หากจะพูดถึงนักเตะจากเอเชียที่ตอนนี้กำลังเป็นที่น่าจับตามอง ต้องมีชื่อของ ทาเคฟุสะ คุโบะ เพลย์เมกเกอร์วัย 18 ปี ติดอยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน เพราะแค่ตอนย้ายทีม เจ้าหนูคนนี้ก็สร้างความโด่งดังเป็นข่าวทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปแล้วครั้งหนึ่ง
ทาเคฟุสะ คุโบะ คือหนึ่งในเด็กปั้นผลผลิตจาก “ลามาเซีย” ศูนย์เยาวชนชื่อดังของทีม “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า มีฉายาว่า “เมสซี่แห่งแดนอาทิตย์อุทัย” เพียงแต่ว่าตอนนี้เจ้าตัวกำลังมีอนาคตที่สดใสกับคู่อริตลอดกาลอย่าง “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด
ต้นกำเนิดของคุโบะนั้น เจ้าตัวถือว่าฉายแสงมาตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งอายุเพียง 8 ขวบเท่านั้น แต่กลับสามารถโชว์ศักยภาพ และเทคนิคที่ตัวเองมีจนเข้าตาของทีมงานบาร์เซโลน่า ที่มาเปิดฟุตบอลแคมป์ที่ประเทศญี่ปุ่นถูกอกถูกใจ พร้อมกับให้โอกาสได้ไปทดสอบฝีเท้าที่ประเทศสเปน จนสุดท้ายก็ได้เซ็นสัญญากับบาร์เซโลน่าในที่สุด
บาร์เซโลน่าชื่นชอบตัวคุโบะอย่างมาก เลี้ยงดูเป็นอย่างดี ขณะที่คุโบะนั้นก็ตอบแทนความไว้วางใจของบาร์เซโลน่า ด้วยผลงานในสนามทำไปถึง 74 ประตู จาก 30 นัดที่ลงเล่น ด้วยอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น ไต่เต้าจากระดับเยาวชนขึ้นมาเรื่อยๆ และน่าจะมีโอกาสขึ้นถึงชุดใหญ่ได้ไม่ยากนัก
แต่ว่าในปี 2014 สวรรค์ของคุโบะก็มีอันต้องล่มลง เพราะว่าสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มีคำสั่งว่าทีมเจ้าบุญทุ่มนั้นทำผิดกฎการซื้อขายนักเตะเยาวชน โดยมีถึง 9 นักเตะที่บาร์เซโลน่าซื้อมาอย่างผิดกฎ และในนั้นมีชื่อของคุโบะอยู่ด้วย
บาร์เซโลน่าพยายามอย่างหนักที่จะอุทธรณ์โทษนี้ แต่ก็ไม่สำเร็จทำให้ถูกลงโทษห้ามลงทะเบียนนักเตะใหม่ 2 ตลาดซื้อขายยุโรปด้วยกัน นอกจากนี้นักฟุตบอลที่ถูกตรวจพบว่าดึงเข้ามาแบบไม่ถูกกฎนั้น ก็จะไม่สามารถลงเล่นให้กับทีมได้ด้วยจนกว่าจะพ้นโทษแบนนี้
ซึ่งคุโบะก็คือหนึ่งใน 9 นักเตะที่ถูกเซ็นสัญญามาแบบผิดกฎ ทำให้เขาได้เพียงแค่ลงซ้อมกับทีมเท่านั้น และเจ้าตัวก็มองว่าถ้าอยู่ต่อไปโดยไม่ได้ลงเล่น จะส่งผลกระทบต่ออาชีพฟุตบอลของเขาเอง สุดท้ายจึงตัดใจเลือกย้ายกลับประเทศญี่ปุ่น และได้เซ็นสัญญากับ เอฟซี โตเกียวแทน
คุโบะที่ตอนนี้อายุ 14 ปี ได้กลับมาเล่นในบ้านเกิดของตัวเองอีกครั้ง ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากศูนย์ฝึกที่ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่มีพัฒนาการเหนือกว่าผู้เล่นวัยเดียวกันในประเทศ ทำผลงานก้าวขึ้นมาทีละระดับ จากยู-18 ไปยู-23 จนในปีต่อมาก็ได้รับโอกาสลงเล่นเกมเจลีก3 เป็นครั้งแรก
