‘พรีเมียร์ลีก’ กับ ‘รัก(ร่วมเพศ)’ ที่เปิดเผยไม่ได้

ภาพจาก Mirror

แม้ว่าสังคมปัจจุบันจะเปิดกว้างเรื่องรสนิยมทางเพศ หรือให้โอกาสเพศทางเลือกมากขึ้น แต่เมื่อเจาะลึกไปในการทำงานในหลายๆ แวดลงแล้ว การเปิดใจรับคนในกลุ่ม LGBT ถือว่ายังค่อนข้างจำกัดอยู่มาก

สำหรับวงการกีฬาก็เข้าข่ายนี้เช่นกัน บางชนิดกีฬาอาจจะเปิดกว้างและอ้าแขนรับนักกีฬาเพศทางเลือกแบบไม่แบ่งแยก อาทิ สเก๊ตน้ำแข็งซึ่งมีนักกีฬาชายเปิดเผยตัวเป็นเกย์คว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ฤดูหนาว “พยองชาง 2018” ที่ผ่านมา หรือฟุตบอลหญิงที่มีนักกีฬาหญิงเผยตัวเป็นเลสเบี้ยนจำนวนมาก อาทิ แอบบี้ วอมบัค ตำนานลูกหนังเมืองมะกันที่แต่งงานกับแฟนสาวไปตั้งแต่ปี 2013 หรือ นาดีล อังแกเรอร์ อดีตกัปตันทีมชาติเยอรมนีซึ่งเปิดตัวว่าเป็นไบเซ็กช่วลตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ในหลายๆ ชนิดกีฬายังมีความยึดมั่นถือมั่นเรื่องค่านิยมเกี่ยวกับเพศค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาชายที่ต้องอาศัยความแข็งแกร่งของร่างกาย เมื่อทั้งคนเล่นและคนดู (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมตะวันตก) ยังยึดถือว่านักกีฬาควรมีความเป็นลูกผู้ชายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล รักบี้ฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล บาสเกตบอล ฯลฯ

บ่อยครั้งจึงมีข่าวว่านักกีฬาหลายคนปกปิดเรื่องรสนิยมทางเพศของตัวเอง กว่าจะยอมเปิดตัวก็หลังจากเลิกเล่นไปแล้ว ส่วนคนที่กล้าหาญเผยตัวตั้งแต่ยังแข่งขันอยู่นั้นมีน้อยแทบนับคนได้ เพราะหวั่นกระแสต่อต้านจากทั้งโค้ช เพื่อนร่วมทีม และแฟนบอล

Advertisement

กรณีโด่งดังที่สุดคือ จัสติน ฟาชานู อดีตแข้งผิวดำค่าตัว 1 ล้านปอนด์คนแรกในประวัติศาสตร์ซึ่งเปิดตัวว่าเป็นเกย์ตั้งแต่ยังเล่นฟุตบอลอาชีพในอังกฤษในยุค 70-90 ปรากฏว่าหลังจากออกมาเผยต่อสาธารณะแล้ว เขาต้องตกเป็นเป้าล้อเลียนของแฟนบอลสารพัดทีม เมื่อทนแรงกดดันไม่ไหวจึงแขวนสตั๊ดและหลบไปใช้ชีวิตเงียบๆ ก่อนจะฆ่าตัวตายในปี 1998

จัสติน ฟาชานู (ภาพ Daily Mail)

หรือนักเตะดังๆ หลายคน แม้จะไม่ได้ออกมายอมรับกับสาธารณะว่าเป็นเกย์ หรือแม้กระทั่งแต่งงานหรือมีแฟนเป็นตัวเป็นตน หากมีข่าวลือเกี่ยวกับการรักร่วมเพศออกมา ก็ไม่พ้นตกเป็นเป้าซุบซิบนินทาหรือล้อเลียนจากแฟนบอลเช่นกัน อาทิ แกรม เลอ โซซ์ และ โซล แคมป์เบลล์ อดีตสองแข้งทีมชาติอังกฤษ

