฐา ชวตานนท์ (ม้าโบลีนบาว์น ปรินซ์), “นัท” กรธวัช สำราญ (ม้าลูมมินอส), “บอมบ์” วีรภัฎ ปิฏกานนท์ (ม้าชาโต เดอ แวร์ซาย) และ “กั๊ม” ศุภณัฐ วรรณกุล (ม้าซาร์ ออฟ เฮอร์ ดรีมส์)
ในปี 2563 ไทยยังมีลุ้นโควต้าจากหลายกีฬา ทั้งกอล์ฟ, แบดมินตัน, ว่ายน้ำ, กรีฑา, เทควันโด, จักรยาน, วอลเลย์บอล, ฟุตบอล

ซีเกมส์ที่ไม่น่าจดจำ
ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ นับเป็นซีเกมส์ที่ทัพไทยทำผลงานได้น่าผิดหวังมากครั้งหนึ่งในรอบหลายสิบปีหลัง ก่อนเดินทางไปรู้กันอยู่แล้วว่าคงไม่สามารถเอาชนะเจ้าภาพในการเป้นเจ้าเหรียญทองได้ แต่ตั้งเป้าจบอันดับ 2 และหวังกันไว้ที่ 121 เหรียญทอง จาก 54 ชนิดกีฬา
ปิดฉากการแข่งขันทัพไทยได้ไป 92 เหรียญทอง 103 เหรียญเงิน 123 เหรียญทองแดง เป็นอันดับ 3 ของตาราง ฟิลิปปินส์ โกยไป 149 เหรียญทอง คว้าเจ้าเหรียญทองสมัยที่ 2 ไปครองได้ในรอบ 14 ปี ขณะที่อันดับ 2 เวียดนาม 98 เหรียญทอง ส่วนกีฬาสากล เวียดนาม ยึดแชมป์ 70 เหรียญทอง อันดับ 2 ฟิลิปปินส์ 69 เหรียญทอง และอันดับ 3 ไทย 64 เหรียญทอง
การจบอันดับ 3 ซึ่งหลุดจาก 2 อันดับแรกในตารางเหรียญรวมซีเกมส์เป็นครั้งเเรกในรอบ 28 ปี หลังจากซีเกมส์ก่อนหน้านี้ 14 ครั้ง ถ้าไม่เป็นเจ้าเหรียญทองก็จะจบเป็นอันดับ 2 ครั้งสุดท้ายที่จบต่ำกว่าอันดับ 2 คือซีเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ปี 2534 ครั้งนั้นจบอันดับ 3 เป็นรองอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
น่าผิดหวังไปกว่านั้น ฟุตบอลชายไทย แชมป์เก่า 3 สมัย ตกรอบแรก ฟุตบอลหญิงยังก้าวไม่ผ่านเวียดนาม แพ้สาวญวนในรอบชิงชนะเลิศ ได้แค่เหรียญเงินอีกปี เทนนิสที่ได้เหรียญทองมาเป็นกอบเป็นกำตลอด ครั้งนี้ไม่มีเหรียญทองติดมือเลยในรอบ 32 ปี หลายกีฬาก็ทำผลงานต่ำกว่าเป้า ทำให้ต้องกลับมาทำการบ้านกันครั้งใหญ่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image