ส่องเส้นทางนักสู้ ‘ชาโด้ สิงห์มาวิน’ กำปั้นสร้างบ้าน พลิกชีวิตด้วยมวยไทย
“ตอนแรกพยายามเก็บอารมณ์ไม่ร้องไห้ พอคนเขาวิ่งมาพูด แม่ได้แล้ว โด้ได้บ้านแล้ว คำว่า ‘บ้าน’ ที่ทำให้แม่ร้องไห้ โด้สร้างบ้านให้แม่ได้แล้ว ก็ปล่อยเลยไม่สนใจแล้ว ไม่อายด้วย มันภูมิใจด้วย เราก็บอกไม่ถูกจากคนที่ไม่เคยมีบ้านมาถึงจุดนี้ได้ ก็ภูมิใจกับลูกเหมือนกัน”
สมยง สีด้วง คุณแม่ของ ชาโด้ สิงห์มาวิน บอกเล่าความรู้สึกในวันที่ลูกชายคว้าเข็มขัดแชมป์เวลเตอร์เวท รุ่น 147 ปอนด์ รายการ ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ (RWS 2022) พร้อมรับเงินรางวัล 1 ล้านบาทมาครองได้สำเร็จ
เช่นเดียวกับนักมวยไทยส่วนใหญ่ที่มาจากครอบครัวยากจน “ชาโด้ สิงห์มาวิน” หรือ “วีรภัทร ปรีชา” ต้องออกไปช่วยแม่สมยงทำงานตั้งแต่เรียนประถม ไม่ว่าจะเป็นงานหนักแค่ไหน ขุดหัวมัน ถางหญ้า หากเปลี่ยนเป็นเงินเข้าบ้านได้เขาก็จะทำ
จุดเปลี่ยนในชีวิตของชาโด้ คือ การได้รู้จักกับ “มวยไทย” เมื่อมีรุ่นพี่ชักชวนให้ไปซ้อมมวยเป็นเพื่อน เขาก็ตามไปโดยไม่กล้าบอกกับแม่ตามตรง จนใกล้จะถึงวันขึ้นชกจึงมาเปิดเผยความจริงกับแม่ว่าจะไปต่อยมวย
ชาโด้เล่าประสบการณ์ว่า “ไฟต์แรกแพ้คะแนน เขาเตะผมแรงมาก แบบที่ว่าหายใจทีก็เจ็บ” ขึ้นเวที 4 ไฟต์แรก แพ้กลับมาทุกครั้ง แม่สมยงน้ำตาไหลด้วยความเป็นห่วง บอกพอเถอะแม่ห่วงโด้ไม่อยากให้เจ็บตัว แต่ด้วยใจนักสู้ ชาโด้ต่อรองว่าหากไฟต์ต่อไปไม่ชนะ เขาจะเลิกชก !
ปรากฏว่า ผลการแข่งขันไฟต์ที่ห้า ชาโด้ชนะน็อกและเริ่มสะกดคำว่า ‘แพ้’ ไม่เป็นมาตั้งแต่นั้น วงการมวยไทยจึงมีโอกาสได้เห็นฝีไม้ลายมือของนักมวยระดับแชมป์คนนี้มาจนทุกวันนี้
จากจุดเริ่มต้นนักชกค่าตัวหลักร้อยบาทในวัย 14 ปี ปัจจุบันชาโด้เป็นนักมวยค่าตัวเรือนแสนที่ผู้ชมรู้จักดีในฐานะนักมวยบู๊อาวุธเตะหนักจาก จ.ตาก ที่สะสมฝีมือการต่อสู้มาอย่างดีเยี่ยมพร้อมต่อกรกับทุกคน
สำคัญที่สุดคือ ความเป็นนักมวยยอดกตัญญู ภาพประทับใจหลังจากที่ชาโด้ได้แชมป์ครั้งแรกบนเวทีราชดำเนินจนถึงวันที่ได้แชมป์ RWS ในเวทีราชดำเนินพื้นที่แห่งประวัติศาสตร์เวทีมวยไทยมาตรฐานแห่งแรกของโลก ยังคงเป็นภาพเดียวกัน นั่นคือ ภาพชาโด้ที่สะพายเข็มขัดแชมป์อยู่กับไหล่ก้มลงกราบเท้าแม่ ขณะที่แม่ก็สวมกอดลูกชายทั้งน้ำตาด้วยความภูมิใจและดีใจกับความสำเร็จของลูก
เป้าหมายในการชกมวยของชาโด้คือ สร้างฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับครอบครัว อยากให้แม่มีชีวิตสุขสบายมากขึ้น เงินรางวัล 1 ล้านบาทจากการเป็นแชมเปี้ยนรายการ RWS 2022 จึงเป็นทุนสำหรับสร้างบ้านของครอบครัวหลังแรกตามที่ตั้งความหวังเอาไว้