ล่าสุด เดอะ ซัน สื่อดังของเมืองผู้ดี เพิ่งรายงานข่าวสดๆ ร้อนๆ เกี่ยวกับนักเตะนิรนามคนหนึ่งซึ่งมีดีกรีเป็นแข้งทีมชาติและกำลังเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีกปัจจุบัน แอบเก็บงำรสนิยมไบเซ็กช่วลของตัวเองเอาไว้ไม่กล้าบอกสังคม เพราะกลัวว่าอาชีพการงานของตัวเองจะดิ่งลงเหว

Advertisement

เดอะ ซัน สัมภาษณ์อดีตคู่รักชายของแข้งหนุ่มรายนี้ซึ่งทำงานในแวดวงแฟชั่น คู่รักคนดังกล่าวเผยว่า นักเตะรายนี้มีลูกกับผู้หญิงที่คบอยู่ แต่ขณะเดียวกันก็แอบคบตนมาได้ 4 ปีเต็มแล้ว

จากคำบอกเล่าของคู่รักวัย 21 ปี ทั้งคู่พบกันครั้งแรกเมื่อปี 2014 ที่ไนต์คลับแห่งหนึ่ง หลังจากคุยกันถูกคอก็เริ่มแลกเบอร์โทรศัพท์ นัดเจอกันบ่อยขึ้น และพัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นคนรัก ต่อมาในปี 2015 นักเตะคนนี้ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องเป็นเสือผู้หญิงเริ่มคบหากับหญิงสาวรายหนึ่งอย่างจริงจัง ทำให้ฝ่ายคู่รักชายเริ่มห่างๆ ออกมา แต่ฝ่ายนักเตะก็ตามง้อ สานสัมพันธ์กันมาเรื่อยๆ จนถึงปลายปีที่แล้ว ความรู้สึกต่างๆ ก็จางหายจนห่างกันมาแล้ว

คู่รักรายนี้บอกว่า ช่วงที่คบหากันนั้น นักเตะรายนี้ต้องทุกข์ทรมานกับความขัดแย้งในใจเรื่องรสนิยมทางเพศของตัวเอง เพราะรู้สึกผิดที่ต้องโกหกและปิดบังตัวตนที่แท้จริง แต่จะไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะต่อให้สังคมภายนอกเปิดกว้างแล้ว แต่สิ่งแวดล้อมในพรีเมียร์ลีกทำให้นักเตะที่เป็นเกย์หรือไบอยู่ยากมากๆ เมื่อใดก็ตามที่เผยตัวออกมา เขาก็เสี่ยงจะต้องโดนล้อเลียนหรือด่าทอรุนแรงจากสังคมลูกหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่้งในยุคปัจจุบันที่สื่อโซเชียลกลายเป็นอาวุธชั้นดีสำหรับผู้ประสงค์ร้าย

ที่เขาห่วงฟีดแบ๊กทางลบส่วนใหญ่จะเน้นที่แฟนบอลเป็นหลัก เพราะอันที่จริงแข้งรายนี้ก็เปิดใจเรื่องเป็นไบกับเพื่อนนักเตะในวงการหลายคน ทุกคนต่างให้การสนับสนุนเขาเป็นอย่างดี แต่ก็รู้ดีว่าแฟนบอลส่วนหนึ่งยังไม่ยอมรับเรื่องนี้ และพร้อมใจกันปกปิดให้เพื่อนเช่นกัน

ในท้ายที่สุด เมื่อผู้สื่อข่าวถามอดีตคนรักเกย์รายนี้ว่า คิดว่านักเตะคนนั้นจะเผยตัวว่าเป็นไบเซ็กช่วลหรือไม่ เขาตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าตอนนี้ไม่มีนักเตะเป็นเกย์แบบเปิดเผยในพรีเมียร์ลีกเลยสักคน สะท้อนได้ชัดว่าวงการนี้ยังห่างไกลจากเรื่องพวกนี้อยู่มาก เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับชาวรักร่วมเพศและไบเซ็กช่วลในวงการฟุตบอลจริงๆ ครับ”

และท่ามกลางความสนุกสนานของกีฬายอดนิยมอันดับ 1 ของโลก ประเด็นเรื่องเพศที่ 3 ก็ยังคงอยู่ในแดนสนธยา และไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นกว่าสมัยก่อนแต่อย่างใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image