ตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดย พล.อ.อดุลยเดช อินทะพงษ์ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) พยายามผลักดันแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 ห้ามนักมวยไทยที่มีอายุไม่ถึง 12 ปีขึ้นทำการชกโดยเด็ดขาด ส่วนเด็กที่มีอายุ 15 ปีต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง, หัวหน้าค่าย และขออนุญาตจากคณะกรรมการกีฬามวยเสียก่อน โดยกฎหมายฉบับเดิมระบุไว้ที่ 15 ปี ซึ่งเป็นข้อเสนอจากแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดีนั้น
ประเด็นดังกล่าวทำให้คนวงการมวยไทยไม่พอใจอย่างมากและออกมาต่อต้านอย่างหนัก ถึงขั้นอาจมีการนัดรวมตัวกันเดินถนนเพื่อประท้วงหากมีการเดินหน้าในการแก้กฎหมายดังกล่าว
ล่าสุดผู้สื่อข่าว “มติชน” สอบถามประเด็นดังกล่าวไปยัง “บิ๊กจา” พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิก สนช.อยู่ด้วย โดย พล.ต.จารึกกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่เห็นร่างแก้ไข แต่ทราบว่ามีการผลักดันกันอยู่ แต่ยังไม่ได้บรรจุเข้าในวาระพิจารณา ซึ่งเรื่องนี้เข้าใจเหตุผลของทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายแพทย์เขาทำวิจัยกันมาเป็น 10 ปี ว่าหากเด็กได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองจะทำให้ความเจริญเติบโตไม่ปกติ ซึ่งเราก็ต้องเคารพในแง่ของแพทย์ แต่ขณะเดียวกันก็เข้าใจพวกกลุ่มคนมวยไทย ทั้งค่ายมวย นักมวย ซึ่งต้องมีภาระหาเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ ประเด็นนี้มีการพูดกันมานานแล้ว ทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้อยากเสนอว่าทั้งสองฝ่ายต้องหาทางออกที่ดีร่วมกัน เช่น คุยกันได้ไหมเจอกันครึ่งทาง ให้นักมวยใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายทั้งเฮดการ์ด, สนับศอก, สนับแข้ง ฯลฯ คุยกันให้ลงตัว เข้าใจว่าทางแพทย์ก็น่าจะยอมรับฟังเหตุผลของคนมวย ขณะเดียวกันคนมวยไทยก็ต้องเข้าใจความหวังดีของแพทย์ด้วยเช่นกัน
“การเรียกร้องเป็นสิ่งที่ดี แต่การเกินเลยถึงขั้นจะมาเดินถนนประท้วงกันนั้น ผมไม่เห็นด้วย ผมเสนอให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากันจะดีกว่า” พล.ต.จารึกกล่าว
