โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่นครรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับนักกีฬาหลายๆ คน แต่ในอีกมุมหนึ่ง สำหรับนักกีฬาจำนวนไม่น้อยที่สร้างผลงานและรับใช้ชาติมาอย่างยาวนานแล้ว นี่อาจจะเป็นเวทีสุดท้ายของพวกเขาในฐานะนักกีฬาโอลิมปิก
และเหล่านี้คือ “ฮีโร่” และ “ตำนาน” ของหลากหลายวงการที่เตรียมโบกมือลามหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติไปหลังปิดฉากการแข่งขันในวันที่ 21 สิงหาคม ซึ่งแฟนกีฬาต้องจับตาและติดตามผลงานกันให้ดี เพื่อเป็นการส่งท้าย…
ไมเคิล เฟลป์ส
ฉลามหนุ่มชาวอเมริกันวัย 31 ปี เจ้าของสถิติคว้าเหรียญทองโอลิมปิกสูงสุด 18 เหรียญ (พ่วงด้วย 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง) ประกาศอำลาสระหลังจบโอลิมปิกเกมส์หนก่อนที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่เกิดโหยหาบรรยากาศการแข่งขันขึ้นมา เลยตัดสินใจกลับมาฝึกซ้อมอีกครั้ง และผ่านการคัดตัวร่วม “รีโอเกมส์” ในประเภทผีเสื้อ 100 และ 200 เมตร, ฟรีสไตล์ 100 เมตร และเดี่ยวผสม 200 เมตร ซึ่งคุณพ่อมือใหม่หวังว่าจะทิ้งทวนโอลิมปิกสมัยที่ 5 ของตัวเองด้วยเหรียญทองอีกครั้ง
เย่อ ซื่อเหวิน
เงือกสาวชาวจีนกลายเป็นประเด็นร้อนใน “ลอนดอนเกมส์” เมื่อสามารถคว้า 2 เหรียญอทงจากท่าเดี่ยวผสม 200 และ 400 เมตร หญิง ขณะอายุเพียง 16 ปี โดยเฉพาะรายการแรกซึ่งแรงจากอันดับ 3 แซงผู้นำจนแตะขอบสระทำลายสถิติโอลิมปิก ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน แม้วันนี้เธอจะอายุเพียง 20 ปี และยังสามารถเข้าร่วมโอลิมปิกได้อีกหลายครั้ง แต่ซื่อเหวินบอกแล้วว่านี่น่าจะเป็นโอลิมปิกหนสุดท้ายของเธอแล้ว
มานู จิโนบิลี่
ชู้ตติ้งการ์ดชื่อดังของ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส เป็นสมาชิกรุ่น “โกลเดน เจเนอเรชั่น” ของทีมบาสเกตบอลทีมชาติอาร์เจนตินามายาวนาน ถึงขั้นมีอนุสาวรีย์ของตัวเองที่กรุงบัวโนสไอเรส จากผลงานมากมายซึ่งรวมถึงเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์เมื่อปี 2004 แต่วันนี้ในวัย 38 ปี จิโนบิลี่และเพื่อนร่วมทีมอีกหลายคน อาทิ อันเดรส โนชิโอนี่, หลุยส์ สโกล่า และ คาร์ลอส เดลฟิโน่ ต่างก็พร้อมอำลาทีมไปแล้ว
ยูเซน โบลต์
ยอดลมกรดชาวจาเมกาเจ้าของ 6 เหรียญทอง วิ่ง 100 เมตร, 200 เมตร และวิ่งผลัด 4×100 เมตร จากโอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย และโดนคาดหวังพร้อมกับแบกความกดดันว่าจะต้องกวาด 3 แชมป์ดังกล่าวให้ได้อีกครั้ง เพื่อกู้ศรัทธาวงการกรีฑาที่เต็มไปด้วยข่าวอื้อฉาวเรื่องการใช้สารต้องห้าม เจ้าของฉายา “สายฟ้าฟาด” เลยต้องรับบทพระเอกไปโดยปริยาย แม้จะมีปัญหาบาดเจ็บเรื้อรังมาตั้งแต่ต้นปีก็ตาม
เซเรน่า วิลเลียมส์
นักเทนนิสมือ 1 หญิงของโลกชาวอเมริกัน เพิ่งทาบสถิติคว้าแชมป์แกรนด์สแลมสูงสุด 22 รายการ ของ สเตฟฟี่ กราฟ อดีตราชินีสักหลาดโลกชาวเยอรมัน ในการแข่งขัน วิมเบิลดัน ที่อังกฤษ เมื่อเดือนที่แล้ว อีกทั้งยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดความร้อนแรงลงแม้ว่าจะอายุถึง 34 ปีแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเธอยังคงเป็นเต็งหนึ่งของรายการเหมือนเคย
เซอร์แบรดลีย์ วิกกิ้นส์
อดีตแชมป์จักรยานทางไกล ตูร์ เดอ ฟร้องซ์ วัย 35 ปี เป็นเจ้าของ 4 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง จากโอลิมปิก 4 สัย โดยรีโอเกมส์ครั้งนี้ วิกกิ้นส์จะกลับไปแข่งประเภทลู่ซึ่งเป็นประเภทที่ตัวเองเริ่มต้นก่อนผันตัวไปแข่งประเภทถนนอีกครั้ง ซึ่งหากเขาคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งได้ ก็จะกลายเป็นนักกีฬาสหราชอาณาจักรที่คว้าเหรียญโอลิมปิกได้จำนวนรวมสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ทันที
หลิน ตัน
ยอดนักตบลูกขนไก่ชาวจีนเจ้าของฉายา “ซุปเปอร์ตัน” (Super Dan) เป็นนักแบดมินตันคนแรกที่ป้องกันแชมป์ของตัวเองได้สำเร็จ หลังจากคว้าเหรียญทองชายเดี่ยวในโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่บ้านเกิด และมาทำได้อีกสมัยด้วยชัยชนะเหนือคู่ปรับตลอดกาล ลี ชอง เหว่ย ในลอนดอนเกมส์ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนแรกมีข่าวลือว่าเขาจะเกษียณตัวเองไปก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายหลิน ตัน ก็ขอกลับมาล่าเหรียญทองสมัยที่ 3 อีกครั้ง
นันทนา คำวงศ์-พุทธรักษา นีกรี
2 นักกีฬาสาวสุดแกร่งจัดเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นป้าที่น้องๆ ในทีมชาติไทยรวมถึงแฟนๆ ให้การยอมรับนับถือ เพราะไม่ใช่แค่ฝีมือ แต่ยังเป็นการยืนระยะได้ยาวนานจนน่าชื่นชม โดยโอลิมปิกเกมส์หนนี้ ถือเป็นสมัยที่ 5 ของ “แป๋ว” นันทนา คำวงศ์ นักเทเบิลเทนนิสหญิงวัย 36 ปี
ขณะที่ “แพ็ต” พุทธรักษา นีกรี ฝีพายรุ่นใหญ่วัย 45 ปี ร่วมโอลิมปิกเป็นสมัยที่ 4 ทั้งที่เป็นกีฬาที่ต้องใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายอย่างมาก ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า ทั้งแป๋วและแพ็ตจะลามหกรรมกีฬาโอลิมปิกไปหลังจากนี้
ซึ่งแฟนกีฬาบ้านเราก็พร้อมส่งกำลังใจให้เต็มที่เพื่อแสดงความขอบคุณสำหรับความมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อชาติที่ผ่านๆ มา
