สกู๊ปพิเศษ รู้จัก ดีตมาร์ ฮ็อปป์ ตัวโกงของวงการลูกหนังเมืองเบียร์?

ย้อนความจำไปสักเล็กน้อยเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในแมตช์บุนเดสลีก้าคู่ระหว่าง ฮอฟเฟ่นไฮม์ กับ บาเยิร์น มิวนิก ซึ่งลงเอยด้วยความปราชัยของเจ้าบ้าน 0-6 กลับมีบทสรุปที่น่าแปลกตาช่วง 13 นาทีสุดท้าย

เมื่อนักเตะทั้ง 2 ทีมไม่ได้ทำอะไรนอกจากการส่งบอลไปมาราวกับกำลังซ้อมเบาๆ ต่อหน้าผู้ชม 30,000 คนในสนาม ก่อนกรรมการจะเป่านกหวีดหมดเวลาเมื่อครบ 90 นาทีอย่างรวดเร็ว

เหตุการณ์ประหลาดครั้งนี้เริ่มต้นจากความวุ่นวายในช่วงครึ่งหลัง เมื่อแฟนบอลทีมเยือนพากันชูป้ายผ้าที่มีข้อความหยาบคาย ประโยคหนึ่งบอกว่า “Du Hurensohn” หรือแปลว่า “ไอ้ลูกกะหรี่” โดยเน้นตัวอักษร D กับ H ที่ขึ้นต้นคำ

DH ที่ว่านี้ยังเป็นตัวย่อของชื่อ ดีตมาร์ ฮ็อปป์ ประธานสโมสรฮอฟเฟ่นไฮม์ เป้าหมายที่แฟนบอลเหล่านี้พุ่งเป้าความเกลียดชังซึ่งอยู่บนอัฒจันทร์วีไอพีในวันนั้นด้วย

Advertisement

แม้ว่านักเตะ สต๊าฟโค้ช และผู้บริหารทีมเสือใต้ที่อยู่ในสนามจะพยายามใช้ทั้งไม้อ่อนไม้แข็งให้แฟนบอลตัวเองหยุดพฤติกรรมดังกล่าวก็ไม่เป็นผล กรรมการจึงสั่งหยุดเกม 20 นาที ให้นักเตะกลับเข้าอุโมงค์ ก่อนกลับมาแข่งขันอีกครั้งและลงเอยด้วยภาพแปลกตาดังกล่าว

สำนักข่าว บีบีซี บอกว่า ฮ็อปป์คือบุคคลที่เป็นที่เกลียดชังที่สุดของวงการลูกหนังเมืองเบียร์ เพียงแต่ความเกลียดชังนี้อาจไม่ได้อยู่ที่ตัวมหาเศรษฐีวัย 79 ปีรายนี้เพียงอย่างเดียว

ฮ็อปป์เป็นนักธุรกิจเจ้าของบริษัทไอที SAP ที่ประสบความสำเร็จ ทั้งยังบริจาคเงินหลายพันล้านช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อม การศึกษา การแพทย์ และช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส

Advertisement

ปลายยุค 80 เขามอบเงินสนับสนุนให้ทีมฮอฟเฟ่นไฮม์ บ้านเกิด ซึ่งสื่อประเมินแล้วน่าจะรวมเป็นเงินราวๆ 350 ล้านยูโร (11,900 ล้านบาท) ช่วยให้ “ทีมหมู่บ้าน” เล็กๆ จากเมืองที่มีประชากร 3,000 คน ทีมนี้ไต่เต้าจากระดับสมัครเล่นในลีกดิวิชั่น 6 ขึ้นสู่ลีกสูงสุด บุนเดสลีก้า ในระยะเวลาเพียง 10 ปี

ฤดูกาลแรกในบุนเดสลีก้า ฮอฟเฟ่นไฮม์ยังทำเซอร์ไพรส์รั้งตำแหน่งจ่าฝูงเมื่อผ่านครึ่งฤดูกาล และฤดูกาลที่แล้วก็สามารถเข้าถึงรอบแบ่งกลุ่มถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ในทางหนึ่ง ความสำเร็จของฮอฟเฟ่นไฮม์ และการสนับสนุนจากเบื้องหลังของฮ็อปป์คือเรื่องราวดีๆ ราวกับ “เทพนิยาย” ของวงการลูกหนังเมืองเบียร์ แต่อีกทาง แฟนบอลกลุ่มหนึ่ง โดยเฉพาะเหล่า “อุลตรา” หรือแฟนบอลสุดโต่ง กลับไม่ค่อยแฮปปี้กับเทพนิยายที่ว่านี้นัก เพราะมองว่ามีการผ่อนผันกฎเพื่อเอื้อประโยชน์กับฮ็อปป์

