หลังจากทีมมวยเสื้อกล้ามชาย 3 คน พลาดท่าตกรอบมวยสากลในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2016 กันไปก่อนหน้า ความหวังทั้งหมดของทีมกำปั้นไทยก็มาตกอยู่ที่ “แสบ” เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม นักชกหญิงหนึ่งเดียวของทัพไทยในรุ่น 51 กก. หญิง ซึ่งต้องการชัยชนะในการประเดิมเวทีเพื่อการันตีเหรียญทองแดง
ที่สุดแล้ว หมัดสาวจากกำแพงเพชรวัย 33 ปี ก็ไม่อาจฝ่าด่านหินของนักชกจากโคลอมเบียไปได้ พ่ายแพ้ไป 0-3 เสียง ตกรอบ 8 คนสุดท้าย ทำให้ทีมหมัดไทยปิดฉาก “รีโอเกมส์” โดยปราศจากเหรียญรางวัล
กระนั้น การขึ้นเวทีของเจ้าแสบในครั้งนี้ก็ถือเป็นการบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาไทย ในฐานะนักมวยหญิงคนแรกที่ได้ไปร่วมแข่งขันเวทีระดับโอลิมปิกเกมส์ เนื่องจากตอนที่กีฬามวยสากลหญิงได้รับการบรรจุเข้าโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ยังไม่มีนักมวยหญิงไทยคนไหนได้ไป
สำหรับเปี่ยมวิไล เป็นเจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ 4 สมัย, เหรียญทองเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ที่เวียดนาม ปี 2009 และเหรียญทองชิงแชมป์เอเชียที่จีน ปี 2015
แต่ผลงานที่โดดเด่นที่สุดของเจ้าแสบย่อมไม่พ้นการคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์จากการแข่งขันมวยสากลหญิงชิงแชมป์โลก 2016 ที่ประเทศคาซัคสถานเมื่อเดือนพฤษภาคม ซึ่งนักชกกำแพงเพชรรายนี้ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ รุ่น 51 กก. ก่อนพ่ายให้ นิโกล่า อดัมส์ เต็งหนึ่งและแชมป์โอลิมปิกจากสหราชอาณาจักรฉิวเฉียด 1-2 ได้เหรียญเงินมาครอง
สำหรับเวทีรีโอเกมส์ครั้งนี้ เจ้าแสบยอมรับทั้งน้ำตาว่า ต่อยไม่ดีและรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ดีพอสำหรับรายการระดับนี้ และจะขอทบทวนเรื่องอนาคตหลังกลับถึงไทย
แต่ไม่ว่าเส้นทางต่อจากนี้ของเจ้าแสบจะเป็นอย่างไร เธอก็ได้ชื่อว่าเป็นก้าวแรกของกำปั้นหญิงไทยในเวทีโอลิมปิกเกมส์แล้ว
