สกู๊ปพิเศษ : กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ เถาเป่า ทีมมันรวย ช่วยไม่ได้!!

สกู๊ปพิเศษ : กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ เถาเป่า ทีมมันรวย ช่วยไม่ได้!!

ฟุตบอลลีกสูงสุดของจีน หรือ ไชนีส ซุปเปอร์ลีก ได้กลายเป็นอีกลีกลูกหนังของโลกที่เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอลได้อยู่เรื่อยๆ เพราะมีนักเตะระดับโลกเดินทางไปค้าแข้งกันมากมาย มีเงินหมุนเวียนมหาศาล จ่ายค่าเหนื่อยที่ทีมใหญ่จากยุโรปยังอาย

กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ เถาเป่า คือทีมที่สร้างความสั่นสะเทือนในวงการฟุตบอลอาชีพจีนด้วยการทุ่มเงินจ้างโค้ชชื่อดัง มาร์เชลโล่ ลิปปี้ กุนซือที่พาอิตาลีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2006, ฟาบิโอ คันนาวาโร่ หนึ่งในนักเตะทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2006, หลุยซ์ เฟลิเป้ สโคลารี่ กุนซือชาวบราซิลที่คุมมาแล้วทั้งทีมชาติแซมบ้าและทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป ต่างเคยเข้ามาทำหน้าที่นี้แล้วทั้งนั้น

กว่างโจวมีผู้ถือหุ้น คือ เอเวอร์แกรนด์ รีล เอสเตท กรุ๊ป ที่มี ซื่อ เจียหยิน มหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์ และเป็นคนที่รวยที่สุดอันดับ 3 ของจีน ครอบครองอยู่ แต่ซื่อ เจียหยิน ครอบครองหุ้น 56.71 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น อีกจำนวนหนึ่งอยู่ในมือของ แจ๊ค หม่า อีกหนึ่งมหาเศรษฐีของจีน ที่คนไทยรู้จักกันดีในฐานะผู้ก่อตั้งอาลีบาบา กรุ๊ป ตอนนี้เขารวยเป็นอันดับ 2 ของแดนมังกร ถือหุ้นอยู่ 37.81 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือ 5.48 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในตลาดหุ้นเอ็นอีอีคิวของจีน

Advertisement

นี่คือเหตุผลว่าทำไม กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ถึงมีเม็ดเงินมหาศาลในการบริหารทีมได้แบบที่ทีมไหนก็อิจฉา ในปี 2011 ดาริโอ คอนค่า เพลย์เมกเกอร์ชาวอาร์เจนไตน์ เคยถูกจัดอันดับให้เป็นนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ หลังจากเขาย้ายจากฟลูมิเนนเซ่ ในลีกบราซิล มาร่วมทีมกว่างโจว ด้วยค่าตัว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นนักเตะค่าตัวสูงสุดของลีกจีนในตอนนั้น วันนั้นทำให้โลกเริ่มรู้ว่าฟุตบอลจีนไม่ได้เป็นลีกเล็กๆ อีกต่อไป

เงินสามารถนำพาความสำเร็จมาสู่ทีมยักษ์ใหญ่ทีมนี้ได้อย่างต่อเนื่อง กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ คว้าแชมป์ลีกได้ 8 สมัย จาก 9 ครั้งหลังสุด เริ่มจากปี 2011, 2012, 2013, 2014, 2015, 2016, 2017 และ 2019 เสียแชมป์ให้เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ทีมเงินถุงเงินถังอีกทีมในปี 2018 เท่านั้น

Advertisement

ในเวทีเอเชีย กว่างโจวคว้าแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย ในปี 2013, 2015 แต่ 4 ปีที่ผ่านมาไม่สามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้เลย

กว่างโจวไม่ได้ทุ่มเงินซื้อนักเตะมหาโหดเหมือนก่อน เพราะการกำหนดโควต้านักเตะต่างชาติเอาไว้ให้มีได้เพียง 5 คนในทีม และส่งลงสนามพร้อมกันได้ 3 คน

ถ้ามาไล่เรียงรายชื่อนักเตะของกว่างโจวชุดปัจจุบัน มีซุปเปอร์สตาร์อย่าง เปาลินโญ่ มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิลที่เคยอยู่กับทีมมาแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนย้ายไปบาร์เซโลน่าก็กลับมาสู่เทียนเหอ สเตเดียม อีกครั้ง อันแดร์ซอน ทาลิสก้า ตัวรุกชาวบราซิลที่มีข่าวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงอยู่กับทีม ส่วน ริคาร์โด้ กูลาร์ท มิดฟิลด์ตัวรุกชาวบราซิลได้โอนสัญชาติไปเป็นจีนเรียบร้อยแล้ว และมีกองหน้าอย่าง อ้าย เค่อเซิน หรือ เอลเคสัน ดาวยิงบราซิลที่ติดทีมชาติจีนชุดปัจจุบัน

