สกู๊ปพิเศษ : ชีวิตลูกหนังที่ผกผันของ ‘คูตินโญ่’ กับอนาคตค้าแข้งที่คลุมเครือ

Photo : Getty Images

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ มิดฟิลด์ตัวรุกชาวบราซิเลียน ฟอร์มตกเรื่อยมานับตั้งแต่ย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล ไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า เมื่อเดือนมกราคม 2018 ซึ่งแม้ปัจจุบัน จะถูกปล่อยยืมมาอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิก แต่ก็ยังไม่สามารถทำผลงานได้สม่ำเสมอเท่าไหร่

ก่อนหน้านี้ บาร์ซ่าปิดดีลคว้าคูตินโญ่ นักเตะฉายา “พ่อมดน้อย” มาจากหงส์แดงในราคา 105 ล้านปอนด์ แม้ยังไม่รวมโบนัสตามผลงานอีก 37 ล้านปอนด์ แต่นั่นก็ทำให้แข้งบราซิเลียนกลายเป็นนักเตะแพงที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลกในขณะนั้น ทำให้เขาถูกคาดหวังว่าจะระเบิดฟอร์มเก่งให้กับต้นสังกัดใหม่

แต่สุดท้ายความฝันของคูตินโญ่กลับไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด เกิดอะไรขึ้นกับคูตินโญ่กันแน่ ลองมาไล่เรียงและวิเคราะห์เส้นทางของเขากันอีกสักครั้ง

แจ้งเกิดที่แอนฟิลด์

Advertisement
Photo : Getty Images

ลิเวอร์พูลซื้อคูตินโญ่มาจาก อินเตอร์ มิลาน ด้วยราคา 8.5 ล้านปอนด์ ในเดือนมกราคม 2013 โดยทีมดังอิตาลีตั้งใจโละนักเตะเพราะทำผลงานไม่น่าประทับตลอด 3 ปีที่อยู่ด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม เบรนดอน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลในขณะนั้น ดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของเพลย์เมกเกอร์ชาวบราซิเลียนออกมาได้ ก่อนที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะเข้ามาสานต่อเก้าอี้กุนซือหงส์แดงในปี 2015 คูตินโญ่ก็ยังคงเป็นกำลังสำคัญของทีม

คูตินโญ่ ทำสถิติยิงเป็นตัวเลข 2 หลักในฤดูกาล 2015-16, 2016-17 และ 2017-18 กลายเป็นมิดฟิลด์ที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งในวงการลูกหนัง และมีแววยกระดับเป็นยอดแข้งแห่งแอนฟิลด์ได้ในอนาคต แต่สุดท้ายแล้ว เขาจะตัดสินใจทำตามความฝันโยกไปค้าแข้งกับบาร์เซโลน่าในต้นปี 2018 โดยไม่ฟังคำเหนี่ยวรั้งจากคล็อปป์ ฝากไว้เพียงสถิตินักฟุตบอลบราซิเลียนที่ยิงประตูมากที่สุดของพรีเมียร์ลีกในขณะนั้นด้วยผลงาน 41 ประตู

Advertisement
  • สถิติกับลิเวอร์พูล (ปี 2013-2018)
    ลงเล่นพรีเมียร์ลีก : 152
    ประตู : 41
    แอสซิสต์ : 35
    จำนวนนาทีต่อการมีส่วนร่วมทำประตู 1 ลูก : 150.36
    สร้างสรรค์โอกาส : 301

ฝันร้ายที่คัมป์นู

Photo : Getty Images

คูตินโญ่ได้ย้ายไปอยู่กับบาร์เซโลน่าสมใจก็จริง แต่ตอนนั้นทีมเจ้าบุญทุ่มยังคงมี อันเดรส อิเนียสต้า ยืนคุมเกมแดนกลางในระบบ 4-3-3 ทำให้คูตินโญ่ ต้องรับบทบาทเป็นตัวสำรองของอิเนียสต้า สลับกับการขยับไปเล่นใน 3 ผู้เล่นในแถวหน้า โดยต้องแย่งตำแหน่งกับ อุสมาน เด็มเบเล่ ปีกดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส เพราะอีก 2 ตำแหน่งที่เหลือถูกจองไว้ให้ ลิโอเนล เมสซี่ กับ หลุย์ ซัวเรซ

