สกู๊ปพิเศษ : ‘ใจฟ้า อคาเดมี’ ศูนย์ฝึกลูกหนังเด็กไทยสู่เวทีโลก
หลังจากที่ ใจฟ้า อคาเดมี จังหวัดลพบุรี ศูนย์ฝึกฟุตบอลอคาเดมีแบบเต็มรูปแบบ ที่มีความสวยงามและทันสมัย สร้างชื่อให้กับประเทศไทยด้วยการได้รับการติดต่อจากสโมสรอาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์, สถาบันเวิลด์อคาเดมี ประเทศอังกฤษ และสโมสรจากประเทศญี่ปุ่น ทำข้อตกลงร่วมกันในการสนับสนุน และเป็นที่ปรึกษา เพื่อพัฒนาให้อคาเดมีแห่งนี้ให้มีมาตรฐานระดับโลก
นับว่าจะเป็นศูนย์ฝึกอคาเดมีอีกแห่งหนึ่งที่จะสร้างนักฟุตบอลไทยให้เจริญก้าวหน้าและพัฒนาไปสู่ทีมชาติไทย รวมถึงจะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ร่วมสานฝันส่งเด็กไทยไปฝึกซ้อมอยู่กับสโมสรชั้นนำในยุโรปและเอเชีย ตามรอยรุ่นพี่อย่าง “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา
ศูนย์ฝึกฟุตบอลใจฟ้า อคาเดมี ได้มีความริเริ่มมาจาก ท่านเจ้าคุณ พระราชวิสุทธิประชานาถ (หลวงพ่ออลงกต) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี ผู้ก่อตั้ง เพราะท่านเจ้าคุณได้เล็งเห็นว่า อยากจะพัฒนาพื้นฐานฟุตบอลเด็กตั้งแต่ช่วงอายุ 8-12 ปี เพื่อปลูกฝังค่านิยมการเล่นกีฬาฟุตบอลของเด็กตั้งแต่เยาว์วัยและสามารถต่อยอดไปเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทยได้ในอนาคต โดยมีวิสัยทัศน์เป็นอคาเดมีสำหรับเด็กที่มีมาตรฐานระดับโลก
ใจฟ้า อคาเดมี่ ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 80 ไร่ ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ภายในศูนย์ฝึกมีสนามฟุตบอลขนาดมาตรฐาน (11 คน) จำนวน 5 สนาม และสนามฟุตบอล (7 คน) จำนวน 3 สนาม มีไฟฟ้าส่องสว่าง 2,000 ลักซ์ ขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ประกอบด้วย อาคารห้องพักนักกีฬา ห้องประชุมทีม ห้องฟิตเนส ห้องพยาบาล และสนามฟุตบอลหญ้าเทียมในร่มจำนวน 1 สนาม
ศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลใจฟ้า อคาเดมีเปิดสอนฟุตบอลเด็กที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 8-12 ปี โดยในปีแรกของศูนย์ฝึกนั้น รับเด็กเข้ามาร่วมฝึกซ้อมจำนวน 60 คน แบ่งเป็นชาย 30 คน หญิง 30 คน จากการค้นหานักกีฬาฟุตบอลที่มีความสามารถภายในจังหวัดและเปิดคัดตัวนักฟุตบอลจากทั่วประเทศ ซึ่งเด็กทั้งหมดทุกคนจะได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายทุกอย่าง จากการเข้าร่วมฝึกซ้อมใจฟ้า อาคาเดมี จากพระราชวิสุทธิประชานาถ
การฝึกซ้อมของอคาเดมีแห่งนี้ จะได้รับการดูแลจากนักฟุตบอลอดีตทีมชาติไทย โดยมี “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล เป็นประธานที่ปรึกษา, มาด๊าด ทองท้วม หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาย, วรสิงห์ โสมาเกตุ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมหญิง ส่วนการฝึกซ้อมของเด็กใจฟ้า อคาเดมีนั้น เด็กๆ ทุกคนจะต้องเก็บตัวฝึกซ้อมและกินอยู่ ที่แคมป์ฝึกซ้อม โดยจะได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านในทุกๆ วันศุกร์ตอนเย็น และกลับมาเข้าฝึกซ้อมอีกครั้งทุกๆ บ่ายวันอาทิตย์ แต่ถ้าสัปดาห์ไหนมีโปรแกรมการแข่งขันก็จะไม่ได้กลับบ้านเลยในสัปดาห์นั้น
