เคาต์ดาวน์ ทู ‘รัสเซีย 2018’ : มโนขั้นเทพ! เมื่อเกม ‘ฟีฟ่า 18’ ทำนายผลบอลโลก!

ภาพจาก EA Sports

เวลาถึงการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ๆ อย่าง ฟุตบอลโลก หรือ ยูโร ทีไร สิ่งหนึ่งที่ต้องตีคู่มากับเกมการแข่งขันในสนาม หรือสีสันกองเชียร์นอกสนามแล้ว คงไม่พ้นการ “ทำนาย” ผลแข่งซึ่งสุดแล้วแต่ว่าสำนักไหนหรือใครจะมีกลวิธีในการวิเคราะห์หรือคาดเดาข้อมูลอย่างไร

เรื่องสัตว์พยากรณ์นั้น เดี๋ยวใกล้ๆ ทัวร์นาเมนต์จะเปิดฉากคงมีมาให้ได้ติดตามกัน แต่วันนี้ขอประเดิมด้วยการจำลองการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2018 ผ่านเกมดัง ฟีฟ่า 18 ของค่าย อีเอ สปอร์ตส์ กันก่อน โดยทางทีมงานยึดเรตติ้งนักเตะอัพเดทล่าสุดให้ลงสนามในแมตช์ซิมูเลชั่นแต่ละนัดแต่ละรอบ

งานนี้มีผลแข่งละเอียดยิบตั้งแต่รอบแรกยันรอบชิงชนะเลิศ แม้แต่รางวัลส่วนบุคคลในตำแหน่งต่างๆ

ภาพจาก EA Sports

ใครจะเป็นแชมป์ ใครจะตกรอบบ้าง ลองไปดูกัน…

Advertisement

รอบแบ่งกลุ่ม
ไม่ค่อยมีเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นสักเท่าไรนัก โดยในกลุ่มเอ รัสเซีย เจ้าภาพ เอาตัวรอดจาก อียิปต์ ที่เข็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกตัวเก่งลงสนามหลังประสบปัญหาบาดเจ็บ และผ่านเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มตามหลัง อุรุกวัย ไปได้

ขณะที่กลุ่มดีมีดราม่าเล็กๆ เมื่อ อาร์เจนตินา รองแชมป์โลกครั้งที่แล้วเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม เป็นรอง โครเอเชีย แต่ผลแข่งที่เหลือเชื่อที่สุดในรอบแบ่งกลุ่มต้องยกให้กลุ่มเอฟซึ่ง สวีเดน กับ เม็กซิโก แข่งจบ 3 นัด มี 4 แต้ม และผลต่างประตู -1 เท่ากัน แต่ทีมไวกิ้งเบียดเข้ารอบเนื่องจากยิงประตูได้มากกว่า 1 ลูก

รอบ 16 ทีมสุดท้าย
รอบน็อกเอาต์รอบแรกมีเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นหลายนัด แต่ส่วนใหญ่บรรดาตัวเต็งจะพาเหรดเข้ารอบ โดย บราซิล ถล่มสวีเดน 4-0 แต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซุป’ตาร์กัปตันทีมชาติ โปรตุเกส เจ้าของแชมป์ยุโรปทีมล่าสุด ต้องอกหักเมื่อพ่ายทีม “จอมโหด” อุรุกวัย ฉิวเฉียด 1-2 ขณะที่ ลิโอเนล เมสซี่ แข้งเทพของทีมฟ้า-ขาวก็ต้องฝันสลายอีกครั้ง เมื่อทีมพ่าย ฝรั่งเศส 0-1

Advertisement

ด้านทีมมหาชน อังกฤษ ก็พบกับชะตากรรมเดิมๆ แพ้ดวลจุดโทษให้ โคลอมเบีย 4-5 จนต้องตกรอบเร็วอีกครั้ง

ภาพจาก EA Sports

รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เส้นทางการกู้ศรัทธาของทีมแซมบ้าหลังพ่ายแพ้ย่อยยับในรอบตัดเชือกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว มาถึงจุดสิ้นสุดแค่เพียงรอบก่อนรองชนะเลิศในปีนี้ เมื่อโดน “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม ในยุคโกลเดน เจนเนอเรชั่น เขี่ยตกรอบด้วยผล 2-0 ขณะที่ทั้งฝรั่งเศสและแชมป์เก่า เยอรมนี เอาชนะอุรุกวัยและโคลอมเบียตามลำดับ ส่วนโครเอเชียพยายามสู้สุดใจ แต่สุดท้ายก็พ่ายให้ สเปน 0-1

รอบรองชนะเลิศ
รอบตัดเชือกบอลโลกที่รัสเซียกลายเป็นการดวลกันระหว่างทีมยักษ์ใหญ่จากยุโรปด้วยกันเอง ปรากฏว่า เบลเยียมที่เต็มไปด้วยแข้งพรสวรรค์ชื่อดังมากมาย ไม่อาจต้านความเขี้ยวของฝรั่งเศสได้ไหว พ่ายไป 1-2

ขณะที่อีกคู่หนึ่ง “อินทรีเหล็ก” โชว์ความแกร่งไล่จิก “กระทิงดุ” 3-1 ผ่านเข้าไปลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 5

รอบชิงชนะเลิศ
เกมการแข่งขันเป็นไปอย่างคู่คี่สูสี ไม่สามารถตัดสินกันได้ในเวลา 90 นาที และถึงจะต่อเวลาแล้ว ต่างฝ่ายต่างก็ทำประตูได้คนละลูก ต้องไปดวลลูกโทษด้วยความลุ้นระทึก และผู้รักษาประตูของทั้ง 2 ทีมต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี แต่สุดท้ายเป็นทีม “ตราไก่” เฉือนชัยไป 4-3 คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ไปครอง

รางวัลรองเท้าทองคำ
ตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของทัวร์นาเมนต์กลายเป็นการครองรางวัลร่วมกันระหว่าง อองตวน กรีซมันน์ ของฝรั่งเศส และ อิสโก้ ของสเปน ซึ่งต่างยิงได้คนละ 5 ประตูเท่ากัน

รางวัลลูกบอลทองคำ
ส่วนรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีย่อมไม่พ้นอองตวน กรีซมันน์ เพราะนอกจากจะเป็นดาวซัลโวแล้วยังพาทีมคว้าแชมป์โลกอีกต่างหาก

ภาพจาก EA Sports

รางวัลถุงมือทองคำ
ถึงสเปนจะสิ้นสุดเส้นทางลุ้นแชมป์แค่รอบรองชนะเลิศ แต่ ดาบิด เด เคอา ยอดนายทวารแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็โชว์ฟอร์มสมราคาเบอร์ 1 ของโลกในปัจจุบันจากผลงานการเซฟลูกสวยๆ หลายครั้งตลอดทัวร์นาเมนต์

รางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยม
แม้ว่าบราซิลจะจอดแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ กาเบรียล เชซุส กองหน้าวัย 21 ปี ก็โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจในรอบแบ่งกลุ่ม จนคว้ารางวัลนี้ไปครอง

เล่นแจกแจงกันซะละเอียดยิบขนาดนี้ ต้องรอดูกันต่อไปว่า งานนี้คอมพิวเตอร์จะทำนายได้ “แม่น” เท่าบรรดาสิงสาราสัตว์พยากรณ์หรือเปล่า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image