เคาต์ดาวน์ ทู ‘รัสเซีย 2018’ : กลุ่มดี ‘ฟ้า-ขาว’งานหนัก-ทุกทีมพร้อมลุ้น

เข้าสู่ครึ่งทางของการปรีวิวกลุ่มต่างๆ ใน ฟุตบอลโลก 2018 หนนี้ ซึ่งเดินทางมาถึงกลุ่มดี เป็นกลุ่มที่ขอยกให้เป็นกลุ่มที่ชุดแข่งสวยที่สุดกลุ่มหนึ่ง (ไม่เชื่อลองย้อนไปดูรีวิว 10 ชุดแข่งได้! ตอน1, ตอน2)

เริ่มต้นที่ทีมแรก น้องใหม่แห่งศึกฟุตบอลโลกหนนี้อย่าง “ยักษ์น้ำแข็ง” ไอซ์แลนด์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นชาติที่มีประชากรในประเทศน้อยที่สุดที่เข้าร่วมเล่นฟุตบอลโลก เพียง 335,000 คนเท่านั้น ทุบสถิติเดิมของ ตรินิแดด แอนด์ โทแบโก ที่ทำไว้เมื่อปี 2006 (1.3 ล้านคน)

ไอซ์แลนด์ทำผลงานช็อกโลกเอาไว้ใน ยูโร 2016 ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ ก่อนจะต่อยอดผลงานด้วยการคว้าแชมป์กลุ่มไอในรอบคัดเลือก มีแต้มเหนือโครเอเชีย รองแชมป์กลุ่มอยู่ 2 คะแนนด้วยกัน

กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน ตัวเก่งไอซ์แลนด์

ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ไฮเมียร์ ฮัลล์กริมส์สัน กุนซือวัย 50 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือใหญ่แต่เพียงผู้เดียวหลังตอนยูโรทำงานร่วมกับ ลาร์ส ลาเกอร์บัค กุนซือชาวสวีดิช และแกนหลักของทีมยังมาจากชุดเมื่อ 2 ปีก่อน นำมาโดย กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน เบอร์ 10 คนสำคัญของทีม, อารอน กุ๊ดมุนด์สัน กัปตันทีม รวมไปถึง อัลเฟรด ฟินโบกาสัน ดาวยิงประจำทีม

Advertisement

ทีมต่อมาเป็นทีมที่อยู่ร่วมกลุ่มเดียวกับไอซ์แลนด์ในรอบคัดเลือกโซนยุโรป ก่อนที่จะดวงสมพงษ์ จับมาเจอกันอีกครั้งในรอบสุดท้าย นั่นก็คือ “ตาหมากรุก” *โครเอเชีย* นั่นเอง

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงอันดับสองในรอบคัดเลือก แต่ก็สามารถเอาชนะ กรีซ ในสกอร์รวม 2 นัดของรอบเพลย์ออฟ 4-1 พาตัวเองเข้าสู่รอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 5 ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม 4 ครั้งที่ผ่านมาของทีมตาหมากรุกนั้น นอกจากครั้งแรกที่เป็นม้ามืด คว้าอันดับ 3 ไปได้แล้ว พวกเขาไม่เคยผ่านรอบแรกได้อีกเลย จึงเป็นงานหนักของ ซลัทโก้ ดาลิช กุนซือใหญ่ที่ต้องฝ่าไปให้ได้

ลูก้า โมดริช แข้งสำคัญตาหมากรุก

ส่วนผู้เล่นชุดนี้ก็นำมาโดย ลูก้า โมดริช จอมทัพของทีมจาก “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด, อีวาน ราคิติช กองกลางของบาร์เซโลน่า และ อีวาน เปริซิช แนวรุกจากอินเตอร์ มิลาน

Advertisement

มาถึงอีกหนึ่งทีมนั่นก็คือ “อินทรีมรกต” ไนจีเรีย ทีมขาประจำของฟุตบอลโลกจากแอฟริกา ซึ่งจาก 7 ครั้งหลังสุด พวกเขาผ่านเข้ามาถึงรอบสุดท้ายได้ถึง 6 ครั้งด้วยกัน พลาดไปเพียงเมื่อปี 2006 เท่านั้น โดยครั้งนี้พวกเขาเป็นแชมป์กลุ่มบีในรอบคัดเลือก

ไนจีเรียมากับชุดแข่งสุดสวย

อินทรีมรกตชุดนี้นำมาโดย เกอร์น็อต รอร์ กุนซือชาวเยอรมันที่เข้ามารับหน้าที่ตั้งแต่ปี 2016 โดยผู้เล่นตัวหลักของไนจีเรียชุดนี้เล่นอยู่ในยุโรปเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น วิลฟรีด เอ็นดิดี้, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ 2 ดาวเตะจาก “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ หรือว่า วิคเตอร์ โมเสส จากเชลซี เป็นต้น และยังมี จอห์น โอบี-มิเกล กัปตันทีมวัย 31 ปี ที่ยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญอยู่

ปิดท้ายกันด้วยแชมป์ 2 สมัยอย่างทีม “ฟ้า-ขาว” อาร์เจนตินา รองแชมป์หนก่อนที่พ่ายให้กับทีมแชมป์อย่าง “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ในรอบชิงชนะเลิศ ช่วงต่อเวลาพิเศษอย่างน่าเสียดาย

อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้กว่าพวกเขาจะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้ ต้องพึ่งพลังของ ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะเบอร์ 1 ของโลก ในการทำแฮตทริกใส่ เอกวาดอร์ ในเกมสุดท้าย ทำให้คว้าอันดับ 3 ของโซน และคว้าโควต้ามาได้สำเร็จ

ลิโอเนล เมสซี่ กับการลุ้นแชมป์โลก

ก่อนจะถึงฟุตบอลโลกหนนี้ทีมฟ้า-ขาว เปลี่ยนกุนซือมาแล้วถึง 3 ราย จนมาตกที่ ฮอร์เก้ ซัมเปาลี กุนซือสัญชาติอาร์เจนไตน์ ซึ่งเคยพาทีมชาติชิลีคว้าแชมป์โคปา อเมริกา มาก่อน

ส่วนผู้เล่นชุดนี้นอกเหนือจากเมสซี่แล้ว ก็ยังมีดาวเตะระดับโลกอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น กอนซาโล่ อิกวาอิน, เซร์คิโอ “กุน” อากูเอโร่ รวมไปถึง เปาโล ดีบาล่า ทำให้เป็นแนวรุกที่น่ากลัวที่สุดทีมหนึ่งในทัวร์นาเมนต์ก็ว่าได้

เอาจริงๆ แล้ว กลุ่มนี้จัดได้ว่าเกือบๆ จะเป็นกรุ๊ปออฟเดธพอๆ กับกลุ่มเอฟของเยอรมนีเลยก็ว่าได้ เพราะแต่ละทีมนั้นถือว่ามีดีพอที่จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้

แม้ว่าอาร์เจนตินาจะมีภาษีดีกว่าทีมอื่นๆ แต่จะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่ทีมเดียว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image