เคาต์ดาวน์ ทู ‘รัสเซีย 2018’ : ‘กลุ่มเอ’ จอมโหดเต็ง หมีขาววัดฟาโรห์

ทีมชาติอุรุกวัย

เหลืออีกแค่เพียง 14 วัน หรือว่า 2 สัปดาห์เท่านั้น ฟุตบอลโลก 2018 ที่แฟนๆ รอคอย ก็จะได้ฤกษ์เปิดฉากฟาดแข้งกัน เคาต์ดาวน์ ทู ‘รัสเซีย 2018’ วันนี้จึงจะมาเจาะลึกในแต่ละกลุ่มกันว่าแต่ละทีมเป็นอย่างไร และใครที่มีลุ้นในการผ่านเข้าสู่รอบสองต่อไปได้

เริ่มต้นที่ กลุ่มเอ นำมาโดยเจ้าภาพ “หมีขาว” รัสเซีย ที่ได้โอกาสในการเป็นเจ้าภาพครั้งแรก

พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายมาได้ถึง 11 ครั้ง แต่ผลงานที่ดีที่สุดคือการคว้าอันดับ 4 เมื่อปี 1966 ซึ่งสมัยนั้นยังเป็น สหภาพโซเวียต อยู่ และตั้งแต่ที่แยกตัวออกมาเป็นประเทศรัสเซีย พวกเขาไม่เคยผ่านเข้าสู่รอบสองได้แม้แต่ครั้งเดียว

ทีมรัสเซีย เจ้าภาพ

ผู้เล่นของรัสเซียส่วนใหญ่นั้นยังคงเป็นผู้เล่นที่เล่นอยู่ในประเทศซะเป็นส่วนใหญ่ นำมาโดยกัปตันทีมอย่าง อิกอร์ อคินเฟเยฟ นายทวารวัย 32 ปี ที่รับใช้ทีมชาติมาแล้ว 104 นัด และกองหลังจอมเก๋าอย่าง เซอร์เก อิ๊กนาเซวิช ในวัย 38 ปี ที่น่าจะเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของเขาแล้ว ส่วนแนวรุกคงต้องหวังพึ่ง อลัน ซาโกเยฟ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งในการทำเกม กับดาวรุ่งอย่าง อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ที่ฟอร์มดีในฤดูกาลที่ผ่านมา

Advertisement

นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นที่น่าจับตามองอย่าง อเล็กเซ มิรันชุค กองหน้าวัย 22 ปี ที่ลงเล่นให้กับทีมชาติรัสเซียมา 14 นัด ทำไปได้ 4 ประตู นับตั้งแต่ที่ได้ลงสนามครั้งแรกเมื่อปี 2015

ทีมชาติซาอุดีอาระเบีย

ทีมต่อมาคือตัวแทนจากเอเชียอย่าง “เศรษฐีน้ำมัน” ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่มบี ในการคัดเลือกโซนเอเชีย เหนือกว่า ออสเตรเลีย ด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่า

ซาอุดีอาระเบียเข้าสู่รอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 5 แล้ว โดยผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาคือเมื่อปี 1994 ซึ่งผ่านเข้าสู่รอบสองได้ หลังจากนั้นก็ไม่สามารถผ่านรอบแรกได้เลย

Advertisement

ดาวเด่นของซาอุดีอาระเบียคือ โมฮัมหมัด อัล-ชาห์ละวี กองหน้าวัย 31 ปี ที่ทำไปแล้ว 28 ประตู จากการรับใช้ทีมชาติ 38 นัด และ โอซามา ฮาวซาวี กองหลังกัปตันทีม ที่มีประสบการณ์มากที่สุดในชุดนี้ ผ่านการเล่นทีมชาติมาแล้ว 133 นัดด้วยกัน

อีกหนึ่งทีมสำคัญของกลุ่มนี้คือ “เดอะ ฟาโรห์” อียิปต์ ซึ่งผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี ซึ่งตัวชูโรง ณ เวลานี้ คงไม่ใช่ใครที่ไหน “อียิปต์คิง” โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยอดดาวเตะของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ซึ่งทำไปได้ถึง 71 เปอร์เซนต์ของประตูที่อียิปต์ทำได้ทั้งหมดในรอบคัดเลือก

อย่างไรก็ตาม อียิปต์อาจจะต้องลุ้นสักหน่อย กับอาการบาดเจ็บของดาวเตะวัย 25 ปี ในนัดชิงชนะเลิศของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกที่ผ่านมา ซึ่งทางทีมชาติอียิปต์เชื่อว่าเขาจะหายเจ็บทันเวลาแต่อาจจะพลาดลงสนามบางนัด

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้รับบาดเจ็บก่อนบอลโลกไม่ถึงเดือน

นอกเหนือจากซาลาห์แล้ว นักเตะของอียิปต์รายอื่นๆ ก็ถือว่าเล่นอยู่ในยุโรปเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่มีนักเตะอย่าง โมฮัมเหม็ด เอลเนนี่, รามาดาน โซลบี้ หรือ อาเหม็ด เฮกาซี่

ทีมสุดท้ายของกลุ่มนี้ จัดว่าเป็นทีมยักษ์ใหญ่ที่สุดของกลุ่มก็คือแชมป์เก่า 2 สมัยอย่างทีม “จอมโหด” อุรุกวัย โดยพวกเขาผ่านเข้ามาสู่รอบสุดท้ายด้วยการเป็นอันดับ 2 ของรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ ทว่ามีแต้มตามหลัง “แซมบ้า” บราซิล ถึง 10 แต้มด้วยกัน

ทีมจอมโหดแม้ว่าช่วงหลังอาจจะฟอร์มตกลงไปบ้าง แต่ทีมชุดนี้ก็ยังคงสตาร์หลักๆ ของทีมเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าของบาร์เซโลน่า, เอดินสัน คาวานี่ ดาวยิงปารีส แซงต์แชร์แม็ง หรือ ดีเอโก้ โกดิน กองหลังกัปตันทีมจากแอตเลติโก้ มาดริด

หากให้มองสถานการณ์ของกลุ่มนี้ คงต้องยกให้อุรุกวัยเป็นทีมเต็งที่จะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย เพราะด้วยประสบการณ์ที่เหนือกว่าทุกทีมในกลุ่ม ในขณะที่คู่แข่งร่วมกลุ่มเองก็ไม่หนักหนามาก แม้จะมีเจ้าภาพอย่างรัสเซียก็ตาม

ส่วนอีกทีมที่จะผ่านเข้ารอบไปนั้นอาจจะต้องลุ้นกันระหว่างรัสเซียกับอียิปต์ โดยเฉพาะรายหลังที่อาจจะขึ้นอยู่กับอาการบาดเจ็บของซาลาห์ ถ้าฟิตทัน พวกเขาน่าจะมีภาษีดีกว่าเจ้าภาพเล็กน้อย แต่ถ้าหากไม่มีคงจะเป็นเรื่องยาก ส่วนซาอุดีอาระเบียอาจจะลุ้นเป็นม้ามืดได้

เพียงแต่คงเป็นงานที่ยากพอสมควร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image