“บิ๊กเน” นายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษา สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ภาพรวมของการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศไทย ซึ่งเป็นสนามที่ 15 ของฤดูกาล 2018 “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018” ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นไปตามเป้าหมาย เชื่อว่าทุกคนที่มามีความสุข ตัวเลขแฟนๆ ที่เข้ามาสนามไม่ต่ำกว่า 2 แสนคนใน 3 วัน ต้องขอบคุณชาวบุรีรัมย์และจังหวัดข้างเคียงที่ช่วยกันต้อนรับอย่างดี
บิ๊กเน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามยังคงมีรายละเอียด จุดบกพร่องอีกมาก เพราะเป็นปีแรกของการจัดการแข่งขัน เชื่อว่าปีหน้าจะทำให้สมบูรณ์แบบกว่านี้ และหวังว่าในปีหน้าคนบุรีรัมย์จะต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่มาชมโมโตจีพี 2019 ได้ดียิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงอนาคนหลังจากสัญญา 3 ปี ของโมโตจีพีจบลง มีโอกาสจะขยับไปจัดรถยนต์สูตร 1 หรือเอฟวัน หรือไม่ นายเนวิน กล่าวว่า หลังจากจบ 3 ปี แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตจะเป็นคนให้คำตอบเรื่องนี้เอง แต่ถ้าหากวัดเรื่องความคุ้มค่ากับเรตติ้งคนดู การจัดโมโตจีพีคุ้มกว่า เพราะว่าเอฟวันใช้เงินลิขสิทธิ์ปีละ 1,200 ล้านบาท แต่โมโตจีพีตกประมาณ 400 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งมองว่าจำนวนตัวเลขมันเกินไป ไม่รวมเรื่องการจัดงานต่างๆ ที่ใช้งบรวมๆ ถึง 1,500 ล้านบาท ดังนั้นเงินส่วนนี้น่าจะเอาไปทำประโยชน์อย่างอื่นมากกว่า เพราะต้องรู้ว่าอะไรที่เหมาะหรือไม่เหมาะกับคนไทย
