เจาะ54ทัพไทยบุก’บราซิล’ ภารกิจทวงเหรียญทอง’โอลิมปิก’

อีกไม่กี่อึดใจมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติอย่างโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน ครั้งที่ 31 “รีโอเกมส์” จะเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ ที่นครรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล ระหว่างวันที่ 5-21 สิงหาคม พ.ศ.2559

โอลิมปิกเกมส์หนนี้ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เจ้าของเกมแข่งขันอนุมัติให้จัดชิงชัย 28 ชนิดกีฬา 41 ประเภท ชิงชัย 306 เหรียญทอง โดยมี 206 ชาติสมาชิกไอโอซีส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน

สำหรับประเทศไทยมีนักกีฬาที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมชิงชัย “รีโอเกมส์” มากถึง 54 คนเทียบเท่าสถิติสูงสุดที่ทัพไทยเคยส่งนักกีฬา 54 คนไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน ค.ศ.1964 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แต่แตกต่างกันแค่ครั้งนั้นเป็นการเชิญไปร่วมแข่งในหลายชนิดกีฬา

จาก 54 คนของทัพไทยแยกเป็นชาย 26 คน หญิง 28 คน เจ้าหน้าที่ประจำทีมอีก 107 คน โดยรายชื่อ “ว่าที่” ฮีโร่คนใหม่ของทัพนักกีฬาไทยทั้ง 54 คน มีดังนี้

Advertisement

แบดมินตัน 7 คน บุญศักดิ์ พลสนะ (ชายเดี่ยว), รัชนก อินทนนท์, พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข (หญิงเดี่ยว), พุธิตา สุภจิรกุล-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย(หญิงคู่), บดินทร์ อิสสระ-สาวิตรี อมิตรพ่าย (คู่ผสม)

มวยสากล 5 คน ฉัตร์ชัย บุตรดี (รุ่น 56 กก.), อำนาจ รื่นเริง (รุ่น 60 กก.), วุฒิชัย มาสุข (รุ่น 64 กก.), สายลม อาดี (รุ่น 69 กก.) และ เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม (รุ่น 51 กก. หญิง)

ยิงธนู 1 คน วิทยา ทำว่อง / เรือใบ 2 คน กีระติ บัวลง (เลเซอร์ ชาย) กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม (เลเซอร์ หญิง) / วินด์เซิร์ฟ 2 คน รัฐพงษ์ โพธิ์นพรัตน์ (อาร์เอสเอ็กซ์ ชาย) ศิริพร แก้วดวงงาม (อาร์เอสเอ็กซ์ หญิง)

ยิงปืน 4 คน ธันยพร พฤกษากร (ปืนสั้นอัดลมหญิง, ปืนสั้น 25 เมตรสตรี), พิมพ์อร คล้ายสุบรรณ (ปืนสั้นอัดลมหญิง, ปืนสั้น 25 เมตรสตรี), อัฐพล เอื้ออารี (ปืนยาวท่านอน 50 เมตรชาย) และนภิศ ต่อตั้งพานิช (ปืนยาว 3 ท่า 50 เมตรชาย, ปืนยาวอัดลม 10 เมตรชาย, ปืนยาวท่านอน 50 เมตรชาย)

ยิงเป้าบิน 1 คน สุธิยา จิวเฉลิมมิตร (สกีตบุคคลหญิง) / เทเบิลเทนนิส 3 คน นันทนา คำวงศ์ (หญิงเดี่ยว), สุธาสินี เสวตรบุตร (หญิงเดี่ยว) และ ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล (ชายเดี่ยว) / เทควันโด 3 คน พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (รุ่น 49 กก.), เทวินทร์ หาญปราบ (รุ่น 58 กก.) และ พรรณนภา หาญสุจินต์ (รุ่น 57 กก.)