สโมสรร่วมลีกที่คว้าตัวดาวดังมาร่วมทีมกันถ้วนหน้า เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี มีทั้ง ออสการ์, ฮัล์ก สองนักเตะที่เคยติดทีมชาติบราซิล และมีประสบการณ์ในยุโรปมาอย่างโชกโชน รวมทั้ง มาร์โก อาร์เนาโตวิช กองหน้าที่เคยค้าแข้งกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด

ซานตง หลู่เนิ่ง ไท่ซาน มี กราเซียโน่ เปลเล่ กองหน้าอิตาเลียน, มารูยัน เฟลไลนี่ มิดฟิลด์เบลเยียม ปักกิ่ง กั๋วอัน มี เรนาโต้ ออกุสโต้ มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิลที่เคยอยู่กับเลเวอร์คูเซ่นในเยอรมนี เซดริค บากัมบู กองหน้าดีอาร์ คองโก เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว มี สเตฟาน เอ็มเบีย มิดฟิลด์ทีมชาติแคเมอรูน, สตเฟาน เอล ชาราวี่ ปีกทีมชาติอิตาลี เป็นต้น

เมื่อเจอการกำหนดโควต้านักเตะต่างชาติ หลายทีมจึงเริ่มใช้สูตรการโอนสัญชาติมากขึ้น นั่นก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องใช้มากมายกว่าจะประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตามเมื่อไม่สามารถใช้เงินไปกับการดูดนักเตะเข้าทีมจนแฟนบอลร้องว้าวได้ การดึงกุนซือชื่อดังมาร่วมทีมก็เป็นอีกทางที่กว่างโจวจะได้รับความสนใจจากวงการลูกหนังโลกได้

คันนาวาโร่กลายเป็นโค้ชชาวอิตาลีที่ได้ค่าเหนื่อยสูงที่สุด แม้จะไม่ได้ทำงานในบ้านเกิดก็ตาม ค่าเหนื่อยที่เขารับกับกว่างโจวตอนนี้อยู่ที่ 10 ล้านปอนด์ต่อปี (400 ล้านบาท) มากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก แต่น้อยกว่า ราฟา เบนิเตซ กุนซือชาวสเปนที่คุมทีม ต้าเหลียน อี้ฟั่ง ในลีกจีนอยู่ เบนิเตซค่าเหนื่อยแพงเป็นอันดับ 4 ของโลก ที่ 11.5 ล้านปอนด์ต่อปี (460 ล้านบาท)

ก่อนหน้านี้ลิปปี้ก็รับค่าเหนื่อยถึง 20 ล้านยูโร หรือกว่า 600 ล้านบาทต่อปีมาแล้ว สโคลารี่ก็คงไม่ต่างกันมาก รวมทั้งยังมีข่าวว่าได้ติดต่อ อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ อดีตโค้ชบาเยิร์น มิวนิค ให้มารับงานเมื่อ 3 ปีก่อน ด้วยค่าเหนื่อย 25 ล้านยูโรต่อปีมาแล้ว แต่กุนซือจอมเก๋าปฏิเสธงานนี้ไปเอง

กว่างโจวประกาศความรวยครั้งใหม่ ด้วยการสร้างสนามเหย้าแห่งใหม่ของตัวเอง หลังจากใช้เทียนเหอ สเตเดียม มาตลอด ครั้งนี้ทุ่มเงิน 54,000 ล้านบาท เนรมิตรสนามดอกบัว ความจุ 100,000 ที่นั่ง มีรูปทรงเป็นดอกบัวซึ่งเป็นดอกไม้ที่สื่อถึงประเทศจีน

เอเวอร์แกรนด์มองว่าในประเทศจีนยังไม่มีสนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานระดับโลกที่จะช่วยในการยกระดับฟุตบอลของจีนให้เทียบเท่ากับฟุตบอลชาติอื่นๆ ที่โด่งดังในปัจจุบัน จึงเดินหน้าโปรเจ็กต์นี้ขึ้นมา และตอกเสาเข็มเริ่มสร้างกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สนามดอกบัวจะเป็นสนามที่มีความจุมากที่สุดในสนามฟุตบอลของประเทศจีน และจุได้ใกล้เคียงกับคัมป์นู ของบาร์เซโลน่า คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในเดือนธันวาคม ปี 2022 เพื่อใช้เป็นสนามแข่งขันฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ 2023 ที่จีนเป็นเจ้าภาพ

“เอเวอร์แกรนด์ สเตเดียม ในรูปดอกบัว จะกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของโลก เหมือนที่ซิดนีย์ โอเปรา เฮ้าส์ ที่ออสเตรเลีย และอาคารเบิร์จ คาลิฟา เป็นมาแล้ว รวมทั้งมันจะเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของวงการฟุตบอลจีนด้วย” เซียะ ไห่จุน รองประธานเอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ประกาศไว้แบบนี้

กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ เถาเป่า อาจจะต่อกรในสนามกับยอดทีมจากยุโรปหรืออเมริกาใต้ไม่ได้ แต่ถ้ามีแชมป์ในเรื่องของการใช้เงินสร้างความอลังการแล้วล่ะก็ สโมสรจากแดนมังกรแห่งนี้ คว้าแชมป์ได้แบบไม่ยากเย็นแน่นอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image