สกู๊ปพิเศษ : เช็กสถานะ ลีกยุโรปยุคโควิด ลีกไหนจบ? ลีกไหนได้ไปต่อ?

สกู๊ปพิเศษ : เช็กสถานะ ลีกยุโรปยุคโควิด ลีกไหนจบ? ลีกไหนได้ไปต่อ?

หลังจากโดนสถานการณ์โรคระบาดกระหน่ำจนวงการฟุตบอลแทบจะทั่วโลกหยุดชะงัก ตอนนี้หลายๆ ลีกในหลายประเทศ เริ่มมีความเคลื่อนไหวเพื่อเตรียมตัวกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง

โดยเฉพาะลีกยุโรปลีกใหญ่ๆ ที่โดนสถานการณ์บังคับอย่างเรื่องเงินๆ ทองๆ ซึ่งถ้าไม่แข่งขันต่อให้จบก็จะต้องสูญเสียรายได้มหาศาลเพราะผิดสัญญาลิขสิทธิ์ถ่ายทอด

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะเดินหน้าจัดการแข่งขันได้ต้องอิงตามนโยบายของรัฐบาลเป็นสำคัญด้วย เมื่อพิจารณากับเงื่อนเวลาต่างๆ แล้ว แต่ละลีกจึงเลือกบทสรุปที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็ตัดจบไปเลยดื้อๆ แบบให้มีผลบ้าง โมฆะบ้าง บ้างก็เริ่มกลับมาแข่งขันกันแล้วแบบปิด

สนามเตะเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ขณะที่บางลีกเข้าสู่ “โปรเจกต์ รีสตาร์ต” (ตามที่ พรีเมียร์ลีก ของอังกฤษเรียก) เพื่อเตรียมกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง

Advertisement

ลีกเด่นๆ ใหญ่ๆ มีความเคลื่อนไหวกันอย่างไรกันบ้าง ลองมาอัพเดทสถานการณ์ล่าสุดกันดู…

บุนเดสลีก้า เยอรมนี – เป็นลีกใหญ่ลีกแรกที่กลับมาเตะฤดูกาล 2019-20 กันต่อตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม ท่ามกลางการจับตามองของลีกต่างๆ ถึงบรรยากาศการปิดสนามเตะจะทำให้ดูกร่อยๆ ไปบ้าง แต่โดยรวมถือว่าเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และ บาเยิร์น มิวนิก แชมป์เก่า ยืดระยะห่างในตำแหน่งจ่าฝูง นำ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ถึง 10 แต้มแล้วในขณะนี้

บุนเดสลีก้ากลับมาเตะแบบเหงาๆ

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ – เข้าสู่เฟสสองของโปรเจกต์ รีสตาร์ต อนุญาตให้แต่ละทีมกลับมาซ้อมแบบโดนตัวกันได้ และทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในนักเตะและสต๊าฟโค้ชแล้ว 4 รอบ รอบล่าสุดไม่พบผู้ติดเชื้อ โดยมีแผนจะกลับมาเตะกันในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ แต่อาจย้ายที่แข่งบางนัดซึ่งมีความสำคัญไปเตะสนามกลาง เช่น เกมที่ ลิเวอร์พูล ลุ้นแชมป์ เพื่อเลี่ยงปัญหาแฟนบอลไปรวมตัวกันหน้าสนาม

พรีเมียร์ลีกดีเดย์กลับมาเตะ 17 มิ.ย.

ลาลีก้า สเปน – กลับมาซ้อมเต็มรูปแบบได้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน จากเดิมที่จำกัดให้นักเตะซ้อมแบบรายบุคคล แล้วขยับไปเป็นซ้อมกลุ่มย่อย โดยมีแผนรีสตาร์ตลีกใหม่วันที่ 11 มิถุนายน

เมสซี่และนักเตะลาลีก้ากลับมาซ้อมรอเวลา

กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี – กัลโช่เป็นลีกแรกที่ได้รับผลกระทบหนักจากโควิด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในอิตาลีรุนแรงเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป แต่ตอนนี้อนุญาตให้แต่ละทีมซ้อมได้แล้ว และกำหนดวันกลับมาเตะในวันที่ 20 มิถุนายน หรือ 3 วันหลังจากกำหนดการนัดชิง “อิตาเลียนคัพ” ที่เลื่อนมาเช่นกัน

