“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบเงินรางวัลแก่นักกีฬาทีมชาติไทย ที่ได้เหรียญรางวัลจากการแข่งขันมหกรรมกีฬานานาชาติ 3 รายการ ประกอบด้วย กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18, กีฬาเอเชี่ยนพาราเกมส์ ครั้งที่ 3 และกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 3 โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย( กกท.) นักกีฬาและสต๊าฟโค้ชร่วมงาน ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม
สำหรับเงินรางวัลที่รัฐบาลมอบให้นักกีฬาแบ่งเป็นกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่กรุงจาการ์ตาและเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย ทำผลงานได้ 11 เหรียญทอง 16 เหรียญเงิน และ 46 เหรียญทองแดง รวมเป็นเงิน 268.45 ล้านบาท / กีฬาเอเชี่ยนพาราเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ผลงานได้ 23 เหรียญทอง 33 เหรียญเงิน และ 50 เหรียญทองแดง รวมเป็นเงิน 105.75 ล้านบาท / กีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ผลงานได้ 5 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง รวมเป็นเงิน 27 ล้านบาท รวมทั้ง 3 มหกรรม 401 ล้านบาท
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยินดีอย่างยิ่งได้มีโอกาสมาเป็นประธานในวันนี้ ถือเป็นความสำเร็จอีกครั้งหนึ่งของนักกีฬาไทยที่ทำชื่อเสียง สร้างเกียรติประวัติ นำความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั่วประเทศ ในฐานะรัฐบาล คณะรัฐมนตรี และคนไทยทุกคนขอร่วมแดสงความยินดีกับความสำเร็จ ทุกคนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทุกคนมุ่งมั่นทุ่มเทกำลังกายกำลังใจในการฝึกซ้อมและแข่งขัน แสดงให้เห็นว่าคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
“เหรียญนี้เป็นของท่าน เป็นของครอบครัว ของสมาคมกีฬา รางวัลไม่สำเร็จเท่าไร แต่ทุกคนมีความสุข รางวัลถือเป็นของแถม ขอให้ก้าวหน้าในสิ่งที่ทุกคนต้องการ ไม่ใช่แค่ในเรื่องกีฬา แต่ทุกเรื่องในชีวิต ใครไม่ได้รับเหรียญเพื่อนก็ต้องดูแลอยู่แล้ว น่าจะมีการแบ่งกันบ้าง ก่อนไปก็ให้กำลังใจ กลับมาก็มาร่วมยินดี”
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า กีฬาไม่แพ้ก็ชนะ แต่ขอให้ทุกคนพยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อชัยชนะ เมื่อขึ้นเวทีแล้วต้องลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ลืมปัญหา ลืมเรื่องส่วนตัวทั้งหมด ขอให้กำลังใจในการฝึกซ้อมแข่งขัน พูดแบบนี้เหมือนกันทุกปี แต่อยากเห็นทุกคนพัฒนาให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ทุกคนรู้ดีว่าเต็มที่หรือยัง มีปัญหาอะไรก็ต้องแก้ คนเชียร์มันง่าย ก็เฮกันไป ขอบคุณกองเชียร์และคนไทยทั่วประเทศที่เป็น อยากฝากให้ทุกคนพัฒนาตัวเองในเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา รองนายกฯกำลังขับเคลื่อนเรื่องนี้อยู่ อยากจะบอกว่าทุกคนไม่สามารถเป็นนักกีฬาตลอดไปได้ รัฐบาลกำลังมองไปถึงการพัฒนากีฬาในอนาคต ได้ส่งเรื่องมหาวิทยาลัยกีฬาเข้าไปพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว รวมทั้งอุตสาหกรรมกีฬา และการประกอบธุรกิจทางด้านกีฬา เพื่อให้กีฬามุ่งไปสู่อาชีพที่มั่นคงยั่งยืนไปในวันข้างหน้าได้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ตนแข่งกีฬามา 4 ปีแล้วยังไม่ได้รางวัลเลย เป็นการแข่งขันที่ยากที่สุดในชีวิตแล้ว ทั้งๆ ที่เคยแข่งอะไรมาบ้าง แต่ประเทศมีปัญหามากมาย แก้ปัญหาให้มันดีได้ในระดับหนึ่ง ตอนนี้เหมือนการแข่งกีฬาแห่งชาติ ทำให้ชาติดีขึ้น บ้านเมืองเรามีโอกาสมากมาย มีศักยภาพมากมาย แต่เจอปัญหาทั้งภายในและภายนอก มีแต่กีฬาเท่านั้นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองมากนัก กีฬาเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น
“พรุ่งนี้มีฟุตบอลแข่ง(ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 กับทีมชาติมาเลเซีย) ต้องเชียร์นักกีฬาไทย พรุ่งนี้ต้องชนะลูกเดียว แต่ไม่ได้หมายถึงประตู ยิงกี่ประตูก็คนละเรื่อง คนไทยต้องไปให้กำลังใจที่สนามด้วย แต่อย่าเชียร์มากเกินไปจนลงไปในสนาม และขอให้ทุกคนเชียร์รัฐบาลบ้าง ไม่ต้องเชียร์พรรคการเมือง แต่ให้เชียร์รัฐบาล เพราะตอนนี้โดนติทุกอย่าง” บิ๊กตู่กล่าว
