‘บิ๊กต้อม’กำชับโค้งท้ายระวังบาดเจ็บ ชี้ทัพไทยลุ้น15ทองขึ้น-กกท.ตั้งไทยเฮาส์รอ

ความเคลื่อนไหวโค้งสุดท้ายก่อนการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่กรุงจาการ์ตา และเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 18 สิงหาคม-2 กันยายน นั้น

“บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย เปิดเผยว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการแข่งขัน สิ่งที่เป็นกังวลและอย่างจะย้ำเตือนนักกีฬาเอาไว้คือเรื่องของการฝึกซ้อมและอาการบาดเจ็บต่างๆ เพราะว่าหลังจากวันที่ 9 สิงหาคมที่ตนเดินทางไปลงทะเบียนรายชื่อนักกีฬาครั้งสุดท้าย จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว ส่วนเรื่องความพร้อมของเจ้าภาพนั้น ทุกครั้งที่ประชุมกันอินโดนีเซียจะยืนยันว่าพร้อมสำหรับการแข่งขันแล้วเสมอ แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าอินโดนีเซียนั้นมีลูกตุกติกเยอะ เช่นการตัดผู้ตัดสินประจำทีมออก หรือการเพิ่ม-ลดอีเวนต์ต่างๆ และอีกเรื่องที่ต้องเป็นห่วงคือเรื่องของกองเชียร์ที่ค่อนข้างรุนแรง ดังนั้นพยายามไม่ไปนั่งในกลุ่มกองเชียร์ของอินโดนีเซีย หรือไปไหนก็ไปกันหลายๆ คน อย่าเดินทางคนเดียว

นายธนา กล่าวต่อว่า การเตรียมความพร้อมของนักกีฬาไทยนั้นไม่น่าเป็นห่วง เพราะว่าเป็นครั้งที่ทัพนักกีฬาไทยมีโอกาสเตรียมตัวดีมาก หลังจากที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดโอกาสให้เก็บตัวอย่างเต็มที่ถึง 9 เดือน และยังสนับสนุนงบประมาณให้ทุกชนิดกีฬาสามารถส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันได้หมด ทำให้ทัพนักกีฬาไทยครั้งนี้รวมนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ มีถึงกว่า 1,200 คนเลยทีเดียว

นอกจากนี้กกท.ยังสนับสนุนงบประมาณในการเก็บตัวหรือแข่งขันต่างประเทศเพื่อหาประสบการณ์ ทำให้แต่ละชนิดกีฬามีความพร้อมอย่างมาก เชื่อว่าครั้งนี้ไทยจะได้เหรียญทองมากกว่าครั้งที่แล้วที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ที่ทำไว้ 12 เหรียญแน่นอน และเชื่อว่าจะมีมากกว่า 15 เหรียญทองขึ้นไป

Advertisement

ด้าน “รองตูน” นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา กกท. เผยว่า ในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ ทางกกท. ได้เตรียมเรื่องของไทยเฮ้าส์ที่จะไว้ดูแลนักกีฬาเอาไว้แล้ว โดยจะมีศูนย์หลักอยู่ในกรุงจาการ์ตา ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านนักกีฬาเพียง 800 เมตรเท่านั้น ขณะที่ในส่วนของชนิดกีฬาที่แข่งที่เมืองปาเล็มบัง จะใช้วิธีการกระจายทีมวิทยาศาสตร์การกีฬาไปตามชนิดกีฬาต่างๆ แทน เพราะว่ามีจำนวนไม่มาก

“ในเรื่องของการดูแลนั้น หลักๆ จะเป็นการนำเอาวิทยาศาสตร์การกีฬาต่างๆ ทั้งสรีระ กายภาพ และการนวดผ่อนคลายต่างๆ เข้าไปช่วยดูแลนักกีฬาระหว่างการแข่งขัน ขณะที่อาหารก็ได้มีการร่วมมือกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในการจัดอาหารไทยให้กับนักกีฬา เพื่อให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้าน”

รองตูน กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับทีมนักวิทยาศาสตร์การกีฬาของกกท.ที่จะเดินทางไปครั้งนี้มีราวๆ 30 คน ซึ่งจะแบ่งประจำทั้งที่ไทยเฮาส์ เข้าไปยังหมู่บ้านนักก๊ฬา และกระจายไปตามสนามต่างๆ ด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image