วงการฟุตบอลเยอรมนีมีกฎอยู่ข้อหนึ่ง เรียกว่ากฎ 50+1 ที่ป้องกันไม่ให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือภาคเอกชนใดเข้าไปเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลโดยสมบูรณ์ โดยแฟนบอลหรือสมาชิกสโมสรจะต้องได้ถือหุ้นของทีมเกินครึ่ง กล่าวคือมีอำนาจในการตัดสินใจลงมติต่างๆ ครึ่งนึงบวกกับอีก 1 เสียง

อันที่จริง สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมนี (เดเอฟเบ) ผ่อนผันกฎข้อนี้ตั้งแต่กรณีของทีม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งมีบริษัทยา ไบเออร์ เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณหลัก เพียงแต่ทีมเลเวอร์คูเซ่นตั้งโดยพนักงานโรงงานของบริษัท และมีประวัติศาสตร์ทีมยาวนาน แฟนบอลจึงไม่ติดใจอะไร (เช่นเดียวกับ โวล์ฟสบวร์ก ที่ตั้งโดยพนักงานโรงงาน โฟล์กสวาเกน)

การผ่อนผันกฎนี้เรียกว่า เล็กซ์ เลเวอร์คูเซ่น เปิดโอกาสให้นักลงทุนจ่ายเงินสนับสนุนสโมสรฟุตบอลจนสามารถเข้าไปถือหุ้นใหญ่ของสโมสรเหนือแฟนอลในทางปฏิบัติ แม้ฉากหน้าจะยังอยู่บนกฎ 50+1 ก็ตาม เนื่องจากแฟนบอลของทีมไม่ได้มีปัญหาอะไร

ซึ่งกรณีของฮอฟเฟ่นไฮม์และฮ็อปป์ก็เข้าข่ายนี้ เพียงแต่ทีมหมู่บ้านทีมนี้ไม่ได้มีประวัติศาสตร์ยาวนานเหมือนเลเวอร์คูเซ่นหรือโวล์ฟสบวร์ก ทำให้แฟนบอลทีมอื่นต่อต้าน มองว่าฮ็อปป์ใช้เงินซื้อความสำเร็จให้ทีม เพราะถ้าไม่มีเงินทุนจากฮ็อปป์ ก็คงไม่มีเทพนิยายบทนี้เกิดขึ้น

ในสายตาของแฟนบอลสุดโต่ง และผู้บริหารบางทีม ฮ็อปป์จึงเป็นเหมือนตัวแทนของภาคธุรกิจที่กำลังเข้าไปกลืนกินวงการลูกหนังเมืองเบียร์ เป็นการทำลายหลักปฏิบัติและปรัชญาลูกหนังที่พวกเขายึดถือมายาวนาน

ขณะที่การต่อสู้ทางความคิดนี้ยังดำเนินต่อไป และเริ่มมีเหตุการณ์ไม่สวยงามเกิดขึ้นเป็นระยะๆ เมื่อวันก่อน ชื่อของดีตมาร์ ฮ็อปป์ ก็กลับมาปรากฏหราบนหน้าสื่อทั่วโลกอีกครั้ง ด้วยเหตุผลที่ต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

สืบเนื่องจากข่าวลือที่ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ พยายามขอซื้อสิทธิวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 ที่กำลังระบาดไปทั่วโลก หลังมีรายงานว่า บริษัท เพียววัค ของเยอรมนีใกล้ประสบความสำเร็จในการคิดค้นวัคซีนดังกล่าว

ฮ็อปป์ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของเพียววัคออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าบริษัทประสบความสำเร็จในการคิดค้นวัคซีนรักษาโควิดจริง วัคซีนนี้จะไม่ใช่ของคนพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่จะเป็นของทั้งโลก เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของมวลมนุษยชาติ

เป็นอีกเรื่องราวดีๆ ที่ราวกับเทพนิยายจากนักธุรกิจรายนี้ (อีกแล้ว)

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image