ด้วยผลงานที่ไม่เข้าตา และอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอด ดูเหมือนยักษ์ใหญ่แห่งศึกลาลีก้า สเปน อย่าง “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด จะเริ่มหมดความอดทนกับนักเตะเจ้าของฉายา “เทพบุตรวานร” แกเร็ธ เบล ปีกวัย 30 ปี ซึ่งกลับมาเป็นข่าวอีกครั้งว่า อาจย้ายต้องมองหาสังกัดใหม่ในตลาดนักเตะหน้าร้อนหลังจบฤดูกาลนี้
แกเร็ธ เบล ย้ายจาก “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษสู่ชายคา รีล มาดริด ในฤดูกาล 2013-2014 ด้วยค่าตัวสถิติโลกกว่า 100 ล้านยูโร ผลงานของ เบล ดูมีโนวแน้มไปในทิศทางที่ดี แม้จะมีอาการบาดเจ็บบ้างประปราย
ทว่าตั้งแต่ฤดูกาล 2015-2016 เป็นต้นมา เบล ถูกอาการบาดเจ็บรบกวนมากยิ่งขึ้น จนพลาดเล่นไปหลายเกม ส่วนผลงานก็ยังไม่ได้อยู่ในจุดที่ราชันชุดขาวพอใจ หรือสมกับค่าตัวอันมหาศาล…
แต่ตอนนั้นส่วนใหญ่สายตาของแฟนบอลไม่ได้จับจ้องไปที่เบลมากนัก หากแต่เป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ร่วมทีมที่เฉิดฉายถึงขีดสุด ยิงถล่มประตูเป็นว่าเล่น เบลจึงยังไม่ตกเป็นกระแสที่พูดถึงมากนัก
แต่เบลก็มีส่วนทำให้บรรดาแฟนราชันชุดขาว และทุกคนในสโมสรได้มีความสุขกันถ้วนหน้าอยู่บ้าง จากลูกยิง “โอเวอร์เฮดคิก” ใส่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2017/2018 และบวกเพิ่มอีกหนึ่งประตูตอกฝาโลงหงส์แดง พร้อมส่งราชันชุดขาวครองแชมป์ยุโรปติดต่อกัน 3 สมัยซ้อน
หลังการย้ายทีมไปของ โรนัลโด้ สตาร์อันดับหนึ่งของทีม ทุกคนทั้งภายในและภายนอกสโมสรต่างคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เบล จะก้าวขึ้นมาเฉิดฉาย และเป็นผู้นำในแนวรุกคนใหม่ ทำหน้าที่เครื่องจักรสังหารประตูแทนโรนัลโด้
ฤดูกาล 2018-2019 ถือเป็นโอกาสครั้งใหญ่สำหรับหัวหอกชาวเวลส์ที่จะได้พิสูจน์ตัวเอง และแข้งเจ้าของค่าตัวระดับกาแลคติกอสถึงเวลาแล้วที่เบลจะมาอุดรอยรั่วขนาดใหญ่ที่ขาดไปอย่างโรนัลโด้ และได้เปล่งประกายอย่างเต็มตัวเสียที
แต่อาการบาดเจ็บที่แวะเวียนมาอยู่ไม่ขาด ทำให้เบลพลาดลงสนามรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 10 นัด ยิงไปเพียง 14 ประตู และทำแอสซิสต์ 7 ครั้ง
ประกอบกับเพื่อนร่วมทีมที่พากันฟอร์มตกยกทีมเลยก็ว่าได้ เลยเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตัวของเบลเองก็เล่นไม่ออก นักเตะมาดริดทั้งทีมลงไปในแต่ละเกมเหมือนยังไม่ฟิต มีความเฉื่อยชาราวกับไม่ได้พักให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง และแน่นอนเบลหนีไม่พ้นคำครหาของบรรดาแฟนบอล
เมื่อตลาดซื้อขายนักเตะหน้าร้อนปีที่แล้ว ก่อนเปิดม่านฤดูกาลปัจจุบัน รีล มาดริด พยายามหาทางปล่อยหัวหอกชาวเวลส์รายนี้พ้นทีม แต่ไม่สำเร็จเพราะ ณ ตอนนั้นราชันชุดขาวต้องการปล่อย เบล แบบได้อะไรกลับคืนมาบ้าง โดยตั้งค่าตัวของเบลไว้ที่ประมาณ 30-40 ล้านยูโร
