สกู๊ปพิเศษ : เปิดแผน พรีเมียร์ลีก คัมแบ๊ก เตะไร้แฟน-ดวลแข้งสนามกลาง
แฟนฟุตบอลทั่วโลกคงเริ่มยิ้มกันออกแล้ว หลังทาง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หนึ่งในเวทีลูกหนังสุดยิ่งใหญ่ที่ผู้คนเฝ้ารอคอย ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า การแข่งขันจะกลับมาดำเนินต่อจนจบฤดูกาล 2019/2020 แต่ต้องได้รับการอนุญาตจากรัฐบาลก่อน!
แน่นอนว่า ถ้าฟุตบอลกลับมาเตะอีกครั้งจะต้องเป็นการเล่นแบบปิดสนามอย่างไม่ต้องสงสัย พร้อมกับวางแผนมาตรการที่เข้มงวด และรัดกุมขั้นสูงสุด เนื่องจากไวรัสโควิด-19 ตัวร้ายยังคงกระจายไปเล่นงานพื้นที่แถบยุโรปอย่างหนักอยู่ในปัจจุบันนี้….
สำหรับมาตรการที่เข้มข้นนั้น พรีเมียร์ลีก เตรียมแผนที่จะจัดแข่งขันแบบปิด ไม่มีแฟนบอล และเตะกันที่สนามกลาง ซึ่งฟุตบอลหนึ่งแมตช์ต้องอาศัยจำนวนคนไม่น้อย เพื่อจัดการแข่งขันให้เกิดขึ้นได้ นอกจากนักเตะ โค้ช สต๊าฟโค้ช ยังต้องมีทีมงานฝ่ายต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งการรวมตัวของคนหลายคนนับว่าเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
พรีเมียร์ลีก ได้หารือกับบรรดาสโมสรสมาชิกทั้ง 20 ทีม ถึงเรื่องจำนวนคนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าภายในสนามได้ ถ้าฟุตบอลกลับมาเตะอีกครั้งท่ามกลางการจู่โจมของโควิด-19 โดยได้ประเมินออกมาว่าการแข่งขันหนึ่งแมตช์ต้องอาศัยคนอย่างน้อย 300 คน และอย่างมากที่สุด 500 คน
“เดอะ เดลี่ เทเลกราฟ” สื่อดังแห่งเกาะอังกฤษรายงานว่า บรรดาบุคคลที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย นักเตะจากทั้งสองทีม 40 คน, สต๊าฟโค้ช และทีมแพทย์ของสองสโมสร 32 คน, กรรมการหรือผู้ตัดสินเกม 6 คน และเจ้าหน้าที่ควบคุมเทคโนโลยีโกล-ไลน์, เจ้าหน้าที่ควบคุมระบบการสื่อสารสำหรับผู้ตัดสิน และควบคุมเทคโนโลยีวีเออาร์(VAR) อีก 6 คน
ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ในอุโมงค์ของสนาม 6-8 คน, เจ้าหน้าที่ตรวจสารต้องห้าม 4 คน, พนักงานรับผิดชอบเครื่องตกแต่งในสนาม เช่น ป้ายโฆษณา ป้ายแบ็กดร็อป ฯลฯ 4 คน, เจ้าหน้าที่อย่างเป็นทางการจากพรีเมียร์ลีก 3 คน ได้แก่ ผู้ประสานงานเกมการแข่ง ผู้ควบคุมเกมการแข่ง และผู้แทนจากพรีเมียร์ลีก
ตามที่ทางพรีเมียร์ลีกคาดการณ์ไว้ว่า จะมีบุคลากรเกี่ยวข้องทั้งสิ้น 300 คน แต่ถ้ามีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์จะต้องใช้คนเพิ่มอีก 23 คน นอกจากนี้ อาจมีสื่อมวลชนฝ่ายผลิตเนื้อหาและออกอากาศอีกประมาณ 70 คน จะได้รับอนุญาตให้เข้ามาบริเวณรอบๆ สนามได้ แต่ไม่ให้เข้าภายในสนาม
ส่วนบุคลากรอื่นที่เกี่ยวข้องแต่ไม่ทราบจำนวนที่แน่นอนจะประกอบด้วย คณะกรรมการของสโมสร, สื่อมวลชนของสโมสร, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย, พนักงานบริการในสนาม, เจ้าหน้าที่เตรียมสนาม (ทั้งเตรียมสนามหญ้า, แสงไฟ ฯลฯ) และเจ้าหน้าที่คุมจอภาพยักษ์, สกอร์บอร์ด หรือจอแอลอีดี โดยคาดว่าน่าจะมีจำนวนประมาณ 210 คน
ปัจจุบันมีแผนจะอนุญาตให้สื่อมวลชนที่ทำงานโดยการเขียน หรือพิมพ์จากหนังสือพิมพ์ และเว็บไซต์ 28 คน และช่างภาพ 2 คน เข้าสู่สนามได้ แต่อาจมีสื่อมวลชนอีกประมาณ 100 คนจากสถานีโทรทัศน์ และสถานีวิทยุที่เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอด หรือเป็นพาร์ทเนอร์กับทางพรีเมียร์ลีก เข้ามาทำการถ่ายทอดสดหรือรายงานสดการแข่งขันด้วย
ทั้งนี้ ทางพรีเมียร์ลีกมีแผนจะใช้สนามที่ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัย และมีสิ่งแวดล้อมที่ปลอดเชื้อมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับเกมการแข่ง ซึ่งอาจเป็นสนามกลางบางแห่งเท่านั้นที่ทางพรีเมียร์ลีกอนุญาตให้ใช้แข่งขันได้
นักเตะทุกคนจะได้รับการตรวจเพิ่มเติม โดยจะทำการคัดกรองก่อนเข้าสู่สนามด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ และมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมหรือ “โซเชี่ยล ดิสแทนซิ่ง” จะถูกนำมาใช้แน่นอน เช่น การให้ใช้ห้องแต่งตัวได้มากกว่าหนึ่งห้องต่อทีม
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ว่าจะทางพรีเมียร์ลีก ฝ่ายสโมสร หรือแฟนบอล ต่างก็ภาวนาให้ฟุตบอลกลับมาเตะได้จนจบฤดูกาล ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าจะเป็นอย่างไร และการตัดสินใจของรัฐบาลว่าจะทำเช่นไร
ตอนนี้ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19สะสมในสหราชอาณาจักรยังพุ่งขึ้นเกือบ 2 แสนราย และเสียชีวิตเฉียด 3 หมื่นราย และยังไม่ปรากฏยอดผู้รักษาหาย ซึ่งไม่ว่าจะฝ่ายใดก็อยากให้ฟุตบอลกลับมาแข่งได้ทั้งนั้น แต่ถ้าสถานการณ์ไวรัสไม่ดีขึ้น ทุกฝ่ายโดยเฉพาะแฟนบอลผู้กระหายเกมฟาดแข้งของลีกผู้ดีก็ต้องอดทนรอไปก่อน เพราะเรื่องชีวิตมนุษย์ย่อมสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น
ฟุตบอลรอได้…แต่ชีวิตคนรอไม่ได้…
