เมื่อ 4 ปีที่แล้วผู้ชายคนหนึ่งเสียน้ำตาในสังเวียนเวมบลีย์ เพราะไม่สามารถพาชาติตัวเองคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ได้ ต่อมาอีก 2 ปี เขาก็ยังคงร้องไห้ที่ได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถพาทีมเข้าชิงฟุตบอลโลกในบ้านเกิดตัวเองได้
จวบจนปีนี้ เนย์มาร์ ก็ยังคงเสียน้ำตาในสังเวียนลูกหนังอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้สถานการณ์กลับกัน เขากลายเป็นฮีโร่ซัดจุดโทษปิดท้ายในช่วงดวลลูกโทษให้ บราซิล คว้าเหรียญทองฟุตบอลชายครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งถือเป็นเหรียญสำคัญที่คนบราซิลต้องการกว่าเหรียญใด
ช่วงเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ “เซเลเซา” ชุดนี้ทำผลงานได้ไม่ถูกใจแฟนบอล เสมอใน 2 เกมแรกจนเกือบตกรอบอย่างรวดเร็ว ทำให้มีกระแสแฟนบอลต่อว่าอย่างหนัก อีกทั้งยังกดดันเนย์มาร์ ว่าไม่เหมาะสมกับการเป็นกัปตันทีมอีก
ถึงเนย์มาร์จะสามารถลบคำสบประมาท เรียกฟอร์มกลับมาจนคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ แต่เจ้าตัวก็ขอสละตำแหน่งกัปตันทีมชาติ แม้ว่าที่ผ่านมาจะรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากก็ตาม
เราเห็นตัวอย่างจากนักเตะระดับโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ที่ประกาศอำลาทีมชาติก่อนหน้านี้ยังกลับลำมารับใช้ชาติอีกครั้งได้
หวังว่าเนย์มาร์จะลองคิดเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง เพราะชั่วโมงนี้ ไม่มีใครดีกว่าเขาแล้วจริงๆ