อาลัย ‘พุฒ ล้อเหล็ก’ ยอดมวยเมืองตรังผู้ยิ่งใหญ่

อาลัย ‘พุฒ ล้อเหล็ก’  ยอดมวยเมืองตรังผู้ยิ่งใหญ่

“เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป” เป็นสัจธรรมที่ทุกสิ่ง ทุกชีวิตนี้ต้องเจอ เช่นเดียวกับชีวิตของยอมนักมวย พุฒ ล้อเหล็ก ที่คนวงการมวยไทยยกให้เป็นตำนานอันยิ่งใหญ่ เมื่อถึงเวลาก็ต้องจากไป ทิ้งทุกอย่างไว้ให้เป็นตำนาน

“พุฒ ล้อเหล็ก” ทวีศักดิ์ พิพัฒกุล เกิดที่ตำบลบางด้วน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2495 เป็นลูกคนโตของ เกี้ยง-ซ้อ พิพัฒกุล มีน้องชายเป็นนักมวยฉายา สิน ล้อเหล็ก แต่เสียชีวิตจากการชกมวยตั้งแต่อายุไม่ถึง 20 ปี

พุฒ ล้อเหล็ก หัดมวยครั้งแรกเมื่ออายุ 15 ปี ที่ค่ายศ.ภิญโญ ของ ครูสวัสดิ์ แสงสุวรรณชัย เพราะอยู่ใกล้บ้าน ช่วงที่ชกมวยใหม่ๆ ใช้ชื่อว่า ประกายเทพ ศ.ภิญโญ ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วจะชอบปลากัด แต่เมื่อได้เห็นนักมวยซ้อมแล้วก็อยากจะลองมาเป็นนักมวยดูบ้าง

Advertisement

แววความเป็นยอดนักมวยของพุฒเริ่มฉายให้เห็นตั้งแต่การเดินสายชกช่วงแรก ชนะรวด 10 กว่าไฟต์ หลังจากเรียนจบ ป.7 ที่ตรัง ในปี พ.ศ.2512 ก็ขึ้นกรุงเทพมาฝึกมวยกับ กิ่งแก้ว (ล้อเหล็ก) บางยี่ขัน แชมป์รุ่นฟลายเวตของสนามมวยเวทีลุมพินีในยุคนั้น ซึ่งเป็นอาแท้ๆ ของพุฒ

หลังจากขึ้นมาอยู่กับอา ก็ได้เปลี่ยนชื่อและค่ายใหม่เป็น “พุฒ ล้อเหล็ก” และได้ชกที่สนามมวยมาตรฐานอย่างสนามมวยเวทีลุมพินี ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2512 ประเดิมชนะคะแนน ศิริณรงค์ ศักดิ์ธานินทร์

นักชกจากเมืองตรังคนนี้ได้รับคำชื่นชมว่า เป็นนักมวยที่มีหมัดหนัก สไตล์การชกบนเวทีพริ้วไหว ลีลาแม่ไม้มวยไทยงดงาม เริ่มประสบความสำเร็จด้วยการครองแชมป์มวยไทยรุ่นจูเนียร์เฟเธอร์เวตของเวทีลุมพินิเป็นเส้นแรก ชนะ สามย่าน สิงห์ศรทอง จน พ.ศ. 2514 เริ่มโด่งดังเป็นขุนพลเอกของ ครูเฒ่า (ชนะ ทรัพย์แก้ว) สถิติการชกในปีนี้ คือ ชก 9 ครั้ง ชนะ 8 แพ้ 1 ครั้ง ให้กับ วิชาญน้อย พรทวี

พุฒโด่งดังแบบมวยไทยมากที่สุดในช่วง พ.ศ.2516-2517 ชนะยอดมวยดังในยุคนั้นหลายคน เช่น แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์, เมืองชล จีระพันธ์, ศิริมงคล ลูกศิริพัฒน์, พันธ์ศักดิ์ เกียรติเจริญชัย, ชูชัย ลูกปัญจมา, คงเดช ลูกบางปลาสร้อย, วิชาญน้อย พรทวี หลังจากนั้น ชนะ ทรัพย์แก้ว ได้สนับสนุนให้พุฒหันมาชกมวยสากลบ้าง ปรากฏว่า พุฒชกชนะ มาลัยทอง ศิษย์ขุน ได้แชมป์รุ่นไลท์เวตของเวทีลุมพินี สลับกลับไปต่อยมวยไทย แล้วหันมาต่อยมวยสากลอีกครั้ง คราวนี้ชนะติดต่อกัน 2 ไฟต์ เป็นรองแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์เวลเตอร์เวตของสมาคมมวยโลก