ศูนย์ฝึกใจฟ้า อคาเดมี ยังดูแลนักกีฬาเด็กทุกคนในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการศึกษาและสุขภาพ เพราะเด็กทุกคนจะได้รับการสนับสนุนให้เข้าศึกษาที่โรงเรียนกำจรวิทย์ อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนและเรียนภาษาอังกฤษสัปดาห์ละ 5 ชั่วโมง ส่วนเรื่องของอาหารการกินจะได้รับการดูแลจากนักโภชนากรโดยตรง ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้จะได้รับการดูแลจากท่านเจ้าคุณอลงกตเช่นเคย
และไม่มีเพียงแต่กีฬาฟุตบอลเท่านั้นที่ท่านเจ้าคุณอลงกต ให้การสนับสนุน ยังมีกีฬาตะกร้อและกีฬาคนพิการอย่างกีฬาวอลเลย์บอลนั่งที่ได้รับการสนับสนุนอีกด้วย เพราะภายในศูนย์ฝึกอคาเดมีแห่งนี้นั้น ยังมีสนามตะกร้ออีก 5 สนาม และสนามวอลเลย์บอลนั่งอีก 1 สนามและได้รับการดูแลการฝึกซ้อมจากอดีตนักกีฬาทีมชาติอีกด้วย
จะเห็นได้ว่า องค์ประกอบของศูนย์ฝึกอคาเดมีแห่งนี้นั้น นอกจากจะมีสนามที่ได้รับมาตรฐาน การใส่ใจในรายระเอียดและการดูแลที่ยอดเยี่ยมแล้ว ใจฟ้า อคาเดมียังมองไปถึงอนาคตของเด็กไทย ด้วยการมีความคิดที่อยากจะสานฝันส่งเด็กไทยไปร่วมฝึกซ้อมในต่างประเทศ เพื่อหาประสบการณ์และเรียนรู้ทักษะการเล่นฟุตบอลจากทีมฟุตบอลอาชีพระดับโลก เพื่อหวังพัฒนาเด็กไทยให้ก้าวไกลไปสู่ระดับโลก
ซึ่งตอนนี้ใจฟ้า อคาเดมีได้รับความสนใจในการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ สโมสรอาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม, สโมสรอาแซด อัลค์มาร์ ในประเทศเนเธอร์แลนด์, สถาบันเวิลด์อคาเดมี ประเทศอังกฤษ และทีมสโมสรสมัครเล่นจากประเทศญี่ปุ่นในการทำข้อตกลงร่วมกันในการสนับสนุน และเป็นที่ปรึกษา เพื่อพัฒนาให้อคาเดมี โดยมีเป้าหมายที่จะส่งนักเตะเยาวชนของใจฟ้า อคาเดมีที่มีคะแนนความสามารถติดท็อป 5 ของทั้งชายและหญิง ไปร่วมฝึกซ้อมเป็นระยะเวลาเวลา 1 ปี และหลังจากนั้นจะส่งกลับมาอยู่ในสโมสรใหญ่ๆ ในประเทศไทยต่อไป
เป้าหมายอีกอย่างหนึ่งของใจฟ้า อคาเดมี คืดต้องการเปลี่ยนแนวความคิดของนักฟุตบอลไทย ที่หลายๆ คนตั้งเป้าไว้เพียงแค่ทีมชาติไทยเท่านั้น แต่อยากจะให้นักฟุตบอลที่อยู่ในศูนย์ฝึกแห่งนี้ทุกคน ตั้งเป้าให้ไปไกลกว่านี้คือ การได้เล่นฟุตบอลยุโรปหรือลีกใหญ่ๆ ในเอเชีย เพราะถ้าเป้าหมายสูงเพียงใด ความมุ่งมั่น ความอดทน จะมีมากยิ่งขึ้น
“โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล อดีตดาวเตะทีมชาติไทย บอกว่า ถือว่าใจฟ้า อคาเดมี เป็นอคาเดมีที่มีโครงสร้างที่ดีที่สุดในประเทศไทยด้วยซ้ำ เป้าหมายของผม คืออยากเห็นเด็กๆ ในอคาเดมีได้เดินตามเส้นทางของผม สามารถไปเล่นฟุตบอลในลีกญี่ปุ่นได้ เช่นเดียวกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ หรือว่า ธีราทร บุญมาทัน และที่สำคัญที่สุด คือการไปเล่นในยุโรป
การสร้างรากฐานฟุตบอลที่ดีนั้น ต้องบ่มเพาะ ใส่ใจดูแลนักฟุตบอลตั้งแต่เยาว์วัย ด้วยการสอนทักษะฟุตบอลที่ถูกต้อง การดูแลสภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
เพราะถ้าหากเราเปรียบเด็กเหล่านี้เป็นต้นไม้ การดูแลให้ปุ๋ย การใส่ใจรดน้ำต้นไม้ต้นนี้ทุกวัน
อนาคตข้างหน้า ประเทศไทยเราก็จะมีต้นไม้ที่แข็งแกร่ง และออกดอกออกผล อย่างสวยงามแน่นอน…