คอลัมน์ Hotline จากรีโอ : ทะลุเป้าแบบล้มเหลว

ก่อนมาแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ มีการคาดการณ์ถึงความหวังเหรียญรางวัลที่นักกีฬาไทยจะได้ โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าเราจะทวงเหรียญทองกลับมาได้หรือไม่ เนื่องจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่ลอนดอนเกมส์ ประเทศอังกฤษ ทัพไทยทำได้ดีที่สุดแค่ 2 เหรียญเงินจาก แก้ว พงษ์ประยูร นักชกร่างเล็ก และ “แต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว จอมพลังสาว รวมทั้ง 1 เหรียญทองแดงจาก “เล็ก” ชนาธิป ซ้อนขำ นักเทควันโดชาวพัทลุง

คีย์แมนกีฬาไทยหลายๆ คนยืนยันว่าในรีโอเกมส์ครั้งนี้ ไทยจะต้องมีเหรียญทองกลับบ้าน แต่ไม่กล้าการันตีว่าเป็นกีฬาไหน ส่วนการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนถึงความหวังเหรียญที่ สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย จัดขึ้นให้สมาคมมาบอกถึงความหวังและความพร้อมก็ไม่มีใครกล้าการันตีเหรียญทอง

แต่ผลงานตอนนี้ที่ได้มา 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดงจากเทควันโดและยกน้ำหนัก ถือว่าสอบผ่านไปได้อย่างสวยงาม กลับบ้านไปมีเรื่องอวดวงการกีฬาประเทศอื่นเขาแล้ว แถมตอนนี้ยังมีลุ้นเหรียญจาก “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟความหวังที่เปิดปีมาด้วยแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ 3 สมัย ก่อนมาบราซิลก็ฟาดแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิตไปอีก ผลงานในรีโอเกมส์วันแรกๆ ก็หรูหราอย่างมาก

ตอนนี้รอลุ้นเหรียญทองจากโปรเมเพียงคนเดียว โอกาสที่จะสร้างประวัติศาสตร์เหรียญรางวัลโอลิมปิกมากที่สุดครั้งใหม่ หรือมากกว่า 3 ทอง 1 เงิน 4 ทองแดง ที่เอเธนส์เกมส์ 2004 ประเทศกรีซก็จะเกิดขึ้นแล้ว เพราะเหรียญรวมอาจจะน้อยกว่า 8 เหรียญ แต่จำนวนเหรียญเงินที่มากขึ้น คือ 2 เหรียญเงิน ก็พอหยวนๆ กับการที่เหรียญทองแดงน้อยลงไปได้

Advertisement

คิดเล่นๆ ว่าถ้ากีฬาความหวังอย่างมวยสากล แบดมินตัน ยิงเป้าบิน พาเหรดกันได้เหรียญรางวัลอย่างที่คาดหวังไว้ โอลิมปิกครั้งนี้จะเป็นโอลิมปิกที่สร้างมาตรฐานใหม่ของกีฬาไทยก็ว่าได้

แต่เมื่อมองในมุมกลับ เหรียญรางวัลกระจุกอยู่ใน 2-3 กีฬาเหมือนเดิม แต่กีฬาอย่างมวยสากลกลับไม่มีผลงาน โปรเมไม่ได้เหรียญอย่างที่คาดไว้ และไม่มีเหรียญใดๆ เพิ่มเลย ถือว่าภาพรวมของกีฬาไทยมีความน่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย

ยิงเป้าบินที่น่าจะถึงรอบชิงเหรียญเป็นอย่างน้อย ทำไม่ได้ แบดมินตันที่หวังถึงเหรียญใดเหรียญหนึ่ง มาไกลสุดแค่รอบแปดคน มวยสากลที่เคยได้เหรียญมาตลอด ไปไม่ถึงไหน

Advertisement

ถึงแม้ว่าเหรียญรางวัลจะดูทะลุเป้า เพราะได้เหรียญทองกลับบ้าน แต่พัฒนาการกีฬาของไทยยังเหมือนเดินไปข้างหน้าสองก้าว เดินถอยหลังก้าวหนึ่ง

4 ปีสำหรับการเตรียมตัวสู่โตเกียว 2020 เป็นเวลาที่มากพอที่จะปรับปรุงของเก่าที่มีให้เป็นของแท้ และสร้างของใหม่มาเป็นความหวังแบบจริงจังเสียที

อย่าต้องให้ความสำเร็จกระจุกตัวแค่กีฬาหน้าเก่าแบบนี้อีกเลย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image