จับตาสถานการณ์ศึกกอล์ฟหญิง แอลพีจีเอ ทัวร์ 1 เดือนหลังรีสตาร์ท
ศึกกอล์ฟหญิง แอลพีจีเอ ทัวร์ กลับมารีสตาร์ทการแข่งขันได้ 1 เดือนแล้ว หลังจากทุกอย่างหยุดชะงักไปตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา “โควิด-19”
แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในหลายๆ ประเทศจะยังคงค่อนข้างสูง และมีข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง แต่การรีสตาร์ทการแข่งขันก็เป็นความมุ่งหมายของ แอลพีจีเอ ที่จะรักษาผลประโยชน์ของนักกีฬาและผู้สนับสนุน ให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่อไปได้โดยควบคุมความเสียหายให้น้อยที่สุด หลังจากหลายๆ ทัวร์นาเมนต์ที่เตรียมตัวกันมาอย่างดีต้องทยอยยกเลิกหรือเลื่อนการแข่งขันไป
และเช่นเดียวกับวงการกีฬาอื่นๆ การรีสตาร์ทการแข่งขันในยุคที่ยังไม่มียาหรือวัคซีนป้องกันโรคระบาด ต้องยึดหลักปฏิบัติแบบ “นิว นอร์มอล” เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าร่วม
เช่น การไม่เปิดให้ผู้ชมเข้าไปชมการแข่งขันในสนาม การกำหนดให้นักกีฬาใช้รถกอล์ฟคาร์ทคนละคันเพื่อเว้นระยะทางสังคม การเลี่ยงการกอดหรือจับมือ รวมถึงการหมั่นตรวจเชื้อไวรัสอย่างสม่ำเสมอก่อนการแข่งขัน
แอลพีจีเอ ยังผ่อนผันกฎเรื่องการใช้แคดดี้ โดยอนุญาตให้นักกีฬาถือถุงกอล์ฟเอง กรณีไม่ได้ใช้บริการแคดดี้ของตัวเอง และต้องการเลี่ยงจ้างแคดดี้ท้องถิ่น เพราะอาจจะไม่มั่นใจเรื่องไวรัส
เหล่านี้ได้กลายเป็นภาพแปลกตาสำหรับแฟนๆ และผู้บรรยายที่ชมการถ่ายทอดการแข่งขันอยู่ทางบ้าน ตัวอย่างเช่นลินด์ซีย์ วีฟเวอร์ โปรสาวชาวอเมริกัน ซึ่งต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งเข็นถุงกอล์ฟ เกลี่ยทรายในบังเกอร์ หยิบธง ปักธง เลือกไม้ ฯลฯ จนกลายเป็นไฮไลต์ในช่วงแรกของการแข่งขันเมเจอร์ เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น ที่สกอตแลนด์ เนื่องจากวีฟเวอร์ทำผลงานได้ดีจนมีลุ้นถึงแชมป์ ก่อนจบอันดับ 19 ร่วมในรอบสุดท้าย
อุปสรรคเรื่องการเดินทาง รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกสองในหลายประเทศเริ่มส่งสัญญาณว่าอาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมแข่งขันอีก โดยฝั่ง พีจีเอ ทัวร์ เพิ่งประกาศย้ายการแข่งขันรายการ เดอะ ซีเจ คัพ ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ จากเดิมกำหนดแข่งขันที่เกาะเจจู ระหว่างวันที่ 15-18 ตุลาคม ไปที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา แทน เนื่องจากรัฐบาลเกาหลีใต้กำหนดมาตรการเรื่องการเดินทางเข้าออกประเทศค่อนข้างเข้มงวด โดยเฉพาะการต้องกักตัว 14 วันหลังเดินทางจากพื้นที่เสี่ยง
ในส่วนปฏิทินแข่งขันของแอลพีจีเอ ทัวร์ ขณะนี้ยังบรรจุรายการ บีเอ็มดับเบิลยู เลดี้ส์ แชมเปี้ยนชิพ ที่เกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 22-25 ตุลาคม และรายการ โตโต้ เจแปน คลาสซิค ที่ญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 6-8 พฤศจิกายน ซึ่งต้องรอดูต่อไปว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตามมาเหมือนกับฝั่งกอล์ฟชายหรือไม่
การเปลี่ยนแปลงโปรแกรมแข่ง เอเชี่ยน สวิง ของ แอลพีจีเอ ทัวร์ อาจจะมีผลกระทบในด้านการตลาดมากกว่า พีจีเอ ทัวร์ เพราะปัจจุบันนักกอล์ฟหญิงฝั่งเอเชีย โดยเฉพาะเกาหลีใต้ยังคงสร้างผลงานโดดเด่นอยู่ระดับแถวหน้าของวงการ
และที่ผ่านมา ตั้งแต่เกิดโรคระบาด ถึง แอลพีจีเอ จะกลับมารีสตาร์ท แต่โปรชั้นนำของโลกชาวเกาหลีใต้หลายคนก็ยังไม่ได้เดินทางไปแข่งขันในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นโค จิน ยอง มือ 1 ของโลกคนปัจจุบัน หรืออดีตมือ 1 โลกอย่างปาร์ก ซุง ฮยุน ก็ตาม
เป็นอีกหนึ่งผลกระทบที่น่าเสียดายสำหรับวงการกอล์ฟหญิงของโลกในขณะนี้