ประกาศตัว 23 คนสุดท้ายกันครบถ้วนเรียบร้อยสำหรับ 32 ชาติที่จะลุยศึก ฟุตบอลโลก 2018 และเพื่อเป็นการโหมโรงก่อนศึกใหญ่ที่กำลังจะมาถึง เราจึงถือโอกาสนำสถิติน่าสนใจจากข้อมูลพื้นฐานของนักเตะทั้ง 736 ชีวิต มาเล่าสู่กันฟังว่า ผู้เล่นคนไหน ของชาติใดที่เป็น “ที่สุด” ในด้านต่างๆ กันบ้าง
หนักที่สุด
เจ้าของสถิตินี้เป็นของ โรมัน ตอร์เรส กองหลังทีมชาติปานามา ซึ่งมีน้ำหนักตัว 99 กก. ส่วนอันดับ 2 ร่วมมี 3 คนคือ อัลมูอายุฟ อับดุลลาห์ ผู้รักษาประตูซาอุดีอาระเบีย, ยานนิค เวสเตการ์ด กองหลังเดนมาร์ก และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กองหลังอังกฤษ ซึ่งต่างชั่งได้ 98 กก.
หัวข้อนี้มีประเด็นฮาเมื่อ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ทำเปิ่นส่งข้อมูลนักเตะผิด ทำให้ แฮร์รี่ เคน กองหน้ากัปตันทีม มีน้ำหนักมากถึง 98 กก. เลยทีเดียว
เบาที่สุด
ตำแหน่งนี้ต้องยกให้ ทาคาชิ อินุอิ กองกลางตัวรุกทีมชาติญี่ปุ่น กับน้ำหนักตัวเพียง 59 กก. ขณะที่ลำดับรองลงมาเป็นคนคุ้นหน้าของแฟนบอลพรีเมียร์ลีกอย่าง เจสซี่ ลินการ์ด กองหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับน้ำหนักตัว 60 กก. เท่านั้น
สูงที่สุด
ยักษ์ใหญ่ที่สูงกว่าใครๆ คือ ลอฟเร่ คาลินิช นายทวารทีมชาติโครเอเชีย เจ้าของส่วนสูงถึง 201 ซม. ตามมาด้วยยานนิค เวสเตการ์ด กองหลังทีมโคนม ที่เตี้ยกว่าคาลินิชเพียงเซนเดียว ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับน้ำหนักตัว 98 กก.ที่ทำให้เจ้าตัวติดอันดับ 2 แข้งหนักที่สุดของทัวร์นาเมนต์นี้
เตี้ยที่สุด
ตำแหน่งนี้จะไม่มีคนยืนเดียวดาย เนื่องจากมีนักเตะถึง 3 รายที่สูงน้อยที่สุดเท่ากัน ได้แก่ อัลเบร์โต้ กวินเตโร่ กองกลางปานามา, อัล เชอร์ฮี ยาห์ยา ของซาอุดีอาระเบีย และ เชอร์ดาน ชากิรี่ แข้งดังชาวสวิส ที่ต่างสูง 165 ซม. เท่ากัน
แก่ที่สุด
งานนี้ไม่มีใครเกิน เอสซาม เอล ฮาดารี่ นายทวารกัปตันทีมชาติอียิปต์ซึ่งอายุปาเข้าไป 45 ปีกับ 4 เดือนแล้ว การร่วมศึกเวิลด์คัพหนแรกของเขาในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะทำให้เอล ฮาดารี่ ทำสถิตินักเตะอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ทำลายสถิติเดิมที่ ฟาริด มอนดรากอน นายทวารโคลอมเบียเคยทำไว้ 43 ปี กับ 3 วันทันที
ส่วนนักเตะที่มีอาวุโสรองจากเอล ฮาดารี่ คือ ราฟาเอล มาร์เกซ ของเม็กซิโก อายุ 39 ปี 3 เดือน และ เซอร์กี อิ๊กนาเชวิช ของรัสเซีย อายุ 38 ปี 10 เดือน
เด็กที่สุด
ได้แก่เจ้าหนู ดาเนียล อาร์ซานี่ กองกลางวัย 19 ปี 5 เดือน ที่ทำสถิติแข้งเวิลด์คัพอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์วงการลูกหนังออสเตรเลีย ตามมาติดๆ ด้วย คีเลียน เอ็มบัปเป้ ดาวรุ่งพุ่งแรงของทีมชาติฝรั่งเศส ที่วันเกิดมาก่อนอาร์ซานี่เพียง 15 วันเท่านั้น
อายุเฉลี่ย
ทีมชาติที่มีอายุเฉลี่ยของ 23 แข้งสูงที่สุดของฟุตบอลโลกหนนี้คือ ปานามา ทีมน้องใหม่ที่เพิ่งได้สิทธิเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ กับอายุเฉลี่ย 29 ปี 236 วัน ตามด้วย คอสตาริกา ตัวแทนจากโซนคอนคาเคฟ ซึ่งอายุเฉลี่ยใกล้เคียงกัน ต่างกันแค่จำนวนวัน
