เคาต์ดาวน์ ทู ‘รัสเซีย 2018’ : กลุ่มซี ‘ตราไก่’งานเบา-3 ทีมพร้อมชน

เดินทางกันมาจนถึงกลุ่มซีแล้วสำหรับการปรีวิวกลุ่มต่างๆ ใน ฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งกลุ่มนี้นำมาโดยแชมป์โลก 1 สมัยอย่าง?ทีม “ตราไก่” ฝรั่งเศส

ทีมของ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องป์ หลังจากที่พลาดแชมป์ยุโรปในบ้านตัวเองแบบเฉียดฉิว เพราะแพ้ในช่วงต่อเวลาพิเศษให้กับทีมชาติ โปรตุเกส จึงตั้งความหวังกับการมาคว้าแชมป์โลกที่แดนหมีขาวอย่างมาก

ในรอบคัดเลือก พวกเขาต้องเจองานหนัก เพราะต้องประมือกับทั้ง “ไวกิ้ง” สวีเดน และ “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ แต่ผลงาน 10 นัด ทัพตราไก่เก็บชัยชนะ 7 เสมอ 2 และแพ้เพียงเกมเดียว คว้าแชมป์กลุ่มโดยมีแต้มเหนือกว่าอีก 2 ทีมถึง 4 แต้มด้วยกัน

ตราไก่ แกร่งทั้งทีม

แกนหลังของฝรั่งเศสชุดนี้เป็นการใช้ผู้เล่นอายุราวๆ 20 กลางๆ ทั้งสิ้น โดยมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 25 ปี เท่านั้น เป็นการผสานกันของผู้เล่นทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า ซึ่งเราจะเห็นจอมเก๋าอย่าง อูโก้ โยริส นายทวารกัปตันทีม ไปจนถึงตัวหลักอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป๊อกบา และ อองตวน กรีซมันน์ รวมไปถึงดาวรุ่งอย่าง คิเลียง เอ็มบัปเป้ และ อุสมาน เด็มเบเล่ เป็นต้น

Advertisement

มาถึงตัวแทนจากทวีปอเมริกาใต้อย่างทีมชาติ เปรู พวกเขาผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 5 แต่ทว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เข้ามาเล่นนั้นต้องย้อนไปปี 1982 หรือเมื่อ 36 ปีที่แล้วเลยทีเดียว ส่วนผลงานที่ดีที่สุดคือการผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศในปี 1970

ครั้งแรกในรอบ 36 ปีของเปรู

ครั้งนี้เปรูผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายด้วยการเป็นอันดับ 5 ของโซนอเมริกาใต้ ก่อนจะไปเพลย์ออฟกับทีมจากโซนโอเชียเนียอย่าง นิวซีแลนด์ และเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 2-0 ทำให้เปรูกลายเป็นทีมที่ 32 ที่ผ่านเข้ามาเล่นในฟุตบอลโลกหนนี้

ผู้เล่นที่ดังที่สุดของเปรูชุดนี้คงหนีไม่พ้น เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน กองหน้าวัย 33 ปี ของ โลโกโมทีฟ มอสโก ซึ่งเป็นฮีโร่ผู้ทำ 1 ประตู และ 1 แอสซิสต์ ในเกมรอบเพลย์ออฟกับนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ยังมี เอดิสัน ฟลอเรส ปีกวัย 23 ปี ที่ทำไป 5 ประตูในรอบคัดเลือกที่ผ่านมา

Advertisement

ต่อมาคือทีม “โคนม” เดนมาร์ก ยักษ์หลับอีกทีมหนึ่งแห่งยุโรป ได้กลับมาเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายอีกครั้ง หลังจากเมื่อ 4 ปีก่อนที่บราซิลพวกเขาพลาดตั๋วไป โดยนับเป็นครั้งที่ 5 ที่สามารถผ่านเข้าถึงรอบสุดท้ายได้ โดยในรอบคัดเลือก เดนมาร์กเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มอี ก่อนจะเข้าผ่านรอบเพลย์ออฟด้วยการเอาชนะ ไอร์แลนด์ ด้วยสกอร์รวม 2 นัดถล่มทลายถึง 5-1

คริสเตียน อิริกเซ่น จอมทัพเดนมาร์ก

ผลงานที่ดีที่สุดของทีมชาติเดนมาร์กในฟุตบอลโลก คือการผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเมื่อปี 1998 ซึ่งปีนั้นพวกเขาพ่ายให้กับ “แซมบ้า” บราซิล ไปแบบสนุก 2-3

มาในครั้งนี้ทีมโคนมนำมาโดย คริสเตียน อิริกเซ่น เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ที่กดแฮตทริกในเกมเพลย์ออฟกับไอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังมี นิคลาส เบนท์เนอร์ กองหน้าจอมเก๋า รวมไปถึง แคสเปอร์ ชไมเคิล นายทวารจอมหนึบอีกด้วย

ทีมสุดท้ายในกลุ่มนี้คือ “ซอคเกอร์รูส์” ออสเตรเลีย ตัวแทนจากเอเชีย ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายได้เป็นสมัยที่ 5 และเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันนับตั้งแต่ที่ย้ายมาเล่นในรอบคัดเลือกโซนเอเชีย

แต่ทว่าในครั้งนี้พวกเขากลับต้องเหนื่อยถึงการเล่นเพลย์ออฟกับทีมชาติ ซีเรีย เพราะได้เพียงอันดับ 3 ของกลุ่มบี ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับทีมชาติไทย แถมในเกมเพลย์ออฟยังต้องเล่นกันถึงช่วงต่อเวลาพิเศษอีกด้วย

ทิม เคฮิลล์ จอมเก๋าออสซี่

ผู้เล่นของออสเตรเลียชุดนี้ยังคงนำมาโดยจอมเก๋าอย่าง ทิม เคฮิลล์ ที่ตอนนี้อายุปาเข้าไป 38 แล้ว แต่กองกลางรายนี้ยังสามารถทำประตูสำคัญๆ ให้กับทีมได้เสมอ นอกจากนี้ก็ยังมี ไมล์ เยดินัค กัปตันทีม และ แมทธิว ไรอัน นายทวารจอมหนึบจากไบรตัน

สำหรับกลุ่มนี้คงต้องบอกว่าทีมตราไก่เป็นเต็งหนึ่งที่จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ เพียงแต่มีสถิติที่ต้องระวังคือพวกเขาชนะในรอบแบ่งกลุ่มเพียง 3 เกมจาก 12 เกมหลังสุดเท่านั้น ทำให้อาจจะกลายเป็นจุดที่ทำให้ทีมอื่นๆ ในกลุ่มนั้นมีลุ้นได้เช่นกัน

ขณะที่อีก 3 ทีมที่เหลือในกลุ่มไม่ว่าจะเป็นเดนมาร์ก, ออสเตรเลีย หรือว่าเปรู นั้นต่างก็ถือว่ามีลุ้นในการผ่านเข้ารอบด้วยกันทั้งสิ้น

ซึ่งต้องวัดในเกมที่เจอกันว่าใครจะทำได้ดีกว่าใคร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image