จากนั้นคุโบะทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในฟุตบอลลีกอาชีพของญี่ปุ่น ด้วยวัยเพียง 15 ปี กับ 10 เดือนเท่านั้น ก่อนที่เจ้าตัวจะขึ้นไปติดทีมชุดใหญ่ของเอฟซี โตเกียว ในที่สุด และได้รับสัญญาอาชีพที่มีค่าเหนื่อยเทียบเท่ากับผู้เล่นชุดใหญ่ ด้วยวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น
ผลงานของคุโบะในเจลีก ได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของเอฟซี โตเกียว ไป 16 นัด ทำได้ 5 ประตู และแอสซิสต์อีก 4 หน จนได้ติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ในที่สุด มีชื่อในเกมอุ่นเครื่องกับตรินิแดด และโตเบโก กับเอล ซัลวาดอร์
คุโบะมีพัฒนาการแบบก้าวกระโดด จนเตะตาบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ในโลกโดยเฉพาะแมนเชสเตอร์ ซิตี้, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ขณะที่สัญญาของคุโบะกับเอฟซี โตเกียวก็ใกล้จะหมดลงในวันที่ 1 มิถุนายน 2019 และคุโบะไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสัญญา เนื่องจากต้องการกลับไปค้าแข้งในยุโรป วันที่ 4 มิถุนายน 2019 จึงเป็นวันที่หลายสโมสรที่อยากได้เจ้าหนุ่มรายนี้ไปร่วมทีมตั้งตารอ เพราะเป็นวันเกิดครบ 18 ปีบริบูรณ์ สามารถย้ายทีมได้ตามกฎของฟีฟ่านั่นเอง
หลายคนมองว่าอย่างไรคุโบะก็ต้องเลือกกลับไปค้าแข้งกับเจ้าบุญทุ่มแน่ เพราะเคยไปใช้ชีวิตเป็นเด็กฝึกกับบาร์ซ่าตั้ง 4 ปี การปรับตัวในด้านต่างๆ แทบไม่ต้องกังวลอะไร ทั้งเรื่องภาษา ความเป็นอยู่ การใช้ชีวิต ระบบระเบียบ แนวทางฟุตบอลของบาร์ซ่า คุโบะเคยได้สัมผัสมันมาหมดแล้ว และคุโบะเองคงไม่ปฏิเสธถิ่นที่ตนเองเคยย้ายไปร่วมชายคามาแล้ว
แต่แล้วใครหลายคนต้องหงายหลัง โดยเฉพาะบรรดาแฟนๆ ของบาร์ซ่า คุโบะตัดสินใจเลือกย้ายไปค้าแข้งกับคู่รักคู่แค้นตลอดกาลอย่างเรอัล มาดริด โดยให้เหตุผลว่า “เรอัล มาดริดแสดงความชัดเจนว่าต้องการตัวผม และมีแผนงานสำหรับอนาคตของผม ซึ่งสิ่งนั้นมันโน้มน้าวผม” เรอัล มาดริดจัดการเซ็นสัญญาทาเคฟุสะ คุโบะด้วยสัญญายาว 6 ปี จ่าย 2 ล้านยูโรให้เอฟซี โตเกียวเป็นค่าสินสอด
เมื่อย้ายมาร่วมทัพราชันชุดขาว คุโบะได้ซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่ และทัวร์ปรีซีซั่นร่วมกับทีมที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ภายหลัง มาร์ก้า สำนักข่าวกีฬาชื่อดังแห่งกรุงมาดริดเปิดเผยว่าซีเนอดีน ซีดานเริ่มถูกตาต้องใจในหนุ่มน้อยจากญี่ปุ่นคนนี้แล้ว และกำลังทบทวนว่าจะใส่ชื่อคุโบะลุยฤดูกาล 2019-2020 หรือไม่ เพราะด้วยเรื่องกฎ น็อน-อียู(Non-EU) ที่สหพันธ์ฟุตบอลสเปน(อาร์เอฟอีเอฟ) กำหนดให้ทีมในลีกอาชีพสเปนมีโควตาลงทะเบียนนักเตะต่างชาติได้ไม่เกิน 3 คน หากซีดานไม่เลือกคุโบะ ซามูไรหนุ่มก็มีทางเลือกอยู่ 2 ทางคือ ลงไปเล่นกับทีมชุดกาสตีย่าในดิวิชั่น 3 หรือย้ายไปยืมตัวกับทีมอื่นในลาลีก้า