ยกน้ำหนัก 9 คน โสภิตา ธนสาร (รุ่น 48 กก. หญิง), สุกัญญา ศรีสุราช (รุ่น 58 กก. หญิง), ไตรรัตน์ บุญสุข (รุ่น 69 กก. ชาย), พิมศิริ ศิริแก้ว (รุ่น 58 กก. หญิง), ศิริภุช กุลน้อย (รุ่น 63 กก. หญิง), สินธุ์เพชร์ กรวยทอง (รุ่น 56 กก. ชาย), วิฑูรย์ มิ่งมูล (รุ่น 56 กก. ชาย), จตุภูมิ ชินวงศ์ (รุ่น 77 กก. ชาย) และศรัท สุ่มประดิษฐ (รุ่น 94 กก. ชาย)

เรือพาย 2 คน พุทธรักษา นีกรี (กรรเชียง หญิงเดี่ยว พายคู่) จารุวัฒน์ แสนสุข (กรรเชียง ชายเดี่ยว พายคู่) / กรีฑา 4 คน เจน วงษ์วรโชติ, ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์ (วิ่งมาราธอน หญิง), บุญถึง ศรีสังข์ (วิ่งมาราธอน ชาย) สุเบญรัตน์ อินแสง (ขว้างจักร)

ว่ายน้ำ 2 คน ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง (ฟรีสไตล์ 100 เมตรหญิง, รดมยศ มาตเจือ (กบ 50 เมตรชาย) / จักรยาน 2 คน จุฑาทิพย์ มณีพันธุ์ (ประเภทถนน) กับ อะแมนด้า คาร์ (ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์) / ยูโด 1 คน คุณาธิป เยี่ยอ้น / กอล์ฟ 4 คน ธงชัย ใจดี, กิรเดช อภิบาลรัตน์, เอรียา จุฑานุกาล, พรอนงค์ เพชรล้ำ

ภารกิจสำคัญของทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ 2016 คือ การทวงเหรียญทองคืนมาหลังจากเมื่อ 4 ปีก่อนใน “ลอนดอนเกมส์” ที่ประเทศอังกฤษ ทัพไทยพลาดเหรียญทองทำได้แค่ 2 เหรียญเงิน จาก พิมศิริ ศิริแก้ว ยกน้ำหนัก รุ่น 58 กก. และ แก้ว พงษ์ประยูร มวยสากล รุ่นฟลายเวต กับ 2 ทองแดง จาก ชนาธิป ซ้อนขำ เทควันโด รุ่น 49 กก. หญิง กับ ศิริภุช (รัตติกาล) กุลน้อย ยกน้ำหนัก รุ่น 58 กก.

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะที่ดูแลการเตรียมทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2016 ต้องทุ่มงบประมาณกว่า 249.4 ล้านบาท แยกเป็นการส่งไปควอลิฟาย 191.99 ล้านบาท เตรียมนักกีฬา 18.79 ล้านบาท และส่งแข่งขันอีก 38.62 ล้านบาท

“บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย บอกว่า หลังจากโอลิมปิกครั้งที่แล้วไทยพลาดเหรียญทองไป ครั้งนี้มีนักกีฬาผ่านการคัดเลือกมากขึ้น ทำให้มีโอกาสไม่น้อย ประกอบกับศักยภาพของทุกคน ทำให้เชื่อมั่นว่าไทยจะคว้าเหรียญทองกลับมาได้ ซึ่งนอกจากกีฬาความหวังเดิมอย่าง มวยสากล, ยกน้ำหนัก, เทควันโด แล้วยังมี แบดมินตัน, ยิงเป้าบิน และกอล์ฟ ที่เพิ่มเติมโอกาสลุ้นเหรียญเข้ามาด้วย

กลุ่มชนิดกีฬาความหวังทวงเหรียญทองให้ทัพนักกีฬาไทยใน “รีโอเกมส์” อยู่ที่ มวยสากล, ยิงเป้าบิน, ยิงปืน, แบดมินตัน, ยกน้ำหนัก, เทควันโด และกอล์ฟ

สำหรับนักกีฬาตัวเต็งที่จะสานความฝันของคนไทยในการทวงเหรียญทองและก้าวไปสู่การเป็น “ฮีโร่” คนใหม่ของคนไทยใน 7 ชนิดกีฬาความหวังดังนี้

