เมื่อ”ร่างทรง”ครองเมือง (ลูกหนัง)

ภาพ REUTERS

“อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด” ว่าแล้ววงการฟุตบอลก็มีการพลิกผันเกิดขึ้น แม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตชนิดที่คอบอลทั้งโลกต้องไม่ลืมไปตลอดชีวิต

แต่การพลิกผันที่ว่าก็สำคัญไม่น้อย เพราะตำแหน่งนายใหญ่คนใหม่ทั้ง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) 2 ตำแหน่งสำคัญที่กุมอำนาจลูกหนังไว้มือ กลับเป็นคนที่เหนือความคาดหมายแบบสุดกู่

หลังบรรดากลุ่มขั้วอำนาจผลักดัน “นอมินี” หรือ “ร่างทรง” ของตัวเองไปจนถึงจุดหมาย

26 กุมภาพันธ์ 2016 จากเลขาธิการยูฟ่า และโฆษกซึ่งทำหน้าที่พิธีกรจับสลากฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่แฟนบอลเห็นอยู่บ่อยครั้งอย่าง จานนี่ อินฟานติโน่ มือขวา มิเชล พลาตินี่ อดีตประธานยูฟ่า ชนะการเลือกตั้งประธานฟีฟ่า เหนือเต็ง 1 ชีกซัลมาน บิน อิบราฮิม อัล คาลิฟา ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี)

Advertisement
ภาพ REUTERS
ภาพ REUTERS

14 กันยายน 2016 หรือเพียงครึ่งปีต่อมา สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือองค์กรเดิมที่ประธานฟีฟ่าคนใหม่เคยทำงานอยู่ ได้ผู้นำคนใหม่เป็น อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสโลวีเนีย “ม้ามืด” ที่คราวนี้คนวงการลูกหนังแทบไม่คุ้นหน้าด้วยซ้ำ

หลักฐานในการตอกย้ำความเป็นร่างทรงของเซเฟริน ซึ่งเคยมีอาชีพหลักในการเป็นทนายความวัย 48 ปี ก็คือการขึ้นเป็นหัวเรือใหญ่ลูกหนังบ้านเกิดแค่เมื่อ 5 ปีก่อน

ทว่าเซเฟรินกลายร่างจากม้ามืดด้วยการเป็นเต็ง 1 ในระยะเวลาไม่กี่วัน เหนือ ไมเคิล ฟาน ปราก ประธานสมาคมฟุตบอลเนเธอร์แลนด์ ที่อย่างน้อยคนในวงการก็รู้จักกันในนามรองประธานยูฟ่า

ภาพ REUTERS
ภาพ REUTERS

เนื่องจากเริ่มเป็นที่รู้กันใน “วงใน” ว่า เหล่าประเทศสมาชิกยักษ์ใหญ่ยูฟ่าที่เปรียบเสมือน “แกนนำ” ในการล็อบบี้หาเสียงอย่าง เยอรมนี, ฝรั่งเศส, รัสเซีย และ โปรตุเกส ได้ “จิ้ม” ไปที่ชื่อ “เซเฟริน” แล้ว

เพราะต้องการให้ฝ่ายหลังเป็นตัวขับเคลื่อนเบื้องหน้า ในการการันตีสิทธิฟุตบอลสโมสรยุโรปรายการที่ทำเงินจำนวนมหาศาล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ตั้งแต่ปี 2018 จำนวน 4 ที่นั่งแบบ ตายตัว ให้สโมสรจาก เยอรมนี, อิตาลี, สเปน และ อังกฤษ

จนหลายสื่อดังเชื่อว่า เซเฟรินที่เติบโตมากับอาชีพทนายความทั้งตระกูลรายนี้ จะได้รับการโหวตจาก 55 ชาติสมาชิกยูฟ่าไม่ต่ำกว่า 30 เสียง ปล่อยให้ฟาน ปราก ที่แม้จะเก๋าและมีบทบาทในวงการฟุตบอลทั้งนานและมากกว่า ได้แต่นั่งทำตาปริบๆ เพราะมีผู้สนับสนุนที่แม้จะแหกปากตะโกนอย่างไรก็ไม่มีเสียงอย่าง อังกฤษ ตามด้วย เบลเยียม และ เนเธอร์แลนด์ บ้านเกิดตัวเอง

และแล้วเพียง 2 ชั่วโมงหลังการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ในการประชุมใหญ่วิสามัญที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ทุกอย่างก็เป็นไปตามสคริปต์ที่กลุ่มมหาอำนาจได้เขียนไว้ล่วงหน้า หลังเซเฟรินชนะการโหวตด้วยคะแนนท่วมท้น 42-13 เสียง มากกว่าฟาน ปราก 3 เท่าตัว

ถึงแม้เจ้าตัวจะประกาศชัยชนะในทันทีด้วยการให้คำมั่นสัญญาว่า จะไม่มีการเล่นเกมทางการเมือง หรือพวกใครพวกมันเหมือนในอดีต และสิ่งแรกที่คนในยูฟ่าทุกคนควรคิดถึงควรเป็น “ฟุตบอล” เหนือเรื่องอื่นใดก็ตาม

แต่ดูเหมือนกลุ่มคนที่เป็น “ประธาน” ของ “ประธานยูฟ่า” อีกที จะไม่คิดอย่างนั้น…แน่นอน

ภาพ REUTERS
ภาพ REUTERS
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image