ขณะที่ฝั่งอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ไนจีเรีย 25.9 ปี ตามด้วย ฝรั่งเศส 26 ปี และอังกฤษเป็นทีมเด็กที่สุดอันดับ 3 กับอายุเฉลี่ย 26 ปี 18 วัน ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่ แฮร์รี่ เคน กองหน้าวัย 24 ปีของทีมสิงโตคำราม เป็นกัปตันทีมอายุน้อยที่สุดในเวิลด์คัพคราวนี้
โดยในกลุ่มแข้งเด็กนั้น ปีนี้มีนักเตะวัยทีน หรืออายุไม่ถึง 20 ปีรวม 7 คน ได้แก่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส), เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ (อังกฤษ), อัชราฟ ฮาคิมี (โมร็อกโก), ฟรานซิส อูโซโฮ (ไนจีเรีย), โฮเซ่ หลุยส์ โรดริเกซ (ปานามา), มุสซ่า วากูเอ้ (เซเนกัล) และ ดาเนียล อาร์ซานี่ (ออสเตรเลีย)
ผู้เล่นท้องถิ่น (โฮมเบส)
อังกฤษ เป็นชาติเดียวในฟุตบอลโลกหนนี้ที่ผู้เล่นทั้ง 23 คน ค้าแข้งอยู่ในประเทศตัวเองทั้งหมด โดยทุกคนล้วนแต่เล่นใน พรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของเมืองผู้ดี
ขณะที่เจ้าภาพ รัสเซีย ตามมาเป็นอันดับ 2 มีนักเตะเล่นอยู่ในลีกประเทศตัวเอง 21 คน และ ซาอุดีอาระเบีย ตัวแทนเอเชียเป็นอันดับ 3 มี 20 คน ตามด้วย สเปน และ เยอรมนี ซึ่งมีนักเตะจากลีกในบ้าน 19 และ 15 คนตามลำดับ
ส่วน สวีเดน และ เซเนกัล เป็นเพียง 2 ชาติที่นักเตะทั้ง 23 คนชุดลุยเวิลด์คัพหนนี้ไม่มีใครค้าแข้งในลีกประเทศบ้านเกิดแม้แต่คนเดียว ขณะที่ สวิตเซอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ ไนจีเรีย และ เบลเยียม มีเพียงชาติละคนเท่านั้น
สโมสรต้นสังกัด
แชมป์สโมสรที่ผลิตนักเตะร่วมศึกฟุตบอลโลก 2018 มากที่สุดต้องยกให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุดซึ่งมีนักเตะเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์นี้มากถึง 16 คน ตามมาติดๆ ด้วย 2 ทีมดังแห่งลาลีก้า สเปน รีล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ซึ่งมีผู้เล่นติดทีมชาติเข้าร่วมแข่งขัน 15 และ 14 คนตามลำดับ ขณะที่ ปารีส แซงต์แชร์แมง, ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และ เชลซี ต่างมีตัวแทน 12 คนไปลุยรัสเซียเท่าๆ กัน
ลีกต้นสังกัด
สมกับดีกรีความเป็นลีกลูกหนังยอดนิยมอันดับ 1 ซึ่งมาตรฐานทีมค่อนข้างไล่เลี่ยกันในกลุ่มหัวตาราง ทำให้สโมสรฟุตบอลของอังกฤษมีนักเตะติดทีมชาติลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 มากที่สุดถึง 124 คน นำโด่งเป็นอันดับ 1 ทิ้งห่างลีกสเปนซึ่งมีผู้เล่นในลีกติดเข้ามา 81 คน ขณะที่เยอรมนีมี 67 คน โดยลีกลูกหนังซาอุฯยืดอกได้เต็มที่เพราะมีตัวแทนร่วมโม่แข้งเวิลด์คัพปีนี้มากถึง 30 คน สูงที่สุดเป็นอันดับ 7
ความหลากหลายของนักเตะสารพัดเชื้อชาติในพรีเมียร์ลีกทำให้นอกจากอังกฤษแล้วยังมี เบลเยียม อีกทีมที่นักเตะเกือบทั้งหมดค้าแข้งอยู่ในเมืองผู้ดี ส่วน คอสตาริกา อิหร่าน ปานามา รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย และ อุรุกวัย คือทีมที่ไม่มีนักเตะเล่นอยู่ในอังกฤษเลย
ส่วนที่เซอร์ไพรส์ไม่น้อยคือ ลีกลูกหนังอิตาลีที่มีนักเตะเข้าร่วมแข่งขันจากทีมต่างๆ รวมแล้ว 58 คน สูงที่สุดเป็นอันดับ 4
ทั้งที่ทีม “อัซซูรี่” ดีกรีอดีตแชมป์โลก 4 สมัย ไม่ได้เข้าไปลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปีนี้แต่อย่างใด