สุดท้ายคนที่ซีดานเลือกใช้โควตา น็อน-อียู ได้แก่นักเตะบราซิลทั้งสิ้น อาทิ เอแดร์ มิลิเตา กองหลังจากปอร์โต้, โรดรีโก้ โกเอส ปีกเทคนิคดีจากซานโต๊ส และ วินิซิอุส จูเนียร์ปีกความเร็วสูง ก่อนที่คุโบะจะย้ายไปอยู่กับ รีล มายอร์ก้า ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล
ตอนนี้เกมลาลีก้าดำเนินมาถึง 27 นัด คุโบะได้ลงเล่นไปแล้ว 24 เกม ยิงไป 3 ประตู ทำแอสซิสต์ไป 3 ครั้ง และได้ลงเล่นเกมโกปา เดล เรย์ 1 นัด
นอกจากคุโบะ นักเตะเอเชียที่ค้าแข้งในลาลีก้ายังมี อี คัง อิน มิดฟิลด์ตัวรุกชาวเกาหลีใต้ของบาเลนเซีย ที่ฤดูกาลนี้ได้ลงเล่นในลีกไป 11 นัด ยิงไป 1 ประตู ได้เล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ไป 5 นัด และได้เล่นในโกปา เดล เรย์ 2 นัด
ขณะที่ อู่ เล่ย ปีกชาวจีนของเอสปันญ่อล ฤดูกาลนี้ได้เล่นในลีกไป 22 เกม ยิงไป 3 ประตู, ในยูโรป้า ลีกลงเล่นไป 13 นัด ยิงไป 2 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ และลงเล่นในโกปา เดล เรย์ไป 2 นัด และทาคาชิ อินุอิ ปีกชาวญี่ปุ่นของเออิบาร์ ลงเล่นในลีกไป 20 นัด ยิงไป 1 ประตู ทำแอสซิสต์ 4 ครั้ง
เทียบกับพวกรุ่นพี่ชาวเอเชียแล้ว คุโบะถือว่าทำผลงานได้ไม่แย่นัก แต่ยังคงห่างไกลกับคำว่าเวิลด์คลาส และการจะขึ้นมาเบียดแย่งพื้นที่ตัวจริงในทัพราชันชุดขาวนับว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะจะมีบรรดาซูเปอร์สตาร์ฝีเท้าระดับโลกเวียนเข้ามาอยู่เรื่อยๆ
อย่างไรก็ตามยังมีเวลาให้ขัดเกลาฝีเท้าอีกมากมายด้วยวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น ยังต้องสั่งสมประสบการณ์ต่อไป ทั้งเทคนิคการเล่น ความเร็ว สัมผัสบอลแรก การไปกับบอล และพรสวรรค์ ด้วยศักยภาพเหล่านี้เห็นได้ชัดว่าคุโบะมีแววเฉิดฉาย ต้องลับคมสิ่งที่มีอยู่เดิม และเพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆ
หากว่าเจ้าตัวกลับมาสู่รีล มาดริดในเวลาที่ใช่ พร้อมด้วยฝีเท้าอันเหลือร้าย ในอนาคตคุโบะอาจมีโอกาสขึ้นไปอยู่ระดับเดียวกับรุ่นพี่ชาวเอเชียอย่างซน ฮึง มิน หัวหอกชื่อดังชาวเกาหลีใต้ของท็อตแนม ฮอตสเปอร์แห่งศึกพรีเมียร์ลีกก็เป็นได้
แต่ ณ ตอนนี้พูดได้เต็มปากเลยว่าความหวังใหม่แห่งวงการลูกหนังแดนอาทิตย์อุทัยถือกำเนิดขึ้นแล้ว
