ผู้เขียน | Stivie T |
---|
คอลัมน์ เกรียนเขียนบอล by Stivie T : ประตูแรกสำคัญ!
หลังจากเบรกให้กับทีมชาติไปราวๆ 2 สัปดาห์ด้วยกัน (ในช่วงเวลาที่ยังไม่ควรมีทีมชาติเตะด้วยซ้ำ) สุดสัปดาห์นี้ก็จะกลับเข้ามาสู่บรรยากาศของฟุตบอลลีกอีกหน
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับทีมที่ไม่มีนักเตะบาดเจ็บหรือติดโควิด-19 กลับมาจากทีมชาติ เพราะมันน้อยมากๆ ที่จะไม่มีทีมใดได้รับผลกระทบจากเกมทีมชาติครั้งนี้
ว่ากันถึงสุดสัปดาห์นี้ สปอร์ตไลท์คงจะต้องจับไปอยู่ที่เกมที่แอนฟิลด์ ซึ่งแชมป์เก่าอย่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังนำเป็นจ่าฝูงในตารางเวลานี้
หงส์แดงนั้นต้องบอกว่าสภาพลำบากมากๆ ถูกกล่าวขานว่าเป็นทีม “กองหลังโคม่า กองหน้าโควิด!” ก็เพราะไปทีมชาติหนนี้ พวกเขาต้องเสียกำลังหลักในแดนหลังไปอีกรายก็คือ โจ โกเมซ ที่ต้องผ่าเข่า พักตลอดทั้งฤดูกาลตามลูกพี่อย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ไป
เมื่อบวกกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่บาดเจ็บก่อนเบรกทีมชาติ ต้องพักเดือนหนึ่งเป็นอย่างน้อย ทำให้เหลือแค่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน คนเดียวที่เป็นตัวหลัก (ซึ่งเสียวแว้บๆ ว่าจะเจ็บมาจากทีมชาติ แต่สุดท้ายก็รอดกลับมาปลอดภัยดี)
ลิเวอร์พูลเหลือ 11 เกมก่อนถึงปีใหม่ กว่าที่พวกเขาจะซื้อแนวรับใหม่มาเสริมได้ คงต้องภาวนาให้ โจเอล มาติป กับ ฟาบินโญ่ ไม่เดี้ยงไปพร้อมๆ กันอีก ไม่งั้นดูไม่จืดแน่ๆ
แถมกองหน้าพวกเขายังต้องเสีย โม ซาลาห์ ที่กลับไปเล่นให้ทีมชาติอียิปต์ แล้วตรวจพบโควิด-19 จนถึงวันนี้ผลตรวจยังไม่เป็นลบ ทำให้ยังกลับมาอังกฤษไม่ได้ คาดว่าจะพลาดยาวจนไปถึงเกมกับ ไบรท์ตัน ในสัปดาห์หน้าเลยทีเดียว
ฝั่งผู้มาเยือนอย่างเลสเตอร์เอง ก็เกือบจะต้องเสีย แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ไป จากจังหวะปะทะในเกมทีมชาติ แต่สุดท้ายลูกชายยักษ์เดนส์ ก็ฟื้นตัวได้ไว้ และน่าจะพร้อมลงเฝ้าเสาได้ในเกมนี้ แต่จิ้งจอกสยามก็ขาดแนวรับตัวหลัก ทั้งธิโมธี คาสตานเญ่ รวมถึง คักลาร์ โซยุนชู ที่บาดเจ็บอยู่
อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วถือว่าจิ้งจอกสยามสมบูรณ์กว่าเจ้าถิ่นพอสมควร แถมยังอยู่ในช่วงที่หึกเหิม ฤดูกาลนี้เคยบุกไปถล่ม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงบ้านมาแล้วด้วย
ครั้งสุดท้ายที่เลสเตอร์บุกมาเอาชนะลิเวอร์พูลได้ ต้องย้อนไปปี 2000 ซึ่งบุกมาชนะได้ 2-0 จากประตูของ โทนี่ คอตตี้ กับ ฟิล กิลคริสต์
ฤดูกาลนี้หงส์แดงเล่นในบ้านมา 4 นัด ชนะแบบเฉือนๆ โดนยิงนำก่อนตลอด ซึ่งการเจอกับเลสเตอร์ คงไม่ง่ายเหมือนที่พลิกมาชนะ อาร์เซน่อล-เชฟฯ ยูไนเต็ด หรือเวสต์แฮม แน่ๆ
ดังนั้นบอลเกมบุกของทั้งสองทีมมาเจอกัน ใครยิงนำก่อนได้ มีโอกาสสูงทีเดียว