สกู๊ปพิเศษ : คอร์บิ้น เมอร์เรย์ ไอ้หนูสายเลือดไทย ในแคมป์ปีศาจแดง
เมื่อวันก่อน คอร์บิ้น เมอร์เรย์ นักเตะเยาวชนวัย 12 ปี ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ที่อยู่ในอคาเดมีของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โคตรทีมแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ได้รับการต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปอีก 2 ปี
คอร์บิ้นอยู่กับแมนฯ ยู มา 2 ปี และทำผลงานได้ดีจนได้รับสัญญาฉบับใหม่ ซึ่งสื่ออังกฤษยกให้ลูกครึ่งคนนี้เป็น “นิวเบ๊คแฮม” อดีตปีกขวาซุปเปอร์สตาร์ของแมนฯยู เพราะคอร์บิ้นเล่นตำแหน่งปีกขวาและมีทักษะการยิงฟรีคิกรวมทั้งจ่ายบอลได้ดีเหมือนเบ๊คแฮม
ย้อนไปเมื่อ 2 ปีก่อน โทรทัศน์ช่องหนึ่งของอังกฤษรายงานข่าว น้องคอร์บิ้น โชว์ปั่นฟรีคิกระยะไกลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ซึ่งในตอนนั้น เขามีอายุแค่ 8 ขวบเท่านั้น จนสื่อแดนผู้ดียกย่องน้องคอร์บิ้นว่าเป็น “นิวเบ๊คแฮม”
คอร์บิ้น เมอร์เรย์ เป็นลูกครึ่งไทย – อังกฤษ เขาฟังภาษาไทยรู้เรื่องหมด พูดได้เล็กน้อย แต่เข้าใจวัฒนธรรมของไทยเป็นอย่างดี ในโลกโซเชียลของเมืองไทย เคยพูดถึงเจ้าหนู คอร์บิ้น เมอร์เรย์ อยู่บ่อยครั้ง
2 ปีผ่านไป คอร์บิ้น เติบโตขึ้น และได้รับความสนใจจาก 5 สโมสรในอังกฤษ ได้แก่ ลิเวอร์พูล, เอฟเวอร์ตัน, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และบิวรี่ แต่สุดท้าย คอร์บิ้น เลือก ปีศาจแดง
“เก๋” จารุณี เมอร์เร่ย์ คุณแม่ของคอร์บิ้น เล่าถึงลูกชายคนเก่งว่า ที่บ้านของเรารักฟุตบอล คุณปู่ของเขาเป็นนักฟุตบอลเก่า ส่วนคุณพ่อก็รักฟุตบอลมาก ก็เลยปลูกฝังน้องมาตลอด คอร์บิ้นเขาก็เล่นฟุตบอลมาเรื่อยๆ พอถึงจุดหนึ่งราว 9 ขวบ ก็ได้รับข้อเสนอจาก 5 ทีมในอังกฤษ ให้เข้าไปอยู่อคาเดมี่ เราไปลองเยี่ยมชม อคาเดมี่ทั้ง 5 สโมสรมาแล้ว แต่สุดท้ายตัดชอยส์อื่นไป เหลือแค่แมนฯยูไนเต็ด กับลิเวอร์พูลเท่านั้น เพราะนี่คือ 2 ทีมที่ปล่อยให้เด็กเติบโตตามธรรมชาติ ไม่เร่งรัดเด็กมากนัก
“คอร์บิ้น จริงๆ แล้วเป็นแฟนลิเวอร์พูล นักเตะที่เขารักคือสตีเว่น เจอร์ราร์ด แต่ปัญหาก็คือบ้านของเราอยู่แมนเชสเตอร์ ดังนั้นมันเป็นชอยส์ที่ยากมาก ว่าจะเลือกทีมไหนดี ในช่วงแรก เราเดินทางไปกลับลิเวอร์พูล เพราะนี่คือสโมสรที่น้องอยากอยู่ แต่สภาพร่างกายของคอร์บิ้นอ่อนล้ามาก กลับถึงบ้านก็สามทุ่ม และแทบจะสลบทุกวัน ซึ่งเราเป็นแม่ ก็ไม่อยากเห็นลูกเป็นแบบนี้ จึงตัดสินใจเด็ดขาด เซ็นสัญญาเข้าไปอยู่ อคาเดมี่ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแทน”
