สกู๊ปพิเศษ : ยูเอส โอเพ่น vs โควิด ศึกที่ทำนักเทนนิสดังคิดไม่ตก
เทนนิสแกรนด์สแลม ยูเอส โอเพ่น ยังคงยืนยันแข่งขันในวันที่ 31สิงหาคม – 13 กันยายนนตามกำหนดเดิม ที่สนามฟลัชชิ่ง เมโดวส์ ในมหานครนิวยอกร์กของสหรัฐ
ทว่าด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้อยู่หมัดนั้น ส่งผลให้เกิดความหวั่นวิตกว่าการแข่งขันนี้จะสามารถจัดและผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นหรือเปล่า แม้จะบอกว่ามีมาตรการรับมือและเว้นระยะห่างทางสังคมก็ตาม
โดยในระยะหลังมีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกาวันเดียวเกือบ 60,000 คน
นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการกักตัวและการเดินทางอยู่ เพราะจะต้องมีนักกีฬาหลากหลายชาติจากทั่วโลกเดินทางเพื่อมาประชันฝีมือกัน
สเตฟานอส ซิตซิปาส นักเทนนิสมือ 5 ของโลกชาวกรีซ ยังคงย้ำคำเดิมว่า โอกาสที่เขาจะลงแข่งยูเอสโอเพ่นคือ 50-50 เท่านั้น
“ใจจริงคือผมอยากไปแข่งมากๆ แต่ถ้าสถานการณ์ต่างๆ แย่ลง จนเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรา บางทียูเอสโอเพ่นและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรตัดสินใจหยุดกิจกรรมในปีนี้ไปก่อน” ซิตซิปาส กล่าว
ก่อนหน้านี้ เมื่อกลางเดือนมิถุนายน แอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ได้ไฟเขียวให้ศึกยูเอสโอเพ่นสามารถจัดแข่งขันได้ แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้มีคำแนะนำให้กักตัว 14 วันสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากฟลอริดาและรัฐอื่นๆ ซึ่มีอัตราผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนมาก
ฟลอริดา คือรัฐที่บรรดานักเทนนิสมืออาชีพส่วนใหญ่ใช้พักและฝึกซ้อมก่อนเข้าแข่งขันยูเอส โอเพ่น แล้วผู้เล่นเหล่านั้นจะได้รับการยกเว้นเดินทางมาแข่งได้โดยไม่ต้องกักตัวหรือเปล่า
แถมหลังจากนี้ก็มีรายการระดับมาสเตอร์ส ซีรีส์ที่สเปนและอิตาลี ต่อด้วยแกรนด์สแลม เฟร้นช์ โอเพ่น ซึ่งแข่งต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงตุลาคม แล้วรัฐบาลของประเทศนั้นๆ จะรับมืออย่างไร ถ้ากักตัวตามกำหนด 14 วันนั้นจะทำให้แข่งไม่ทันแน่นอน
นอกจากนี้สหภาพยุโรป (อียู) ยังคงแนะนำให้ประเทศต่างๆ ห้ามผู้ที่เดินทางมาจากสหรัฐเข้าประเทศ แล้วการไปแข่งยูเอสโอเพ่นจะเกิดปัญหาตามมาหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม อียูให้สิทธิประเทศสมาชิกตัดสินใจเกี่ยวกับการยกเว้นหรือกำหนดเกณฑ์กักตัวต่างๆ
เจมี่ เมอร์เรย์ นักเทนนิสชาวสหราชอาณาจักร พี่ชายของ แอนดี้ เมอร์เรย์ อดีตเบอร์ 1 ของโลก ที่คว้าแชมป์ประเภทชายคู่ในศึกยูเอสโอเพ่นได้ถึง 2 จาก 3 ปีหลังสุด มองว่าคงเป็นงานยากสำหรับสมาคมเทนนิสอาชีพ ที่จะสนับสนุนให้จัดยูเอส โอเพ่นต่อไปได้ เมื่อต้องเผชิญกับมาตรการกักตัวในขณะที่นักเทนนิสจะต้องเดินทางไปแข่งขันรายการสำคัญอื่นๆ ในยุโรปต่อจากนั้นทั้ง 2 มาสเตอร์ส ซีรีส์และอีก 1 แกรนด์สแลม
ส่วน ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสมือ 2 ของโลกชาวสเปน ที่เป็นแชมป์เก่ายูเอส โอเพ่น เมื่อปีที่แล้ว เพิ่งออกมาเปิดใจว่าไม่ค่อยอยากเดินทางไปป้องกันแชมป์เท่าไหร่ เพราะสถานการณ์โควิด-19 และข้อจำกัดเกี่ยวกับการเดินทาง
ด้าน โนวัก โยโควิช มือ 1 ของโลกจากเซอร์เบีย ที่ตกเป็นเป้าโจมตีหลังจักแข่งรายการพิเศษอาเดรียทัวร์แบบขาดมาตรการระวังป้องกันโรคระบาด จนตัวเองและนักเทนนิสหลายคนติดเชื้อโควิดนั้น บีบีซี รายงานว่านักหวดเซิร์บก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะไปแข่งขันยูเอส โอเพ่นในปีนี้หรือไม่
โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อดีตเบอร์ 1 ของโลก จะไม่ลงแข่งขันแน่นอน เนื่องจากเพิ่งรับการผ่าตัดรักษาอาการเจ็บเข่า โดยตั้งเป้ากลับมาลงแข่งขันได้ตั้งแต่ต้นปีหน้า 2021 เป็นต้นไป
นอกจากจะไม่มีเฟเดอเรอร์แน่นอนแล้ว ถ้าไร้เงานาดาลกับโยโควิชอีก แกรนด์สแลมนี้คงขาดความเข้มข้นไปมากพอสมควร
แม้นักเทนนิสหลายคนดูเหมือนไม่อยากมาแข่งท่ามกลางความเสี่ยงติดโควิด-19 แต่ก็มีผู้เล่นอีกจำนวนหนึ่งที่สนับสนุนให้การแข่งขันจัดต่อและพร้อมลงประชันฝีมือ
เซเรน่า วิลเลียมส์ นักหวดคนดังของสหรัฐ อดีตมือ 1 ของโลก และแชมป์ยูเอส โอเพ่น 6 สมัย เป็นมือดังระดับโลกเพียงไม่กี่คนที่ประกาศตัวว่าพร้อมลงแข่งขันในปีนี้ โดยเชื่อมั่นว่าฝ่ายจัดจะทำให้การแข่งขันดำเนินไปได้อย่างปลอดภัย
ขณะที่ จอห์น อีสเนอร์ มือ 1 ของอเมริกาและเบอร์ 21 ของโลก อยากให้การแข่งขันด้วย เพิ่งแสดงความชื่นชมไปยังสมาคมเทนนิสแห่งชาติของประเทศบ้านเกิด ที่ตัดสินใจเดินหน้าจัดแกรนด์สแลมยูเอสโอเพ่นต่อ
แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากแข่ง เพราะเป็นรายการใหญ่ระดับแกรนด์สแลมอย่างยูเอสโอเพ่น
แต่ถ้าต้องเอาตัวเองไปอยู่บนความเสี่ยงท่ามกลางโรคระบาด จะมีนักหวดขอบาย แล้วไปรอแข่งปีหน้าก็ไม่แปลก