สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ทำพิธีจับสลากแบ่งสายการแข่งขัน ฟุตบอลอายุไม่เกิน 19 ปีชิงแชมป์เอเชีย 2016 รอบสุดท้าย ที่จะดวลแข้งระหว่างวันที่ 13-30 ตุลาคมนี้ที่กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน เมื่อช่วงดึกวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย
ผลการจับสลากปรากฏว่า “ช้างศึก” ไทย ต้องเจองานหนักอยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ “เจ้าภาพ” บาห์เรน, “โสมขาว” เกาหลีใต้ และ “เหยี่ยวมรกต” ซาอุดิอาระเบีย ส่วนกลุ่มอื่นมีดังนี้ กลุ่มบี เกาหลีเหนือ, ยูเออี, อิรัก, เวียดนาม / กลุ่มซี กาตาร์, ญี่ปุ่น, เยเมน, อิหร่าน / กลุ่มดี อุซเบกิสถาน, จีน, ออสเตรเลีย, ทาจิกิสถาน โดยทัวร์นาเมนต์นี้จะคัด 4 ทีม เป็นตัวแทนเอเชียไปแข่งขัน “ฟุตบอลอายุไม่เกิน 20 ปีชิงแชมป์โลก 2017” ที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่หากเกาหลีใต้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ จะต้องหาทีมอันดับ 5 ไปแทนเกาหลีใต้ ที่ได้สิทธิฐานะเจ้าภาพอยู่แล้ว
หลังการจับสลาก “โค้ชเฮง” นายวิทยา เลาหกุล อุปนายก ฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า ทีม 19 ปีไทยมีโอกาสลุ้นไปฟุตบอลโลกแน่นอน แต่การเตรียมทีมถือว่าไม่ง่าย นักเตะในระดับ 19 และ 21 ปีเล่นอยู่ในทีมสโมสรอาชีพกันหมดแล้ว ดังนั้นการฝึกซ้อม การเตรียมทีมจะต้องวางแผนให้ดี
“แนวทางที่วางไว้คือการเรียกมาฝึกซ้อมประมาณสัปดาห์ละ 2 ครั้งแล้วปล่อยกลับให้สโมสร รวมถึงต้องเน้นเกมอุ่นเครื่องทั้งในและต่างประเทศ ช่วงเวลา ฟีฟ่าเดย์ ที่ทีมชาติไทยชุดฟุตบอลโลกมีโปรแกรมอุ่นเครื่องทีมอายุไม่เกิน 19 ปีจะต้องได้อุ่นเครื่องด้วยเพื่อเตรียมทีมให้ดีที่สุด” โค้ชเฮงกล่าว
ปธ.เทคนิคลูกหนังไทย กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ฝึกสอนทีมชุดนี้ จะประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 พฤษภาคม ที่จะมีการประชุมร่วมกัน ซึ่งรายชื่อทั้งหมดได้เสนอต่อนายกสมาคมฯ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง หมดแล้ว รวมไปถึงชุดอายุไม่เกิน 16 ปี และชุดไม่เกิน 21 ปี ที่จะต้องเตรียมแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศมาเลเชียในปีหน้า
“โค้ชทุกคนต้องถูกประเมินผลงาน ในฐานะประธานพัฒนาเทคนิคจะต้องมีการตรวจสอบการทำงานของทุกคน หากพบว่าไม่ถูกต้องก็ต้องเรียกมาคุย หากไม่ดำเนินการแก้ไขก็ต้องยกเลิกสัญญาทำงาน เพราะทุกคนที่เข้ามาทำงานจะมีการเซ็นสัญญาและค่าจ้างที่ค่อนข้างสูง แต่ละคนที่นำเสนอต่อนายกสมาคมฯเป็นคนที่ผมเชื่อและมั่นใจในความสามารถ ทั้งนี้โค้ชแต่ละคนจะต้องพิสูจน์ผลงานของตัวเองก่อน หากผลงานดีก็ได้ทำงานต่อไป แต่ถ้าไม่ดีก็ต้องคุยกัน นอกจากโค้ชแล้วยังจะมีการแต่งตั้งทีมงานผู้ฝึกสอนอีกประมาณ 7-8 คนที่จะถูกเลือกเข้ามาทำงานด้วย” โค้ชเฮง กล่าวปิดท้าย
อนึ่งโปรแกรมของนักเตะชุดยู-19 ไทย ประเดิมสนามในวันที่ 13 ตุลาคม พบ เกาหลีใต้, นัดที่สอง 16 ตุลาคม พบ ซาอุดีอาระเบีย และนัดสุดท้าย 19 ตุลาคม พบ บาห์เรน
