ส่องแคนดิเดตเจ้าของใหม่สิงห์บลูส์ โค้งสุดท้ายก่อนการซื้อขายสโมสร
จากสถานการณ์ รัสเซีย ส่งกำลังทหารรุกราน ยูเครน ทำให้รัฐบาลประเทศอังกฤษตัดสินใจคว่ำบาตร “เสี่ยหมี” โรมัน อับราโมวิช เจ้าของสโมสร “สิงห์บลูส์” เชลซี เนื่องจากมีความสนิทสนมกับ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีประเทศรัสเซีย ทำให้เสี่ยหมีถูกยึดทรัพย์สินส่วนตัว และจำเป็นต้องขายเชลซี ที่เป็นเจ้าของมานานกว่า 19 ปี โดยผ่านตัวกลางอย่าง เดอะ เรน กรุ๊ป ธนาคารพาณิชย์จากสหรัฐอเมริกา ที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับเสี่ยหมี มาเป็นผู้ดูแล และตัวกลางเจรจาในการซื้อขายดีลดังกล่าว
รัฐบาลอังกฤษกำหนดเส้นตายเมื่อวันศุกร์ที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ให้ผู้สนใจเทกโอเวอร์สโมสรเชลซียื่นข้อเสนอแรกกับเดอะ เรน กรุ๊ป ก่อนรัฐบาลพิจารณาคัดเลือกเจ้าของทีมที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งสื่อคาดว่าอาจจะทำการซื้อขายกันได้เร็วที่สุดในปลายเดือนนี้
ช่วงนับถอยหลังสู่การชี้ชะตาสำคัญของเชลซี เราได้รวบรวมรายชื่อมหาเศรษฐีและนักธุรกิจที่แสดงตัวว่าได้ยื่นข้อเสนอซื้อแล้ว หรือตกเป็นข่าวว่าสนใจเทกโอเวอร์สโมสร ดังนี้
ท็อดด์ โบห์ลี่, ฮันส์ยอร์ก ไวส์ และโจนาธาน โกลด์สไตน์
ท็อดด์ โบห์ลี่ นักธุรกิจชาวอเมริกัน, ฮันส์ยอร์ก ไวส์ มหาเศรษฐีชาวสวิส และโจนาธาน โกลด์สไตน์ นักลงทุนและเศรษฐีชาวอังกฤษ ร่วมกันยื่นข้อเสนอซื้อเชลซีที่ราคา 2,500 ล้านปอนด์ (ราว 1 แสนล้านบาท) โดยโบห์ลี่ชูนโยบายบุกเบิกการนำแฟนบอลเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางบริหารสโมสร โดยให้แฟนพันธุ์แท้เชลซีอย่างน้อย 2 คน เข้าไปนั่งเก้าอี้บอร์ดบริหารหากเทกโอเวอร์สำเร็จ โดยสื่อต่างประเทศหลายสำนักยกให้ 3 คนนี้เป็นกลุ่มตัวเต็งในการเทกโอเวอร์เชลซี
วู้ดดี้ จอห์นสัน
อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหราชอาณาจักร และเจ้าของทีม นิวยอร์ก เจ๊ตส์ แห่งวงการอเมริกันฟุตบอล ได้ยื่นข้อเสนอจำนวนกว่า 2,000 ล้านปอนด์ (8.7 หมื่นล้านบาท) เพื่อขอซื้อเชลซี จอห์นสัน มั่นใจว่าจะสามารถเทกโอเวอร์เชลซีได้สำเร็จ เนื่องจากมีคอนเน็กชั่นอย่างกว้างขวางในกรุงลอนดอน แถมยังเชื่อว่าจะสามารถขยายรากฐานของเชลซีในตลาดอเมริกาได้เป็นอย่างดี โดยวู้ดดี้มีความรู้ และประสบการณ์มากมายในอุตสาหกรรมกีฬา แถมยังบริหารทีมเจ๊ตส์ได้ประสบความสำเร็จ
ครอบครัว ริคเก็ตต์ส และเคนเนธ กริฟฟิน
ทอม ริคเก็ตต์ส เจ้าของทีม ชิคาโก คับส์ จากเมเจอร์ลีก เบสบอล ร่วมกับ เคนเนธ กริฟฟิน นักธุรกิจเจ้าของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ โดยยังไม่มีตัวเลขที่แน่ชัดเรื่องข้อเสนอออกมา แต่ครอบครัวริคเก็ตต์สก็มองหาสโมสรที่จะเข้าเทกโอเวอร์ โดยเคยยื่นข้อเสนอซื้อ เอซี มิลาน ยอดทีมดังจาก เซเรียอา อิตาลี เมื่อปี 2018 แต่ก็ล้มเหลว
ซาอุดิ มีเดีย กรุ๊ป
ซาอุดิ มีเดีย กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่แห่งวงการสื่อซาอุดีอาระเบีย นำโดย โมฮัมเหม็ด อัลเคียไรจิ ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของเชลซี มีข่าวว่าจะยื่นข้อเสนอราว 2,700 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท) ซึ่งน่าจะเป็นข้อเสนอที่ยื่นซื้อเชลซีในครั้งนี้มากที่สุด รวมถึงมีแผนที่จะพัฒนาสนามสแตมฟอร์ดบริดจ์ และต่อสัญญาเหล่าผู้เล่นตัวหลักที่ผลงานดีที่กำลังจะหมดสัญญาลงในซัมเมอร์นี้ นอกจากนี้ ซาอุดิ มีเดีย กรุ๊ป ยังมีความตั้งใจที่จะสานการลงทุนกับศูนย์ฝึกค็อบแฮม และทีมฟุตบอลหญิง เหมือนกับที่เสี่ยหมีทำเอาไว้