การขยับขึ้นไปยืนเป็น 3 ประสานในแดนหน้าไม่ใช่เรื่องใหม่ของคูตินโญ่ เพราะเคยทำมาแล้วสมัยค้าแข้งกับลิเวอร์พูล ก่อนที่จะถูกขยับลงไปเล่นมิดฟิลด์ตัวรุกเมื่อหงส์แดงคว้า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในปี 2017

หลังจากจบฤดูกาล 2017-18 คูตินโญ่ทำได้ 10 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ตลอดช่วง 6 เดือนแรกกับสโมสรใหม่ พร้อมกับช่วยให้บาร์ซ่าคว้าแชมป์ ลาลีก้า สเปน และซิวถ้วย โกปา เดลเรย์ ถือเป็นผลงานที่น่าพอใจ

กระทั่งเดือนกรกฎาคม 2018 อิเนียสต้าย้ายไปค้าแข้งในญี่ปุ่น คูตินโญ่จึงได้รับโอกาสเข้ามาสานงานต่อในแดนกลางพร้อมกับแบกความคาดหวังเอาไว้ แต่สุดท้ายเขาก็สอบตก ทำได้เพียง 5 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ตลอดทั้งฤดูกาล 2018-19 ของศึกลาลีก้า สเปน

“คูตินโญ่ ปราศจากความมั่นใจกับการเล่นเคียงข้างเมสซี่และซัวเรซ ที่จริงคุณจะต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่ง แสดงให้เห็นถึงคุณภาพฝีเท้าที่มีให้ได้ในทุกๆ เกม แต่เมื่อคูตินโญ่เล่นร่วมกับ 2 คนนั้น เขาไม่สามารถเล่นในจุดที่ดีที่สุดของตัวเองได้ การเล่นในกรอบเขตโทษกับ 2 แข้งชั้นยอดนี้แทบไปด้วยกันไม่ได้” อัลบาโร่ มอนเตโร่ นักข่าวสายฟุตบอลในสเปนกล่าว

สุดท้าย คูตินโญ่ ก็ถูกปล่อยให้บาเยิร์น มิวนิก ยืมไปใช้งานด้วยสัญญายืมตัวตลอดซีซั่น 2019-20

  • สถิติกับบาร์เซโลน่า (ปี 2018-2019)
    ลงเล่นลาลีก้า สเปน : 52
    ประตู : 13
    แอสซิสต์ : 7
    จำนวนนาทีต่อการมีส่วนร่วมทำประตู 1 ลูก : 166.25
    สร้างสรรค์โอกาส : 61

ผลงานยังไม่เข้าตา

Photo – Getty Images

บาเยิร์น มิวนิก ใช้เวลาไม่นานก็ปิดดีลยืมคูตินโญ่มาจากบาร์ซ่าในเดือนสิงหาคม 2019 เพราะยินดีจ่ายค่าแรง 11 ล้านปอนด์ต่อปีของแข้งแซมบ้า พร้อมกับค่ายืมตัว 1 ปี ที่ราคา 8 ล้านปอนด์ พ่วงเงินไขซื้อขาดถาวรที่จะตัดสินใจใช้หรือไม่ก็ได้ในช่วงจบซีซั่น

แต่ คูตินโญ่ต้องเจอกับอุปสรรค์เมื่อบาเยิร์นมีการเปลี่ยนกุนซือกะทันหัน ปลด นิโก้ โควัช ออก และตั้ง ฮันซี่ ฟลิค มาทำงานชั่วคราวในเดือนพฤศจิกายน ก่อนขยายเวลาให้ทำงานจนจบฤดูกาล