“มวยคืออาชีพที่หาเงินเลี้ยงครอบครัวได้ ขอแค่เรามีความตั้งใจ” ชาโด้กล่าว บ้านใหม่หลังนี้คือความภาคภูมิใจของเด็กหนุ่มนักสู้จากเมืองตากที่ผ่านการต่อสู้บนสังเวียนมาอย่างโชกโชน โดยมีแม่ และน้องเป็นกำลังใจสำคัญ
ในด้านของการยกระดับมวยไทยสู่กีฬาอาชีพ ในฐานะซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย กีฬามวยไทยมีโอกาสพัฒนาให้ก้าวสู่ระดับโลกได้เช่นเดียวกับกีฬาประเภทอื่น เริ่มต้นด้วยการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักกีฬา และผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกสอน และทีมงาน
ที่เวทีราชดำเนินพยายามสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อทำให้มวยไทยเป็นกีฬาอาชีพระดับสากล มีการปรับปรุงเวทีราชดำเนินให้มีความทันสมัยเหมาะกับการจัดการแข่งขันกีฬาเช่นเดียวกับสนามกีฬาระดับโลก
สร้างสรรค์การแข่งขันมวยไทยด้วยรายการ RWS ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ ที่ทำให้ผู้ชมสามารถสนุกกับเกมการแข่งขันได้มากขึ้นผ่านกติกาที่เข้าใจง่าย เช่น
1.แข่งขันแบบทัวร์นาเมนต์สะสมคะแนนเพื่อให้ได้คนที่ดีที่สุดเข้าไปชกในรอบลึก ๆ ต่อไป
2.การประกาศผลคะแนนทุกยกเพื่อแสดงถึงความโปร่งใสในการตัดสิน
3.จัดให้นักกีฬามวยไทยหญิงขึ้นชกบนเวทีราชดำเนินเป็นครั้งแรกในรอบ 77 ปี เป็นการยกระดับกีฬามวยไทยสู่ความเป็นสากล
และ 4.สำคัญที่สุดคือ รางวัลสำหรับรายการ RWS 2023 ทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกับเงินรางวัลที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์รวมกว่า 20 ล้านบาท
สร้างแรงจูงใจชั้นดีให้นักกีฬาที่ดีที่สุดในแต่ละรุ่นทั่วโลก อย่างเช่น ชาโด้ ให้ขยันมุ่งมั่นฝึกซ้อม เพื่อจะได้รับผลตอบแทนที่ดีสามารถลืมตาอ้าปากได้จากอาชีพชกมวย
ด้วยวิธีการบริหารจัดการสนามกีฬา และการจัดการแข่งขันกีฬาเช่นนี้ได้สร้างขวัญกำลังใจ และเป็นแรงหนุนให้นักกีฬา รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนมีพลังร่วมกันพัฒนาวงการกีฬามวยไทยให้ก้าวสู่ความเป็นสากล เวทีราชดำเนินยังเป็นโอกาสสำหรับนักกีฬาผู้ที่มีทักษะความสามารถ และความตั้งใจมั่นในการก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี
เรื่องราวของชาโด้คือบทพิสูจน์ชัดว่า อาชีพนักมวยไทย สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวเลี้ยงครอบครัวให้มีความเป็นอยู่ที่ดีได้เช่นเดียวกับนักกีฬาอาชีพประเภทอื่น
