เฟร์นานโด อลอนโซ่ รีเทิร์นซิ่งฟอร์มูล่าวัน กับเส้นทางที่ห่างหายไป 2 ปี
เฟร์นานโด อลอนโซ่ อดีตแชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน 2 สมัย ยืนยันการคัมแบ๊กกลับมาแข่งรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลกอีกครั้งในฤดูกาลหน้า หลังโบกมือลาวงการไปเมื่อปี 2018
อลอนโซ่จะกลับมาเป็นนักขับให้กับทีม เรโนลต์ เป็นรอบที่ 3 ซึ่งเป็นทีมที่เขาเคยซิ่งจนคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2005 และ 2006 ซึ่งสื่อคาดว่า อลอนโซ่ ที่กำลังจะมีอายุครบ 39 ปีในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ ได้จรดปากกาเซ็นสัญญากับเรโนลต์เรียบร้อยแล้วเป็นเวลา 2 ปี แม้จะไม่มีการประกาศรายละเอียดระยะเวลาอย่างเป็นทางการ
การหวนคืนสังเวียนความเร็วอลอนโซ่ในครั้งนี้ จะเป็นการมาขับให้ทีมเรโนลต์เคียงข้าง เอสเตบัน โอคอน และแทนที่ของ ดาเนียล ริคคิอาร์โด้ ที่เตรียมย้ายไปอยู่กับ แม็คลาเรน ในซีซั่นหน้า
บีบีซี รายงานว่า อลอนโซ่เริ่มเจรจากับทีมเรโนลต์มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว จนกระทั่งเดือนพฤษภาคมปีนี้ ฟลาวิโอ บริอาโตเร่ ที่ปรึกษาของอลอนโซ่เผยกับสื่อว่า นักซิ่งชาวสเปนมีแรงบันดาลใจและพร้อมที่จะกลับมาแข่งฟอร์มูล่าวันอีกครั้ง
กระแสข่าวจากวงในระบุว่า ตลอดระยะเวลาราว 2 ปี ที่อลอนโซ่ห่างหายจากเอฟวันไป ทำให้เขารู้สึกว่าไม่มีการแข่งขันใดในมอเตอร์สปอร์ตที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นได้เท่ากับฟอร์มูล่าวันอีกแล้ว
อลอนโซ่ถือครองสถิติคว้าชัยชนะสนามต่างๆ ในเอฟวันมากที่สุดเป็นอันดับ 6 ตลอดกาล ด้วยผลงาน 32 สนาม ส่วนอันดับ 1 ไม่ใช่ใครที่ไหน มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ตำนานแชมป์โลก 7 สมัย ที่คว้าชัยไป 91 สนาม
นอกจากภาพรวมที่คว้าแชมป์โลกฟอร์มูล่าวันได้ 2 สมัยกับทีมเรโนลต์ในปี 2005 และ 2006 แล้ว เขาเคยพลาดคว้าแชมป์โลกแบบน่าเสียดายสุดสุดถึง 3 หน ในซีซั่น 2007 กับแม็คลาเรน และอีก 2 ครั้งในปี 2010 และ 2012 กับ เฟอร์รารี่ โดยมีคะแนนรวมตลอดซีซั่นน้อยกว่าแชมป์แค่ 1-4 แต้มเท่านั้น
จากนั้นเป็นต้นมา อลอนโซ่ ไม่เคยคว้าธงตาหมากรุกได้อีกเลย นับตั้งแต่ทำได้ครั้งสุดท้ายในรายการ สแปนิช กรังด์ ปรีซ์ 2013 จึงโบกมือลาเฟอร์รารี่มาอยู่กับแม็คลาเรนเป็นรอบที่ 2 ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา แต่ช่วงเวลา 2015-2018 ของอลอนโซ่กับแม็คลาเรนนั้นออกมาค่อนข้างน่าผิดหวัง และมีรอยร้าวระหว่างกันภายในทีม
สุดท้ายเขาตัดสินใจหันหลังให้กับวงการเอฟวันในปี 2018 โดยเหตุผลไว้ว่าประสบความสำเร็จในเอฟวันมากกว่าที่วาดฝันไว้แล้ว และอยากจะออกไปไล่ล่าความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่านี้นอกเหนือจากฟอร์มูล่าวันดูบ้าง
อลอนโซ่เปลี่ยนบรรยากาศไปแข่งขัน เลอม็องส์ 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการซิ่งรถสุดทรหด และคว้าแชมป์ได้ในเดือนมิถุนายนปี 2018 ทั้งๆ ที่เพิ่งเคยลงแข่งขันเป็นปีแรก ก่อนจะทำได้อีกครั้งในปีถัดมา
ตอนนี้ อลอนโซ่ มีลุ้นที่จะคว้า ทริปเปิล คราวน์ หรือแชมป์ 3 รายการใหญ่ในวงการมอเตอร์สปอร์ต หลังจากมีแชมป์เลอม็อง 24 ต่อจากเอฟวันแชมป์โมนาโก กรังด์ปรีซ์ ขาดแต่เพียงศึก อินเดียนาโปลิส 500 หรือ อินดี้ 500 เท่านั้น
อลอนโซ่มีกำหนดลงแข่งขันอินดี้ 500 กับทีมแม็คลาเรนในเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากเจอโควิด-19 จนต้องเลื่อนจากกำหนดเดิมในเดือนพฤษภาคม
ถ้าหากเขาทำสำเร็จ อลอนโซ่จะกลายเป็นนักขับคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ทำทริปเปิลคราวน์ได้สำเร็จ ต่อจาก เกรแฮม ฮิล ตำนานนักซิ่งชาวสหราชอาณาจักร
นอกจากนี้อลอนโซ่ยังเคยลงแข่งขัน ดาการ์ แรลลี่ การแข่งขันสุดโหดและอันตรายที่สุดรายการหนึ่งในวงการมอเตอร์สปอร์ตมาแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
มาร์ติน บรันเดิล อดีตนักขับฟอร์มูล่าวัน ที่ผันตัวมาเป็นผู้บรรยายทางสถานีโทรทัศน์ บอกว่า น่าตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้เห็นอลอนโซ่กลับมาแข่งเอฟวันอีกครั้ง เขากำลังจะอายุ 39 ในขณะที่นักขับหลายๆ คนตอนนี้อายุ 20 กว่าๆ เท่านั้น
เชื่อว่าอลอนโซ่เก๋าพอจะหวนซิ่งได้อีกครั้ง แต่จะสามารถจับจังหวะประชันกับบรรดานักขับดาวรุ่งคนอื่นๆ ได้ดีแค่ไหนนั้น ต้องมารอดูกัน
