พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีแววว่าจะเป็น ปีรถไฟเหาะ หักคะเมนตีลังกา หาความธรรมดาไม่ได้อีกปี ใครจะไปคิดว่า แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะไม่ชนะใครมา 5 นัดติดต่อกัน
ใครจะไปคิดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะโดน เชลซี ยิงกระจุย 4-0
ปีศาจแดง เล่นเกมรับเหนียวแน่นมาก ในนัดบุกไปเสมอ ลิเวอร์พูล เหลือเชื่อนะครับที่ห่างกันแค่ 6 วัน กองหลังชุดเดียวกัน รวมทั้งประตู ดาบิด เด เคอา จะฟอร์มหลุดแบบหมดท่า โดนเชลซียำใหญ่ เสียประตูด้วยลูกง่ายๆ ตัวเองป้องกันไม่ดีทั้ง 4 ประตู
เห็นหน้า โจเซ่ มูรินโญ่ แล้วทำให้คิดได้ว่า คนเป็นผู้จัดการทีมต้องรู้จักเก็บอาการ เก็บอารมณ์ โกรธแค่ไหนก็ห้ามหลุด เพราะทุกการแสดงออกจะถูกฟ้องด้วยกล้องทีวี นัดนี้มูรินโญ่คงอยากจะจระเข้ฟาดหางใส่ลูกทีมรายตัวซะด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็สมควรเพราะเกมรับปีศาจแดงเละตุ้มเป๊ะ ดูไม่จืดจริงๆ
แมนฯ ยู ต้องรีบปรับสภาพกันใหม่ แต่ที่แน่ๆ ยูไนเต็ดแพ้เชลซีแบบนี้ ทำให้แมนฯ ซิตี้ ที่พลาดเสมอเซาแธมป์ตันในบ้านกลายเป็นดูดีขึ้นมาทันที
ทั้งที่ซิตี้เองถือว่าเล่นน่าผิดหวัง โดยเฉพาะครึ่งแรกแทบจะหาความเป็นทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่เจอ
หรือบางที นักเตะตรา เรือใบ อาจจะพยายามโชว์เหนือว่าเป็นทีมของเป๊ป จนลืมไปว่า การจะเป็นทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่านั้น ต้องอาศัยการทำงานหนัก ต้องวิ่ง และทุ่มเทสุดๆ จึงจะเป็นได้ ไม่ใช่มัวแต่แต่เก็บบอล เคาะบอลโชว์ทีมเวิร์กเรื่อยเปื่อยแบบในเกมล่าสุด
ไม่แปลกเลยที่เป๊ปโมโหมาก ปิดห้องอบรมลูกทีมนานถึง 50 นาทีหลังเกม แมนฯ ซิตี้เล่นช้าไป ไม่กดดันคู่แข่ง และไม่ชนะใครรวมทุกถ้วยมา 5 นัดติดต่อกันแล้ว
เรือใบสีฟ้ายังเล่นไม่ได้ตามสเป็กของกุนซือเป๊ป แมนฯ ยูไนเต็ด ผีเข้าผีออก ส่วนทีมอื่นใน 7 อันดับแรกสัปดาห์นี้ มีแค่ เชลซี กับ ลิเวอร์พูล ที่ชนะ อาร์เซน่อล กับ สเปอร์ส เสมอแบบหืดจับด้วยกันทั้งคู่
ผมเชื่อว่าปีนี้ ทีมใหญ่จะได้แชมป์ แต่ก็คงหกคะเมนตีลังกากันอีกหลายรอบ
ดูไม่ออกว่าจะลงเอยอีท่าไหน