การรอคอยเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ของคนไทยตลอด 4 ปีที่ผ่านมาได้สิ้นสุดลงไปแล้ว ตั้งแต่ที่ แก้ว พงษ์ประยูร นักชกไทยพลาดแชมป์ในลอนดอนเกมส์แบบค้านสายตา ทำให้หลายคนตั้งหน้าตั้งตารอรีโอเกมส์ให้มาถึงไวๆ
“แนน” โสภิตา ธนสาร จอมพลังสาวจากชุมพร ทำให้การรอคอยหลายๆ เรื่องจบลงในวันนี้ เรื่องแรกก็เหรียญทองโอลิมปิกนั่นเอง ส่วนอีกเรื่องคือ ยกน้ำหนักรุ่น 48 กก.หญิงไทย
เหมือนโดนคำสาป ทั้งๆ ที่มีจอมพลังดีๆ อยู่หลายคนในหลายยุค แต่กลับไม่เคยได้เหรียญทองสักที
อารีย์ วิรัฐถาวร เคยเข้าใกล้เหรียญทองในรุ่นนี้มากกว่าใคร ด้วยการได้เหรียญทองแดงในเอเธนส์เกมส์ปี 2004 ก่อนจะผันตัวมาเป็นโค้ช และพาลูกศิษย์อย่างแนนประสบความสำเร็จในวันนี้ ถัดมาในโอลิมปิกสองหนหลังสุดได้มีการจับจอมพลังสาวสองคนไปลุ้นเหรียญในรุ่นนี้
ปักกิ่งเกมส์ 2008 เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล ได้อันดับ 5 เปรมศิริ บุญพิทักษ์ ไม่มีสถิติ ลอนดอนเกมส์ 2012 พนิดา คำศรี กับ สิริวิมล ประมงคล ลงชิงชัยอีก แต่ก็ไม่มีใครที่ได้เหรียญติดมือ
เหรียญทองเหรียญนี้ทำให้ยกน้ำหนักกลายเป็นกีฬาที่ทำเหรียญทองให้ไทยเทียบเท่ากับมวยที่ 4 เหรียญทอง และมีลุ้นจะแซงได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพราะยังมีตัวความหวังอยู่หลายรุ่น
ยังมีอีกหลายกีฬาความหวังของไทยที่หวังจะสิ้นสุดการรอคอยในโอลิมปิกหนนี้ แบดมินตันที่ฉิวเฉียดจะได้เหรียญมากที่สุดจาก บุญศักดิ์ พลสนะ เมื่อปี 2004 แต่กลับแพ้รอบชิงเหรียญทองแดง มี รัชนก อินทนนท์ ที่เป็นความหวังสูงสุด
เทควันโดที่ยังไม่เคยถึงเหรียญทองก็อาจจะปลดแอกได้ในครั้งนี้จาก พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ รวมทั้งยิงเป้าบินที่ สุธิยา จิวเฉลิมมิตร ผ่านเข้ามาแข่งเป็นสมัยที่ 3 ด้วยการเป็นมือหนึ่งของโลกด้วยก็อาจจะปิดฉากการตั้งหน้าตั้งรอในอีกไม่กี่วันนี้
เพื่อนบ้านอย่างเวียดนามก็หยิบเหรียญทองครั้งแรกในประวัติศาสตร์ได้แล้วเช่นกัน การรอคอย 64 ปีของเมืองลุงโฮสิ้นสุดทันทีเมื่อ หวง ซวน วินห์ นักแม่นปืนวัย 41 ปี ได้เหรียญทองจากรายการปืนสั้นอัดลม 10 เมตรชาย
กัมพูชาที่รอเหรียญรางวัลแรกในประวัติศาสตร์ตัวเองอยู่ก็อาจจะปลดล็อกได้ในครั้งนี้จาก ศร เสี่ยวมี่ นักเทควันโดสาวที่ได้เหรียญทองในเอเชี่ยนเกมส์หนล่าสุดมาแล้ว
โอลิมปิกเพิ่งเริ่มไปแค่ไม่กี่วัน เรื่องสนุกๆ ยังมีให้ติดตามกันอีกเยอะ แต่นักข่าวหลายคนนับถอยหลังรอคอยวันกลับบ้านกันแล้วนี่สิ(ฮา)