แม้จะมีความสนใจจากสโมสรในไชนีสซูเปอร์ลีก ของประเทศจีนเข้ามาคือ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ที่เสนอค่าเหนื่อยให้เบล 25 ล้านยูโรต่อปีหลังหักภาษีแล้ว แต่ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ก็ต้องล้มเลิกการคว้าตัวเบล เพราะไม่ต้องการจ่ายค่าตัวที่ รีล มาดริด ตั้งไว้ เนื่องด้วยข้อกำหนดที่ทุกสโมสรของจีนต้องบริจาคเงินเท่ากับจำนวนที่ใช้ซื้อนักเตะเพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลในประเทศจีน
เจียงซู ซู่หนิง เป็นอีกสโมสรที่สนใจเบล และเกือบจะได้ตัวเทพบุตรวานรไปโลดแล่นที่แดนมังกรแล้ว โดยมีรายงานว่าจะเสนอสัญญา 3 ปี พร้อมค่าเหนื่อยกว่า 1 ล้านปอนด์ต่อสัปดาห์ (ประมาณ 38 ล้านบาท) แต่ก็ต้องล่าถอยไปด้วยเหตุผลเช่นเดียวกับเซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัวเมื่อราชันชุดขาวเรียกค่าตัว ประกอบกับเมาดริดตั้งใจจะเสนอขาย เบล ให้บรรดาทีมในลีกยุโรปมากกว่า เพราะอยากให้เบลได้เล่นในลีกยุโรปต่อไป
แต่ด้วยค่าเหนื่อยอันมหาศาลของ เบล ที่ปัจจุบันรับกับมาดริดอยู่ที่ 380,000 ยูโรต่อสัปดาห์(ประมาณ 13.4 ล้านบาท) อายุก็เข้าสู่วัยเลขสามแล้ว และยังคงมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอดเรื่อยมาจนได้รับอีกฉายาหนึ่งว่า “มิสเตอร์กลาสส์” (Mr.Glass) หรือเปรียบดั่งแก้วที่พร้อมแตกได้อย่างง่ายดาย ทำให้บรรดาสโมสรในยุโรปส่ายหน้าหนีไม่มีใครพร้อมจะเข้ามาสู่ขอ เบล ไปร่วมทีม
ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้เองที่ทำให้เทรนเนอร์อย่าง ซีเนอดีน ซีดาน และสโมสร รีล มาดริดไม่อยากจะเก็บเทพบุตรวานรไว้กับทีมอีกแล้ว เมื่อไม่สามารถปล่อยเบลออกจากทีมได้ ซีดานจึงเลือกหันมาคาดหวังกับเบลอีกครั้ง และนับว่าเบลคือส่วนหนึ่งของทีม เป็นโอกาสครั้งใหญ่ของเบลอีกครั้งหนึ่ง ที่จะทำให้แฟนบอลทั่วโลกได้เห็นถึงศักยภาพของตน
แต่เจ้ากรรมอาการบาดเจ็บยังคงตามรังควานเบลชนิดกัดไม่ปล่อยเช่นเคย จำนวนการแข่งรวมทุกรายการจนถึงตอนนี้ทั้งหมด 39 นัด เบลลงเล่นไปเพียง 18 นัด คิดเป็น 7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เฉพาะในลาลีก้าจนถึงตอนนี้เล่นกันไป 27 เกม เบลได้ลงเล่น 14 เกม ทำได้เพียง 2 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ เท่านั้น
ปัจจุบันคำวิจารณ์คำครหาที่พุ่งมาสู่เบลมีมากขึ้น ถึงพฤติกรรมนอกสนามทั้งการไม่ค่อยจะคบค้าสมาคมกับเพื่อนร่วมทีม เข้านอนเร็ว ไม่ไปร่วมทานอาหารกับบรรดาเพื่อนร่วมทีม ชอบเก็บตัวอยู่ที่บ้าน ไม่ฝึกพูดภาษาสเปนอย่างจริงจัง ชอบตีกอล์ฟจนแฟนบอลรู้สึกว่าเจ้าตัวให้ความสนใจกับกอล์ฟมากกว่ามาดริด จนถูกแฟนบอลล้อเลียนว่าเป็น “โปรเบล”
และที่ทำให้แฟนบอลราชันชุดขาวอารมณ์เสียกับเจ้าตัวที่สุดคือ การที่เบลชูธงชาติเวลส์ที่มีคำว่า “เวลส์, กอล์ฟ, มาดริด ตามลำดับ” แสดงถึงการล้อเลียน รีล มาดริดที่มีความสำคัญอยู่ลำดับสุดท้ายสำหรับเจ้าตัว
