ก้าวสู่ปีที่ 57 การกีฬาแห่งประเทศไทย เดินหน้าดัน เนชั่นแนล สปอร์ตส์ ปาร์ค

ก้าวสู่ปีที่ 57 การกีฬาแห่งประเทศไทย เดินหน้าดัน เนชั่นแนล สปอร์ตส์ ปาร์ค

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดงานวันคล้ายวันสถาปนา กกท. ครบรอบปีที่ 56 ก้าวสู่ปีที่ 57 โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท.เป็นประธานในการจัดงาน และมีผู้บริหารจากภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนผู้บริหารจากสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด

อาทิ นายสกล วรรณพงษ์ อดีตผู้ว่าการ กกท. และนายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย, ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ อดีตผู้ว่าการกกท. และนายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย, นพ.วารินทร์ ตัณฑ์ศุภศิริ รองเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ร่วมแสดงความยินดี ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท.หัวหมาก เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2528 ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2528 มีอำนาจหน้าที่ในการส่งเสริมการกีฬา และควบคุมการดำเนินกิจการกีฬาได้กว้างขวาง และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

Advertisement

ตลอดระยะเวลา 56 ปี กกท.ได้เดินหน้าปฏิบัติภารกิจส่งเสริม สนับสนุน ยกระดับ และสร้างความสำเร็จให้วงการกีฬาไทยมาเกินกว่าครึ่งศตวรรษ

จากเดิมที่มีสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ กกท. เพียงไม่กี่สมาคม แต่ปัจจุบันเพิ่มจำนวนมากถึง 78 สมาคม และทุกสมาคมยังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี ตามเกณฑ์มาตรฐานที่เหมาะสมกับชนิดกีฬานั้นๆ

Advertisement

ดร.ก้องศักด เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ยากสำหรับวงการกีฬาไทย เพราะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ทุกฝ่ายจับมือผ่านกันมาได้ด้วยดี และยังต้องทำต่อไป เพื่อให้ทุกคนในวงการกีฬา และผู้เกี่ยวข้องเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จในอนาคตได้

ส่วนนโยบายของ กกท.ในการก้าวสู่ปีที่ 57 นั้น มี 4 ด้านด้วยกัน ประการแรก คือ การเตรียมการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ 2021 ที่กรุงเทพมหานคร และชลบุรี ระหว่างวันที่ 21-30 พฤษภาคม ปีหน้า ถึงแม้จะมีเวลาเตรียมการไม่มากนัก แต่ทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้การแข่งขันสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ประการต่อมา คือ การเตรียมทัพนักกีฬาไทยในการแข่งขันมหกรรมนานาชาติตลอดปี 2564 ซึ่งมีการแข่งขันหลายรายการ

เริ่มจากเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ที่ประเทศไทย รายการนี้จะเป็นทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องให้ทัพนักกีฬาไทยก่อนกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม – 8 สิงหาคม 2564

โดยโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ทัพไทยจะต้องได้เหรียญรางวัลติดอันดับ 1-7 ของชาติเอเชียให้ได้ เพราะที่ผ่านมามีการเตรียมตัวที่ดี และได้ให้นักกีฬาทีมชาติเริ่มเก็บตัวกันแล้วในเดือนนี้ อีกเป้าหมายสำคัญคือ การทวงเจ้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 21 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2564

เรื่องต่อมา คือ การเดินหน้าพัฒนาศูนย์กีฬาหัวหมากให้เป็น “เนชั่นแนล สปอร์ตส์ ปาร์ค” ที่ครบวงจรและทันสมัย หลังจากที่ได้คณะกรรมการบริหารการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ได้มีมติรับรองให้เดินหน้าตามแผนที่วางไว้ และสามารถเจรจาร่วมทุนกับภาคเอกชนได้ ก็ได้เริ่มเดินหน้าไปแล้ว

หลังจากนี้จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ทันสมัยของศูนย์กีฬาหัวหมาก ที่มีสนามแข่งขันที่ทันสมัย มีศูนย์ฝึกที่ครบวงจร ศูนย์อุตสาหกรรม และทรัพยากรกีฬา รวมถึงศูนย์ประชุมที่รองรับการประชุมใหญ่ๆ ได้ครบถ้วน

นโยบายต่อมาคือ การนำกีฬากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเน้นไปที่การท่องเที่ยวเพื่อการกีฬา หรือ “สปอร์ตทัวริสม์” ซึ่งจะเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ภูมิภาคด้วยการจัดกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวให้มากขึ้น ที่ผ่านมาได้เดินหน้าทำไปแล้ว และประสบความสำเร็จได้ด้วยดีในหลายจังหวัด

หลังจากนี้ยังคงทำต่อไป และทำให้ดีขึ้นกว่าขวบปีที่ผ่านมา ส่วนนโยบายสำคัญของคนภายใน กกท.เอง จะต้องมีการเพิ่มหรือปรับปรุงสวัสดิการเพื่อสวัสดิภาพที่ดีของพนักงาน กกท.ทั่วประเทศ เนื่องจากบุคคลเหล่านี้มีความสำคัญกับการพัฒนาองค์กร และเดินหน้าวงการกีฬาของประเทศ เมื่อทุกคนมีสวัสดิภาพที่ดี ก็จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ใ นโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา กกท. ครบรอบปีที่ 56 ก้าวสู่ปีที่ 57 ยังมีพิธีมอบเกียรติบัตรและเข็มวิริยะ อุทิศ แก่พนักงานที่ปฏิบัติงานครบ 30, 25, 15 ปี รวมถึงมอบรางวัลแก่พนักงาน และผู้ช่วยปฏิบัติงานที่มีผลงานดีเด่น ประจำปี 2563 มอบโล่เกียรติคุณแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม และองค์กร

ขณะเดียวกันผู้บริหาร กกท.ได้มีการรับมอบอุปกรณ์กีฬา และเงินบริจาคให้กับ โรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก และ มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.)

นับเป็นการเดินหน้าสู่ปีที่ 57 ของ กกท. ที่พร้อมจะสร้างความสำเร็จให้กับวงการกีฬาไทยในเวทีโลก

รวมถึงร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทยไปพร้อมๆ กัน…

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image