ถึงแม้จะไปได้สวย แต่พุฒไม่ชอบการชกมวยสากล จึงหันไปชกมวยไทยเป็นหลัก จน 25 มีนาคม พ.ศ.2519 ชกแพ้คะแนน เนตร ศักดิ์ณรงค์ ที่เวทีราชดำเนิน แต่ก็แก้มือชกชนะได้ หลังจากนั้นพุฒหาคู่ชกในแบบมวยไทยยาก หยุดชกไป 2-3 ปี จึงขึ้นชกกับ เซียนโหงว ศิษย์บางพระจันทร์ แต่ปรากฏว่าพุฒเป็นฝ่ายชนะคะแนนไป ไฟต์สุดท้ายที่พุฒขึ้นชก สามารถเอาชนะ เดวิด อมรรัตน์ แล้วก็แขวนนวมไป

พ.ศ. 2527 พุฒ ล้อเหล็ก ติดอันดับ 1 ใน 10 ของการจัดอันดับยอดมวยไทยตลอดกาล ของเวทีมวยราชดำเนิน เป็นการยืนยันว่าผลงานของเขาถูกจารึกเอาไว้ในหัวใจของคนวงการมวยเรียบร้อยแล้ว

เวลาผ่านไป 17 ปี ในวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554 ได้มีการแข่งขันมวยไทยระหว่าง พุฒ ล้อเหล็ก กับ สกัด เพชรยินดี ในรายการ “ศึกเชิดชูไทย+วันสหพล” ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นการแข่งขันแบบแข่งจริง ด้วยเงินเดิมพันขั้นต่ำหนึ่งล้านบาท ซึ่งแท้จริงแล้วการแข่งขันครั้งดังกล่าวมิได้มุ่งเน้นที่เงินทอง หากแต่เพียงต้องการให้นักมวยไทยรุ่นหลังมีการใช้ศิลปะมวยไทยได้อย่างถูกต้อง จากการแข่งขันครั้งดังกล่าว พุฒ ล้อเหล็ก เป็นฝ่ายชนะคะแนนไปได้

จากโพลสำรวจของอาจารย์ธีรยุทธ บุญมี เมื่อ พ.ศ. 2542 ระบุว่า พุฒ ล้อเหล็ก คือยอดนักมวยไทยที่ได้รับคะแนนนิยมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในรอบ 50 ปี (พ.ศ. 2492-2542) เพราะในช่วงเวลา 11 ปี ด้วยสถิติการชกมวย 80 กว่าครั้ง พุฒ ล้อเหล็ก ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือยอดมวยไทยตัวจริง ที่มีทั้งความฉลาดปราดเปรียว ความว่องไวไหวพริบ รวมทั้งเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงหรือกลยุทธ์ในการเอาชนะคู่ต่อสู้ เกจิมวยหลายคนก็ยอมรับว่าพุฒคืออีกหนึ่งในตำนานมวยไทยยอดมวยฝีมือ ต่อจากผล พระประแดง ที่เคยโด่งดังเมื่อ 20 ปีก่อนหน้านั้น

ชีวิตครอบครัวของพุฒ แต่งงานกับ ฉลวย พิพัฒนกุล ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่ จ.ตรัง มีลูกด้วยกัน 3 คน คือ พัชรีภรณ์, วัฒนพงษ์, กิตติพันธ์ ใช้ชีวิตกันมาอย่างมีความสุข และได้เปิดค่ายมวยชื่อ ล้อเหล็กยิม ให้ลูกชายทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ และสามารถปั้นนักมวยดังไปชกในศึกวันทรงชัย ของ ทรงชัย รัตนสุบรรณ ได้อีกด้วย

ความสุดยอดของพุฒ ล้อเหล็ก ไม่ใช่แค่ลีลาและความสวยงามของการออกแม่ไม้มวยไทยยามขึ้นชกเท่านั้น แต่ยังเป็นนักชกที่ไม่เคยแพ้น็อกหรือถูกจับแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียวในสังเวียน

การจากไปของยอดมวยเมืองตรังถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการมวยไทย แต่ทุกความงดงามของพุฒ ล้อเหล็ก จะได้รับการจดจำอยู่ในหัวใจของคนมวยอย่างไม่มีวันลืม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image