คูตินโญ่มักถูกจับนั่งสำรอง เพราะฟลิคชอบใช้งาน อิวาน เปริซิช กับ เลออน โกเร็ตสก้า ปั้นเกมในแดนกลาง ส่วนตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก ที่น่าจะเป็นของคูตินโญ่ ฟลิคมอบให้กับ โธมัส มุลเลอร์

เมื่อเวลาผ่านไป คูตินโญ่ ทำได้ดีขึ้นขณะเล่นตำแหน่งกองหน้าฝั่งซ้ายใน 3 ประสานแนวรุก เพราะสามารถเลี้ยงตัดเข้ามาลุยทำเกมหรือลุ้นยิงประตูด้วยเท้าขวาที่ถนัด จนผลงานดีขึ้นในปลายปี 2019

8 เกมหลังสุดก่อนพักเบรกหนีหนาว คูตินโญ่มีส่วนร่วมไป 5 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ ซึ่งถือเป็นผลงานที่ดีต่อเนื่องที่สุดของเขาในฤดูกาลนี้ โดยเกมที่บาเยิร์นถล่ม แวร์เดอร์ เบรเมน ขาดลอย 6-1 แข้งแซมบ้าซัลโวคนเดียว 3 ลูก อย่างไรก็ตาม แฮตทริกดังกล่าว ยังไม่ดีพอที่จะทำให้บาเยิร์นตัดสินใจใช้ออปชั่นซื้อขาดมูลค่า 109 ล้านปอนด์ได้

คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ประธานสโมสรบาเยิร์น กล่าวว่า “ถ้าถามว่าทำไมถึงยังไม่มีการชี้ขาดเรื่องซื้อขาย ผมคิดว่าบางเกมเขาเล่นได้โดดเด่นมาก แต่บางนัดเขาก็เล่นไม่ออกเลย”

สอดคล้องกับความเห็นของนักข่าวสาวชาวบราซิเลียนของอีเอสพีเอ็น นาตาลี เจดร้า ที่ระบุว่า ปัญหาหลักของคูตินโญ่ที่บาเยิร์นคือเรื่องจิตใจ บางเกมเล่นได้ดีแต่ยังขาดความสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับช่วงเวลาที่บาร์ซ่าซึ่งมีความกดดันมากเกินแข้งแซมบ้าจะรับมือไหว

  • สถิติกับบาเยิร์น มิวนิก (ปี 2019-2020)
    ลงเล่นบุนเดสลีก้า เยอรมนี : 22
    ประตู : 8
    แอสซิสต์ : 7
    จำนวนนาทีต่อการมีส่วนร่วมทำประตู 1 ลูก : 98.86
    สร้างสรรค์โอกาส : 30

ซีซั่นหน้าจะไปไหน
ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน บาเยิร์น มีแนวโน้มว่าจะไม่ใช้เงื่อนไขซื้อคูตินโญ่ถาวรในราคา 109 ล้านปอนด์ หลังหมดสัญญายืมตัวในช่วงกลางปีนี้ ขณะเดียวกัน บาร์เซโลน่า ต้นสังกัดก็วางแผนที่จะโละแข้งส่วนเกินรายนี้ออกจาก โดยมี อาร์เซน่อล, เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สนใจยืมตัวในฤดูกาลหน้า

อนาคตของคูตินโญ่ที่จะอายุครบ 28 ปีในเดือนมิถุนายนนี้ ยังคงยากจะคาดเดาว่าสุดท้ายแล้วจะลงเอยแบบไหน หรือบางที “หงส์แดง” อาจดึงกลับมาเป็นกองสนับสนุนก็เป็นได้ เพราะปัจจุบันนี้บาร์ซ่ายังจ่ายค่าตัวให้ลิเวอร์พูลไม่ครบเลย

การเจรจาอาจไม่ยากเกินไป แต่ไม่รู้แฟนหงส์จะอยากต้อนรับคูตินโญ่หรือเปล่านี่สิ?

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image