มวยสากลได้ลุ้นจาก “เอ็ม” วุฒิชัย มาสุข กำปั้นรุ่น 64 กก.เจ้าของเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 วัย 26 ปีชาว จ.บุรีรัมย์ และ อำนาจ รื่นเริง กำปั้นตัวเก๋าวัย 37 ปีชาว จ.ชลบุรี ที่เบนเข็มจากมวยอาชีพกลับมาชกสากล

ยิงเป้าบิน ได้ลุ้นจาก “น้องณี” สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักยิงเป้าบินวัย 30 ปีจาก จ.ปราจีนบุรี เพราะเธอคือ สกีตหญิงเบอร์ 1 โลกในปัจจุบัน / แบดมินตัน ได้ลุ้นจาก “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ นักตบลูกขนไก่สาววัย 21 ปีจาก จ.ร้อยเอ็ด หากเธอท็อปฟอร์มเหมือนตอนกวาด 3 แชมป์ซุปเปอร์ซีรีส์ 3 สัปดาห์ซ้อนก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินที่เธอจะกระชากเหรียญทองให้ทัพนักกีฬาไทย

ยกน้ำหนัก 2 จอมพลังไทยที่จะได้ลุ้นถึงเหรียญทองหนีไม่พ้น “แต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว จอมพลังสาววัย 26 จาก จ.ขอนแก่น เพราะเธอคือ รองแชมป์หนก่อน อีกรายคือ “ปุ๊กลุก” ศิริภุช (รัตติกาล) กุลน้อย จอมพลังสาววัย 23 ปีจากเมืองกรุง

เทควันโด แทบจะเรียกได้ว่าเป็นความหวังสูงสุดของทัพนักกีฬาไทยเลยทีเดียวสำหรับ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ในรุ่น 49 กก. ปัจจุบันเธอมีวัยเพียง 19 ปีชาว จ.สุราษฎร์ธานี แต่เธอคือจอมเตะมือวาง 2 ของรายการที่จะไปแย่งเหรียญทองกับ หวู จิง หยู จอมเตะเบอร์ 1 โลกจากจีน

กอล์ฟ ความหวังสูงสุดน่าจะอยู่ที่ “โปรช้าง” ธงชัย ใจดี โปรจอมเก๋าวัย 46 จาก จ.ลพบุรี กับ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิตมาหมาดๆ

1
นับตั้งแต่ไทยเข้าแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ.1952 โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 15 ที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ และมาประสบความสำเร็จเหรียญแรกในโอลิมปิกในปี ค.ศ.1976 โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 21 ที่มอนทรีออล ประเทศแคนาดา จาก พเยาว์ พูลธรัตน์ นักชกจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์คว้าเหรียญทองแดงมวยสากลสมัครเล่น รุ่นไลต์ฟลายเวต

จากนั้นทัพไทยได้เหรียญมาตลอดกระทั่งในปี 1996 โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่เมืองแอตแลนต้า สหรัฐอเมริกา “โม้อมตะ” สมรักษ์ คำสิงห์ หรือ “บาส” กลายเป็นนักชกประวัติศาสตร์คนแรกของไทยที่คว้าเหรียญทองมาคล้องคอ

ต่อมาในโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ปี ค.ศ.2000 วิจารณ์ พลฤทธิ์ นักชกจาก จ.สุโขทัย กระชากเหรียญทองที่ 2 ให้ทัพไทยจากมวยสากล รุ่นฟลายเวต
โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ไทยสร้างประวัติศาสตร์ได้เหรียญทองมากที่สุดถึง 3 เหรียญ จาก “เติ้ล” มนัส บุญจำนงค์ (มวยสากล) “ไก่” ปวีณา ทองสุก และ “อร” อุดมพร พลศักดิ์ (ยกน้ำหนัก)

โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ปี 2008 ทัพไทยได้ 2 ทอง จาก “เก๋” ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ยกน้ำหนักหญิง รุ่น 53 กก. และ สมจิตร จงจอหอ มวยสากล รุ่นฟลายเวต

แต่เมื่อ 4 ปีก่อนโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 30 ค.ศ.2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทัพไทยไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้

ลองมาติดตามกันว่าภารกิจทวงเหรียญทองของทัพไทยในโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2016 จะสำเร็จหรือไม่…

อีกไม่นาน…มีคำตอบ…

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image