“ตอนนี้คอร์บิ้น อยู่ทีม ยู-10 ของแมนฯยู เส้นทางต่อไป เราก็จะปล่อยให้เขาเป็นไปตามธรรมชาติ เขาก็จะค่อยๆ ไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ ยู-11, ยู-12 ก็จะสนับสนุนให้เขาไปไกลที่สุด ทุกวันนี้เขาก็ยังชอบลิเวอร์พูลนะ แต่ในอีกมุมหนึ่งเขาก็ภูมิใจมากที่ได้เป็นนักเตะในอคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วย”
จารุณี เมอร์เร่ย์ เล่าต่อว่า การได้รับข้อเสนอจากหลายทีม และเป็นหนึ่งในนักเตะไม่กี่คนที่ได้เลือกติดอคาเดมี่ ก็การันตีฝีเท้าได้ระดับหนึ่งแล้ว เรื่องความมั่นใจ กดดัน หรืออะไรต่างๆ น้องเค้าค่อนข้างเฉยๆ เพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงออก ถึงเวลาคือไปซ้อม ไปแข่ง อย่างมากคือกลับมาเล่าให้แม่ฟังบ้างว่า เค้าเล่นดียังไง ยิงประตูได้ตามที่ต้องการ อะไรประมาณนี้ แต่ส่วนมากเค้าจะไม่ค่อยพูดถึงเยอะ ไปไหนก็ไม่เคยจะบอกใครว่าเค้าเป็นนักฟุตบอล ที่บ้านเราสอนกันค่อนข้างเข้มงวดเหมือนกัน
“โดยแม่จะบอกว่า เท้าลูกต้องติดพื้นเสมอ ลูกไม่ได้ดีเด่นกว่าใครลูกเป็นแค่เด็กเล่นฟุตบอลคนหนึ่ง สิ่งที่ลูกต้องคิดคือ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ทั้งการเรียนและกีฬา ทุกวันนี้ คอร์บิ้น ก็ต้องทั้งเรียนหนังสือที่โรงเรียน และไปซ้อมกับอคาเดมี่ของแมนฯ ยูไนเต็ดที่สนามซ้อมแคร์ริงตัน คือเรารู้ว่าน้องเค้ามีความสามารถแต่ก็ไม่กล้าคาดหวังไกล เพราะหนทางเป็นนักเตะอาชีพในอังกฤษมันยากมาก แต่ถ้าถึงจุดหนึ่งเขายังเล่นได้ท็อปฟอร์มแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนอายุ 15-16 ทางครอบครัวก็ต้องมาคุยกันเรื่องอนาคตอีกครั้ง”
คุณแม่ของเจ้าหนูคอร์บิ้น บอกต่อไปว่า ประเด็นกับทีมชาติไทยในอนาคต ถ้าหากคอร์บิ้น พัฒนาและก้าวไปเล่นในพรีเมียร์ลีกได้จริงๆ เขาจะเลือกเล่นให้กับไทย หรืออังกฤษ เคยคิดในประเด็นนี้เหมือนกัน แต่สุดท้าย ถ้าต้องถึงสถานการณ์นั้นจริงๆ เราก็อยากให้เขาตัดสินใจเอง เขาอยู่อังกฤษ ก็มีความเป็นอังกฤษสูง เข้าใจวัฒนธรรมที่นี่เป็นอย่างดี
“แต่กับไทยเขาก็มีความผูกพัน เขาไปไทยก็หลายครั้งแล้ว อันนั้นเป็นเรื่องอนาคต ก็ค่อยๆ มองทีละสเต็ปไป ตอนนี้เราก็สนับสนุนเขาเต็มที่ให้ไปไกลที่สุดกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งก็อยากให้เขาค่อยๆ เติบโตขึ้น”
นี่เป็นการเจริญเติบโตไปอีกก้าวหนึ่งของ คอร์บิ้น เมอร์เรย์ นักเตะเยาวชนวัย 12 ปี ลูกครึ่งไทย-อังกฤษกับสมาชิกพลพรรคปีศาจแดงจูเนียร์
ช่วยกันให้กำลังใจเด็กไทยรายนี้กันต่อไปและคอยจับตาดูกันให้ดี เพราะเราอาจเห็นนักเตะไทยในแคมป์ยูไนเต็ดชุดใหญ่ในอนาคต…