ล่าสุด “มาร์ก้า” สื่อกีฬาดังประจำกรุงมาดริดรายงานว่า รีล มาดริดอาจพิจารณายอมปล่อยแกเร็ธ เบลพ้นทีมแบบฟรีๆ เนื่องจากไม่ต้องการรับภาระค่าเหนื่อยที่หนักอึ้งของตัวนักเตะอีกต่อไปแล้ว โดยเบลยังเหลือสัญญากับมาดริดจนถึงปี 2022 แต่เบลดูไม่มีท่าทีว่าอยากย้ายออก ดูเหมือนอยากอยู่จนครบสัญญา
โจนาธาน บาร์เน็ตต์ ตัวแทนของเบลเอ่ยเองว่า เบลมีความสุขดีกับชีวิตในกรุงมาดริด และไม่มีความคิดที่จะย้ายออกจาก รีล มาดริดแต่อย่างใด แต่หากมาดริดสามารถปล่อยเบลออกจากทีมได้หลังจบฤดูกาลนี้ แล้วใครจะมาเป็นผู้รับช่วงต่อ
มองดูภายในขุมกำลังราชันชุดขาวตอนนี้ตำแหน่งของเบล มีสองดาวรุ่งเลือดแซมบ้าอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์ และ โรดรีโก้ โกเอส พร้อมขยับขึ้นมาแทนที่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ซึ่งด้วยความหนุ่ม ความสดของกายภาพสามารถมาแทนที่เบลได้แน่นอน ตอนนี้ขาดเพียงประสบการณ์ ความเก๋า ความเข้าใจเกม เข้าใจแท็คติค
นอกจากนี้ เมื่อกวาดตาไปในตลาดซื้อขายนักเตะ ทั้งโลกต่างรับรู้ดีว่าเป้าหมายอันดับหนึ่งในการเสริมทัพของราชันชุดขาวคือ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ตัวรุกสุดร้อนแรงสังกัดยอดทีมเมืองหลวง ประเทศฝรั่งเศส ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งปัจจุบัน เอ็มบัปเป้ วัย 21 ปี มีสัญญาเหลือกับเปแอสเชถึงปี 2022 และตอนนี้เจ้าตัวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะต่อสัญญาแต่อย่างใด
เอ็มบัปเป้ ถือเป็นนักเตะที่เปแอสเชอยากจะรักษาไว้กับทีมให้นานที่สุด มีสื่อรายงานว่ายอดทีมแห่งปารีสเตรียมยื่นข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธให้แก่ดาวรุ่งรายนี้ ประมาณการกันว่าจะมากกว่าค่าเหนื่อยของ เนย์มาร์ จูเนียร์สตาร์ดังร่วมทีมเสียอีก ซึ่งปัจจุบันเนย์มาร์รับอยู่ที่ 36.8 ล้านยูโรต่อปี(ประมาณ 1,300 ล้านบาท)
ถ้าหาก เอ็มบัปเป้ ตัดสินใจต่อสัญญา รีล มาดริด ก็ต้องปิดประตูแห่งความหวังในการคว้าตัวดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสรายนี้ได้เลย นอกจากนี้ ราชันชุดขาว ยังตกเป็นข่าวกับ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ตัวรุกของ อินเตอร์ มิลาน อีกด้วย แต่กระแสของ เลาตาโร่ ดูจะเป็นข่าวหนักกับคู่แข่งตลอดกาลอย่าง บาร์เซโลน่า มากกว่า
ในเมื่อ แกเร็ธ เบลไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมาย ไม่อาจนำมาซึ่งประตูเป็นกอบเป็นกำสมกับค่าตัวได้ รีล มาดริดก็ต้องหาคนที่ทำได้ดีกว่าเข้ามาแทน โดย เบล มอบหลายสิ่งหลายอย่างให้แก่มาดริด และมาดริดก็มอบอะไรมากมายให้กับเบลเช่นกัน
เมื่อเวลาดำเนินไปถึงจุดที่ฝ่ายหนึ่งไม่อาจทนต่อไป ทั้งสองฝ่ายก็ต้องแยกย้ายกันไปตามวิถีทางของตน และเดินหน้าต่อไปในแบบฉบับของแต่ละฝ่าย…