ย้อนไปเมื่อปลายฤดูกาลที่แล้ว ต่อเนื่องถึงช่วงเปิดตลาดฤดูกาลนี้ ชื่อของ เนย์มาร์ ซุปเปอร์สตาร์ชาวบราซิเลียน กลายเป็นประเด็นร้อนว่ากำลังเล่นไม้แข็งกับต้นสังกัด ปารีส แซงต์แชร์แมง เพื่อกดดันขอย้ายทีม
เวลานั้นมีรายงานว่า เจ้าของสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกไม่แฮปปี้กับสถานการณ์ในทีมเปแอสเช เพราะนอกจากจะมีปัญหากับเพื่อนร่วมทีมบางราย โดยเฉพาะดาวซัลโว เอดินสัน คาวานี่ แล้ว ยังรู้สึกว่าตัวเองโดนรุ่นน้องที่มาทีหลังอย่างแข้งแชมป์โลก คีเลียน เอ็มบัปเป้ ขโมยซีนไปอีก
เท่านั้นไม่พอ เขายังโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องฟอร์มการเล่นที่ติดแอ๊ค ติดโชว์มากเกินไป ไม่คำนึงถึงทีมเป็นหลัก ไหนจะ “ดราม่า” ลีลาอาการเจ็บเกินกว่าเหตุเวลาโดนเสียบสกัดอีก
เนย์มาร์ก่อหวอดกับต้นสังกัดด้วยการไปรายงานตัวเข้าแคมป์เก็บตัวพรีซีซั่นช้า หวังว่าอาการดื้อแพ่งนี้จะช่วยให้เขาสมหวังในการกลับไปค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า
พอเปแอสเชยืนกรานไม่ยอมลดค่าตัวเนย์มาร์เพื่อขายคืนให้บาร์ซ่า ก็ถึงขั้นมีข่าวว่าเจ้าตัวยินดีควักเงินเอง 17.7 ล้านปอนด์ (708 ล้านบาท) สมทบทุนส่วนต่างเพื่อให้ได้ย้ายกลับถิ่นคัมป์นู
แต่ความหวังทุกอย่างพังทลาย ด้วยจังหวะเวลาที่ไม่ลงตัว เมื่อทั้งคาวานี่และเอ็มบัปเป้มาเจ็บในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้ปารีสเลือกที่จะเก็บเนย์มาร์ไว้ ตอนที่แข้งบราซิเลียนไปสมทบกับทีม
เขาจึงโดนแฟนๆ ส่วนใหญ่แอนตี้ บางส่วนถึงขั้นชูป้าย “เนย์มาร์ออกไป” ในเกมลีกเอิงนัดแรกๆ ด้วยซ้ำ!
ช่วงนั้นไม่ว่าเนย์มาร์จะทำอะไร ก็มักจะโดนแฟนบอลเปแอสเชต่อต้าน ขนาดตอนที่ยิงประตูสำคัญในเกมได้ ก็ยังโดนโห่ จนต้องสงวนท่าทีการฉลองประตูเพื่อลดฟีดแบ๊กด้านลบจากแฟนๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อฤดูกาลผ่านพ้นมาค่อนทางถึงตอนนี้ กลายเป็นว่า “เนย์มาร์ยุค 2020″ กำลังอยู่ในช่วงที่ท็อปฟอร์มที่สุดช่วงหนึ่งของตัวเอง ด้วยสถิติลงสนาม 17 นัดในทุกถ้วย ยิงไปแล้ว 15 ประตู กับ 9 แอสซิสต์
ถ้านับเฉพาะช่วงที่เนย์มาร์หายเจ็บกล้ามเนื้หลังต้นขากลับมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน เขายิงไปแล้ว 11 ประตู ในจำนวนนี้เป็น 9 ประตูจากการลงสนาม 7 นัดหลังสุดในเกมลีก
เรียกว่าตอนนี้เขากำลังเป็นในสิ่งที่แฟนๆ เปแอสเชอยากเห็นมาตั้งแต่สโมสรทุ่มเงินค่าฉีกสัญญา 200 ล้านปอนด์ (8,000 ล้านบาท) กระชากตัวเขาจากบาร์ซ่าเมื่อปี 2017
แต่สิ่งที่ทำให้แฟนๆ รู้สึก “ให้อภัย” เรื่องที่เจ้าตัวต่อต้านพยายามบีบย้ายทีมเมื่อต้นฤดูกาล ไม่ใช่ผลงานในสนามเป็นสำคัญ แต่เป็นทัศนคติที่ดูเปลี่ยนไปในช่วง 2-3 สัปดาห์หลัง
เนย์มาร์ตอนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่ นิ่งขึ้น ทุ่มเทให้ทีมมากขึ้น อะไรที่เคยโดนวิจารณ์ก็แก้ไข เช่นการลงไปช่วยเกมรับ การประสานงานในแดนกลางเพื่อเปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมมีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้น และไม่ค่อยมีท่ากลิ้ง 10 ตลบที่หลายคนชอบเอามาล้อเลียนให้เห็นอีก
บางคนมองว่าเขาอาจจะทุ่มเทเพื่อโชว์ศักยภาพให้ทีมใหญ่ๆ ทุ่มเงินมาดึงตัวไปหลังจบฤดูกาล แต่ก็มีหลายคนที่เชื่อว่าเขาให้ใจกับปารีส แซงต์แชร์แมง เต็มร้อยแล้วจริงๆ และมีเป้าหมายสำคัญร่วมกันในการก้าวไปคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่รอคอยเสียที
ขณะที่ผู้บริหารเปแอสเชเองก็ดูจะแฮปปี้กับสถานการณ์เวลานี้ จนมีข่าวว่าได้เริ่มๆ เจรจาเรื่องสัญญาใหม่กับแข้งแซมบ้าบ้างแล้ว
สิ่งหนึ่งที่หลายคนตั้งข้อสังเกตด้วยความเป็นห่วงคือ ช่วงเวลานี้ของหลายๆ ปี มักเป็นช่วงที่เนย์มาร์เจ็บหนักจนพักยาวและมีผลทั้งระดับสโมสรและทีมชาติอย่างน่าเจ็บใจ
ในปี 2018 เขาบาดเจ็บกระดูกนิ้วเท้าหักในเกมเตะกับ มาร์เซย ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ จนต้องปิดฤดูกาลล่วงหน้า กว่าจะหายก็แค่ก่อนแข่ง ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย เพียงไม่นาน
มาฤดูกาลที่แล้วก็เจ็บเท้าช่วงปลายเดือนมกราคม ทำให้ไม่ได้ลงสนามเกมสำคัญที่เปแอสเชพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนจะกลับมาได้ช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนปิดซีซั่น
หลายคนจึงอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า แข้งวัย 27 ซึ่งกำลังจะเต็ม 28 ปีในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ จะผ่านพ้นช่วงเวลาอาถรรพ์ของตัวเองไปได้หรือไม่
เมื่ออุตส่าห์กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนใหม่ได้ แฟนๆ ก็อยากให้เห็นเขาพาทีมสู่ความสำเร็จที่รอคอยมานานเสียที!
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
