‘เคย์ลา แฮร์ริสัน’ ผู้ใช้กาย สู้แผลทางใจ

PHOTO : PFL

‘เคย์ลา แฮร์ริสัน’ ผู้ใช้กาย สู้แผลทางใจ

การถูกล่วงละเมิดทางเพศเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบทางจิตใจมากกว่าทางร่างกาย และหลายๆ ครั้ง ผู้ที่ถูกล่วงละเมิดก็อาจไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติได้ ทำให้ผู้มีชื่อเสียงหลายคนไม่ว่าจะเป็น ปาทริซ เอฟร่า อดีตนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซิโมน ไบลส์ ราชินียิมนาสติกสหรัฐอเมริกา หรือนักต่อสู้ศิลปะแบบผสมผสาน (เอ็มเอ็มเอ) เคย์ลา แฮร์ริสัน ต่างออกมาเปิดเผยประสบการณ์ของตนเอง โดยหวังว่าความพยายามของพวกเขาจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

แฮร์ริสัน เป็นอดีตนักยูโดทีมชาติสหรัฐอเมริกา เคยเป็นแชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย ลอนดอน 2012 และ รีโอ 2016 และแชมป์เอ็มเอ็มเอ 2 สมัย

เธอเป็นหนึ่งในคนแรกๆ ที่ออกมาพูดถึงเรื่องการถูกล่วงละเมิดทางเพศ และได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องของตนเองว่า ช่วงเวลาตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ตกต่ำและย่ำแย่ที่สุดในชีวิต รู้สึกไม่มีความหวัง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องยูโด ตอนนั้นเธอไม่อยากมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ำ

Advertisement

แฮร์ริสัน ถูกล่วงละเมิดทางเพศจากโค้ชยูโดของตัวเอง ซึ่งสุดท้ายเขาก็ถูกจับและรับโทษจำคุก 10 ปี หลังจากสิ้นสุดเรื่องของคดีความ เธอได้รับพื้นที่และเวลาในการเยียวยาจิตใจ รวมทั้งการสนับสนุนจากเพื่อนๆ และครอบครัว จนสามารถเปลี่ยนเหตุการณ์ดังกล่าวให้กลายเป็นพลังในการก้าวต่อไปได้

นักสู้สาวชาวอเมริกันได้ตัดสินใจบรรยายรายละเอียดของเหตุการณ์เกิดขึ้นไว้ในหนังสือชื่อ “ไฟท์ติ้ง แบ็ก” เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ เพราะเธอรู้สึกว่าแค่การสนุกกับสิ่งที่ทำในสังเวียนยังไม่พอ

Advertisement

“ฉันรักการต่อสู้ ความท้ายทายที่จะต้องถูกขังไว้ในกรงกับคู่ต่อสู้ มันทำให้คุณต้องวางแผนและเตรียมใจให้พร้อม ซึ่งฉันชอบมันทั้งหมด แต่มันก็ดูเห็นแก่ตัวมาก เพราะฉันไม่ได้กำลังรักษามะเร็งอยู่ในนั้น ฉันแค่กำลังต่อยหน้าใครซักคนอยู่” อดีตนักยูโดกล่าว

แฮร์ริสันมองว่า การเป็นนักสู้เอ็มเอ็มเอ สร้างพื้นที่และโอกาสที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลก และหากว่าหนังสือของเธอสามารถทำให้ผู้หญิงที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศสามารถลุกขึ้นยืนใหม่ได้ นั่นก็คุ้มค่าแล้วกับทุกสิ่งที่ทำมา

“ฉันจะสู้อีกพันครั้ง ถ้านั่นเปลี่ยนชีวิตของคนอีกพันคนได้” นักสู้สาวกล่าว

Photo : Instagram @JudoKayla

นอกจากความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนโลก อดีตนักยูโดสาวได้กล่าวอีกว่าความรักคืออีกหนึ่งแรงผลักดันที่ทำให้เธอสู้ ความคิดดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2020 หลังจากที่แฮร์ริสันได้สิทธิเลี้ยงลูกบุญธรรมซึ่งเป็นหลานแท้ๆ 2 คนเนื่องจากพ่อเลี้ยงของพวกเธอเสียชีวิต เธอเคยเชื่อว่าการต่อสู้เกิดขึ้นจากความต้องการความรัก เพราะพ่อไม่เคยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเลย ไม่เคยมอบความรักให้ เป็นเพียงคนติดเหล้าที่ทำร้ายแม่ ทำให้เมื่อโตขึ้นเธอจึงโหยหาความรัก และพบว่าหนึ่งในวิธีที่จะได้รับความรักคือการมีความสามารถและประสบความสำเร็จ เป็นแชมป์โอลิมปิก เป็นแชมป์โลกได้

นักสู้หัวใจหินกล่าวทิ้งท้ายว่า “ความคิดของฉันเปลี่ยนไปเมื่อมีลูกเป็นของตัวเอง ตอนนี้มันไม่ใช่การทำไปเพื่อให้คนอื่นรัก แต่กลายเป็นการทำเพราะรักที่จะทำ เพื่อช่วยเหลือผู้คนและทำให้โลกดีขึ้น ฉันเชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีเหตุผล เด็กๆ เหล่านี้ช่วยชีวิตของฉันมากพอๆ กับที่ฉันช่วยชีวิตของพวกเขา”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image