นอกจากนี้ กลุ่มทุนส่วนตัวของอัลเคียไรจิ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย เหมือนกับ พับลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ กลุ่มทุนของ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน เจ้าของสโมสร นิวคาสเซิล แต่อย่างใด
นิค แคนดี้ และจานลูก้า วิอัลลี่
นิค แคนดี้ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักร เป็นแฟนพันธุ์แท้ของเชลซี และ จานลูก้า วิอัลลี่ อดีตนักเตะ และผู้จัดการทีมของเชลซี ได้จับมือร่วมกันเป็นหุ้นส่วนยื่นข้อเสนอซื้อเชลซี คาดว่าเป็นตัวเลขกว่า 2,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 8.7 หมื่นล้านบาท) แต่ประสบการณ์ในการทำงานด้านบริหารทีมกีฬาค่อนข้างน้อย
เอเทล พาร์ทเนอร์
เอเทล พาร์ทเนอร์ บริษัทพัฒนาด้านการลงทุน มีข่าวจะยื่นข้อเสนอขอซื้อเชลซีในราคา 2,000 ล้านปอนด์ (8.7 หมื่นล้านบาท) และจะทุ่มเม็ดเงินจำนวน 50 ล้านปอนด์ (2.1 พันล้านบาท) เพื่อลดความตึงเครียดทางการเงินของสโมสร โดยจะสนับสนุน โธมัส ทูเคิล อย่างเต็มที่ในการสร้างทีมลุ้นความสำเร็จ และมองถึงการปรับปรุงสนามสแตมฟอร์ดบริดจ์ ต่อจากโครงการที่เสี่ยหมีเคยคิดจะปรับปรุงไว้อีกด้วย
มูห์ซิน เบย์รัก
มูห์ซิน เบย์รัก นักธุรกิจชาวตุรกี ประธานบริษัทก่อสร้าง เอบี กรุ๊ป ที่ครอบครองทรัพย์สินจำนวน 7,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2.5 แสนล้านบาท) เคยออกข่าวว่าได้ติดต่อไปตั้งแต่วันแรกที่ประกาศขายเชลซี โดยหลายสื่อในเกาะอังกฤษอ้างว่าเบย์รักได้ยื่นข้อเสนอไป 2,500 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1 แสนล้านบาท) แต่เจ้าตัวก็ได้ออกมาปฏิเสธภายหลัง โดยบอกไว้ว่าราคาที่ยื่นซื้อต่ำกว่าที่สื่อหลายเจ้าอ้าง
เซอร์ มาร์ติน โบรห์ตัน และลอร์ดเซบาสเตียน โค
เซอร์ มาร์ติน โบรห์ตัน นักธุรกิจชาวอังกฤษ อดีตประธานสโมสรลิเวอร์พูลที่เป็นแฟนเชลซีมาตลอดชีวิต ร่วมมือกับ ลอร์ดเซบาสเตียน โค อดีตนักกรีฑาชื่อดังซึ่งเคยนั่งเก้าอี้ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ “ลอนดอน 2012” ที่เป็นแฟนตัวยงของเชลซี โดยโคจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในบอร์ดบริหารถ้าหากโบรห์ตันปิดดีลซื้อขายครั้งนี้ได้สำเร็จ ปัจจุบันทั้งคู่ได้ทำเรื่องขอการสนับสนุนจาก วอลล์สตรีท บริษัทตัวแทนศิลปิน และ อีโวลูชั่น มีเดีย แคปิตอล ในการจัดหาทุนเพิ่ม
โอ๊คทรี แคปิตอล แมเนจเมนต์
โอ๊คทรี แคปิตอล แมเนจเมนต์ บริษัทสินทรัพย์ระดับโลกของสหรัฐอเมริกา ที่มี ฮาเวิร์ด มาร์ค เป็นหัวเรือใหญ่ โดยโอ๊คทรี แคปิตอล แมเนจเมนต์ยังเป็นเจ้าของทีม ก็อง ใน ลีกเดอ ของฝรั่งเศสอีกด้วย
ทิ้งท้ายคนสุดท้าย แม้จะไม่ใช่ตัวเต็ง แต่ก็สร้างสีสัน และเสียงหัวเราะจากเกรียนได้หลายคน นั่นก็คือ คอนเนอร์ แม็คเกรเกอร์ นักกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ชาวไอริช ดีกรีแชมป์ไลฟ์เวต และแชมป์เฟเธอร์เวตของเวที “ยูเอฟซี” (อัลติเมต ไฟติ้ง แชมเปี้ยนชิพ) ได้โพสต์ข้อความแบบติดตลกบนทวิตเตอร์ส่วนตัวตั้งแต่วันแรกๆ ที่อับราโมวิชประกาศขายทีม ว่าจะทำการยื่นซื้อเชลซีเป็นจำนวนเงิน 3,000 ล้านปอนด์ (1.3 แสนล้านบาท)
ช่วง 1-2 สัปดาห์หลังจากนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์สโมสรเชลซี ซึ่งเชื่อว่าแฟนๆ คงลุ้นระทึกกันไม่น้อยทีเดียว