ลีกเอิง ฝรั่งเศส – ตัดจบไปตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน หลังจากโดนกดดันจากภาครัฐบาล แม้ว่าทางลีกจะเตรียมมาตรการรับมือเรื่องสุขภาพไว้แล้วก็ตาม เมื่อตัดจบแล้วใช้สูตรคำนวณคะแนนเฉลี่ยต่อนัดเพื่อตัดสินแชมป์ เพราะมีทีมที่เตะไม่เท่ากัน สุดท้าย ปารีส แซงต์แชร์แมง คว้าแชมป์ไปครอง ส่วน อาเมียงส์ กับ ตูลูส ตกชั้น แต่ทั้งอาเมียงส์ที่ตกชั้น และ ลียง ที่พลาดตั๋วบอลยุโรป ประกาสเตรียมฟ้องศาลว่าตัดสินไม่เป็นธรรมแล้ว

เอเรดิวิซี่ เนเธอร์แลนด์ – ลีกดัตช์ตัดจบไปแล้วเช่นกัน แต่เนื่องจาก อายแอ็กซ์ (อาแจ๊กซ์) อัมสเตอร์ดัม จ่าฝูง มีคะแนนเท่ากับ เอซี อัล์คมาร์ แต่เหนือกว่าแค่ผลต่างประตู ขณะเหลือเกมเตะ 9 นัด ทำให้สุดท้ายทางลีกตัดสินใจไม่มอบแชมป์ให้ทีมใด และไม่มีการตกชั้น โดยอายแอ็กซ์ได้ไปเตะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มเลย ส่วนอัล์คมาร์ต้องไปเล่นรอบคัดเลือกรอบสอง

โปรลีก  เบลเยียม – เป็นอีลีกที่เพิ่งลงมติตัดจบเมื่อไม่นานมานี้ แต่เนื่องจากทุกทีมในลีกเตะ 29 นัดเท่ากัน จึงยึดผลงานจากตารางคะแนนเมื่อก่อนพักเบรกเลย ส่งผลให้ คลับ บรูช คว้าแชมป์ไปครอง

พรีไมร่า ลีก้า โปรตุเกส – รัฐบาลโปรตุเกสไฟเขียวให้ลีกสูงสุดของประเทศกลับมาแข่งขันได้ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม แต่เนื่องจากลีกดิวิชั่น 2 หรือ เซกุนด้า ดิวิชั่น ประกาศตัดจบไปแล้ว ทำให้ นาซิโอนาล กับ ฟาเรนเซ่ จ่อรอขึ้นชั้นฤดูกาลหน้าเรียบร้อย

ซุปเปอร์ลีก้า เดนมาร์ก – ลีกเดนมาร์กกลับมาเตะกันเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยสมาคมฟุตบอลแดนโคนมคาดว่าจะผลักดันให้จบฤดูกาลในวันที่ 29 กรกฎาคม

แฟนบอลเดนมาร์กขับรถไปชมการถ่ายทอดผ่านจอยักษ์

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก / ยูโรป้าลีกสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) – ยูฟ่ากำหนดวันแข่งขันรอบชิงชนะเลิศทั้งแชมเปี้ยนส์ลีกและยูโรป้าลีกใหม่ ซึ่งล่าช้าจากกำหนดเดิมไป 3 เดือน โดยรอบชิงแชมเปี้ยนส์ลีกจะแข่งที่สนามอตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดียม นครอิสตันบุล ประเทศตุรกี ตามโปรแกรมเดิม ในวันที่ 29 สิงหาคม ส่วนรอบชิงยูโรป้าลีก แข่งที่สตาดิโอน เอแนร์ก้า กดังส์ค ประเทศโปแลนด์ ในวันที่ 26 สิงหาคม

ประเด็นน่าสนใจคือ เนื่องด้วยหลายลีกจะปิดฤดูกาลล่าช้า ทำให้ต้องเร่งเปิดฤดูกาลใหม่ ไม่ให้โปรแกรมเคลื่อนไปมากนัก เพราะต้องเตรียมพร้อมรองรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2020 ที่เลื่อนแข่งไปเป็นปีหน้าด้วย หมายความว่าสำหรับบางทีมที่ทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศบอลยุโรป อาจจะเหลือเวลาเตรียมตัวก่อนฤดูกาล 2020-21 เปิดฉาก แค่เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น

เรียกว่าแทบไม่มีเวลาพักกันเลย!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image